รีเซต

อัปเดต 12 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ที่เที่ยวแคนาดา ถ่ายรูปสวย ต้อนรับไอหนาว

อัปเดต 12 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ที่เที่ยวแคนาดา ถ่ายรูปสวย ต้อนรับไอหนาว
SummerB
19 กันยายน 2565 ( 17:30 )
6.8K

      เมื่อพูดถึง แคนาดา สิ่งแรกๆ ที่ทุกคนนึกถึงก็คือ ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่เรียกว่าเป็นฤดูไฮไลท์ของที่นี่เลยก็ว่าได้ วันนี้เราเลยจะชวนทุกคนไปอัปเดต 12 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ที่เที่ยวแคนาดา ด้วยกัน เชื่อว่าจะต้องถูกใจคนที่ชอบชมธรรมชาติโทนสีอุ่นๆ ต้อนรับลมหนาวที่กำลังจะเข้ามาถึงอย่างแน่นอน

 

ที่เที่ยวแคนาดา ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

จุดถ่ายรูปสวย

 

1. Niagara Park Way

Ontario

 

 

       น้ำตกไนแองการ่า (Niagara Falls) หนึ่งในน้ำตกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ระหว่างชายแดนรัฐออนตาริโอ (Ontario) แคนาดา และ รัฐนิวยอร์ก (New York) สหรัฐอเมริกา ในบริเวณเดียวกันนั้นจะเป็นที่ตั้งของ Niagara Parkway เส้นทางสายประวัติศาสตร์เลียบ แม่น้ำไนแองการ่า (Niagara River) ที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่ เส้นทางนี้เริ่มต้นตั้งแต่ทางทิศใต้ของน้ำตกยาวไปจนถึง เมืองทะเลสาบไนแรงการ่า (Niagara-on-the-Lake) ที่ตั้งอยู่ตรงทิศเหนือค่ะ ระหว่างทางทุกคนจะได้ดื่มด่ำไปกับสายน้ำสุดอลังการ และใบไม้เปลี่ยนสีสลับกันอย่างสวยงามในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/CF8yU7WsakeAt6q68 

==========

 

2. Agawa Canyon

Ontario

 

 

      นั่งรถไฟบน เส้นทาง Agawa Canyon Tour Train ที่จะเปิดให้ทุกคนได้พบกับประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ตั้งแต่เดือนกันยายน-เดือนตุลาคมของทุกปี ในระยะทาง 366 กิโลเมตร พวกเราจะได้นั่งรถไฟผ่านแม่น้ำ ทะเลสาบ และป่าเขาสลับซับซ้อน รวมถึงใบไม้ที่ผลัดสีไล่เฉดกันอย่างสวยงาม ระหว่างทางจะมีจุดให้พักท่องเที่ยวที่ Agawa Canyon Wilderness Park อุทยานขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเส้นทางศึกษาธรรมชาติ น้ำตก รวมถึง Agawa Canyon ซึ่งเป็นไฮไลท์ของที่นี่ค่ะ

 

Agawa Canyon ที่เที่ยวแคนาดา จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/tFaPZakYE1CcRnu1A 

==========

 

3. Algonquin Provincial Park

Ontario

 

 

      Algonquin Provincial Park ตั้งอยู่ระหว่าง อ่าวจอร์เจียน (Georgian Bay) และ แม่น้ำออตตาวา (Ottawa River) ในรัฐออนตาริโอ จุดชมใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสีในช่วงปลายเดือนกันยายนจึงถึงต้นเดือนตุลาคม และหลังจากนั้นอีกสัก 2-3 สัปดาห์ก็จะเป็นเวลาที่ต้นแอสเพน ต้นทามาแร็ค และต้นโอ๊คแดงจะผลัดสี เผยทิวทัศน์ที่สวยงามไม่แพ้กัน นอกจากจะได้ชมธรรมชาติแล้ว ที่นี่ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น กวางมูซ หมาป่า หมีดำ ตัวนาก จิ้งจอก แรคคูน ซึ่งบ่งบอกได้อีกความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/kxMHCr4QAazYbDhw5 

==========

 

4. Kananaskis

Alberta

 

 

       เทือกเขา Kananaskis ในรัฐอัลเบอต้า (Alberta) เป็นจุดหมายสำหรับคนที่รักการผจญภัยท่ามกลางธรรมชาติ กิจกรรมไฮไลท์ของที่นี่คือการเดินทางผ่านเส้นทางศึกษาธรรมชาติด้วยการเดินเท้าและขี่จักรยาน ผ่านต้นสนที่ตั้งเรียงรายอย่างหนาแน่น และ ทะเลสาบ Wedge Pond ที่มีเทือกเขา Kananaskis ตั้งตระหง่านอยู่ทางด้านหลัง ต่อให้ต้องลุยป่าสักกี่กิโล พอได้เห็นทิวทัศน์สุดอลังการของเทือกเขา Kananaskis ก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/J4jVh6vZr1nzN4C27  

==========

 

5. Montreal Botanical Garden

Quebec

 

 

       สวนพฤกษศาสตร์มอนทรีออล (Montreal Botanical Garden) ถือเป็นเพชรเม็ดงามแห่งเมืองมอนทรีออล (Montreal) รัฐควิเบก ประเทศแคนาดาเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นสวนขนาดใหญ่ในพื้นที่ 450 ไร่ เต็มไปด้วยพืชพันธุ์ไม้ใบ ไม้ดอก และต้นไม้ถึง 22,000 ชนิด แบ่งเป็นโซนต่างๆ กว่า 30 โซน ซึ่งแต่ละโซนก็จะมีคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างกันไป เช่น สวนจีน (Chinese Garden) สวนญี่ปุ่น (Japanese Garden) และ First Nation Garden ที่จะพาให้ทุกคนไปชมพันธุ์ไม้เฉพาะถิ่นสุดแปลกตากว่า 300 ชนิด และแน่นอนว่า เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นสวนพฤกษศาสตร์ระดับโลกแล้ว ต่อให้ไปฤดูไหนก็มีเสน่ห์เฉพาะตัวทั้งนั้น ห้ามพลาดเด็ดขาดเลยค่ะ

 

Richard Cavalleri / Shutterstock.com

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/GkYU8EatQQgYAu3X7 

==========

 

6. Mount Royal

Quebec

 

 

      Mount Royal ภูเขาลูกเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองมอนทรีออล เป็นที่ตั้งของ Mount Royal Park สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่ถึง 692 เอเคอร์ มีไฮไลท์เป็น Beaver Lake, Mount Royal Cross และ Mount Royal Chalet ให้เราได้ชมกัน ส่วนบนเนินเขาจะมีจุดชมวิวที่สามารถชมเมืองมอนทรีออลได้แบบกว้างไกลสุดสายตา โอบล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่นานาชนิด ซึ่งจะสวยสุดๆ ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีค่ะ

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/9JbxUgu4CUqbrg4s9 

==========

 

7. Laurentian Mountain

Quebec

 

 

       เทือกเขา Laurentian (Laurentian Mountains) เป็นเทือกเขาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก อีกทั้งยังขึ้นชื่อในเรื่องของทัศนียภาพที่สวยงามของขุนเขาและสายน้ำ โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนจนถึงกลางเดือนตุลาคม เราจะได้เห็นต้นเมเปิ้ลเปลี่ยนเป็นสีแดง และต้นไม้ชนิดอื่นๆ ที่เปลี่ยนสีสลับซับซ้อนอย่างสวยงามด้วยเช่นกันค่ะ

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/EoW6x9K8gU47qKBJA 

==========

 

8. Parc Omega

Quebec

 

 

       Parc Omega ซาฟารีในเมือง  Notre-Dame-de-Bonsecours รัฐควิเบก เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด เช่น บีเวอร์ แร็คคูน กวางมูส หมาป่า หมาป่าไคโยตี จิ้งจอก หมีกลิซลี่ และอื่นๆ อีกมากมาย บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าผืนนี้ได้เป็นอย่างดี ทางซาฟารีจะมีเส้นทางรถยนต์ระยะ 12 กิโลเมตร ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ขับรถชมวิวสวยๆ ของหุบเขา ผืนป่า และทะเลสาบ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ลานกางเต็นท์ และสนามเด็กเล่น สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากมาตั้งแคมป์เดินป่าด้วยค่ะ

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/xSweHoSqxysavRNd8 

==========

 

9. Butchart Gardens

Victoria

 

 

      Butchart Gardens สวนดอกไม้แสนสวยที่ตั้งอยู่ในเมือง Brentwood ใกล้ๆ กับ เมืองวิคตอเรีย (Victoria) เมืองหลวงของรัฐบริติช โคลัมเบีย (British Columbia) ความพิเศษของสวนแห่งนี้คือจะมีการนำดอกไม้มาปลูกในแต่ละฤดูกาล เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ต้นเมเปิ้ลญี่ปุ่นในสวนสไตล์ญี่ปุ่นจะผลัดใบเป็นสีแดงสด แซมกับดอกเบญจมาศสีเหลืองทองอร่ามได้อย่างลงตัว ตรงกลางสวนจะมีสระน้ำและสะพานญี่ปุ่นทอดข้ามผ่าน เสริมความสุนทรีย์ให้กับสวนแห่งนี้มากยิ่งขึ้น

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/dPFd9ASUirYw6rfc8 

==========

 

10. Stanley Park

Vancouver

 

 

       มาถึง แวนคูเวอร์ (Vancouver) เมืองท่าชื่อดังของประเทศแคนาดา และเป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก นอกจากความเจริญทางด้านการศึกษาและเศรษฐกิจแล้ว ภายในเมืองยังมี Stanley Park สวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในเมือง ด้วยพื้นที่กว่า 1,000 เอเคอร์ จึงทำให้ที่นี่เปรียบเสมือนเป็นป่ากลางเมืองเลยก็ว่าได้ค่ะ เมื่อเข้าสู่ปลายเดือนกันยายน ใบไม้ก็จะค่อยๆ ผลัดสีเป็นสีส้ม สีเหลือง สีแดง ตัดกับอากาศที่ค่อยๆ เย็นลงในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ต่างๆ เช่น กระรอก หงส์ และเจ้าแรคคูนอีกด้วย เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องแปลกใจค่ะถ้าจะจ๊ะเอ๋กับน้องๆ ระหว่างเดินเล่นหรือขี่จักรยานในสวน 

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/AdVVVn6oT1GvHy3R7 

==========

 

11. Cape Breton Island

Nova Scotia

 

 

      Cape Breton Island หนึ่งในเส้นทางที่สวยที่สุดของโลก เหมาะกับสาย road trip ที่ชอบขับรถชมวิวสวยๆ ของภูเขาและท้องทะเล แน่นอนว่าฤดูไฮไลท์ของเส้นทางนี่คือฤดูใบไม้เปลี่ยนสีค่ะ เพราะเราจะได้ชมต้นไม้ที่ผลัดใบเปลี่ยนสีกันอย่างสวยงามกันตลอดทาง นอกจากทัศนียภาพอันงดงามแล้ว พวกเรายังมีโอกาสได้สัมผัสวัฒนธรรม Celtic ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของคนในแถบนี้อีกด้วย ถือเป็นเมืองที่มีเสน่ห์มากๆ แห่งหนึ่งในแคนาดาเลยล่ะ

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/xkJbD5yRkGG5RYrL8 

==========

 

12. Trinity Bay

Newfoundland

 

 

      Trinity Bay อ่าวขนาดใหญ่ทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของ นิวฟันด์แลนด์ (Newfoundland) ซึ่งบนเกาะจะเป็นที่ตั้งของ เมืองเซนต์จอห์น (St. John's) เมืองหลวงของรัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ (Newfoundland and Labrador) ที่เป็นเมืองท่าตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1600 เป็นต้นมา โดดเด่นด้วยอาคารบ้านเรือนสีสันสดใสริมชายฝั่ง ฤดูไฮไลท์ของที่นี่คือ ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เพราะนอกจากจะมีทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว ยังเป็นช่วงเวลาของเทศกาล Harvest Festival ที่จะมีตลาดของชาวไร่ชาวสวนมาเปิดขายของกันอย่างคึกคัก พร้อมทั้งอาหาร และไวน์ให้ชิมอย่างหลากหลาย แถมยังมีดนตรีสดให้เราได้ฟังเพลินๆ ด้วย

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/UVijGgXiEdyDqkEU9