สนามหลวง เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่อยู่คู่กรุงเทพมหานครมาอย่างยาวนาน ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยเรื่องราว ความสำคัญ และกิจกรรมที่น่าสนใจอื่นๆอีกมากมาย ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัยให้มาเยี่ยมชม โดยเฉพาะเด็กวัยรุ่นที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่ให้ทั้งความสนุก ความรู้ และความเป็นสิริมงคล จึงทำให้สนามหลวงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่วัยรุ่นไทยไม่ควรพลาด ในช่วงที่ผ่านมา สนามหลวง มีการจัดกิจกรรมสำคัญทางพระพุทธศาสนา คือกิจกรรม อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากประเทศศรีลังกา มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว รวมทั้งสิ้น 73 วัน เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้มากราบไหว้สักการะบูชา กิจกรรมนี้ได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่เดินทางมาสักการะพระเขี้ยวแก้ว เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับตนเองและครอบครัว หลายๆคนมีความเชื่อว่า พระเขี้ยวแก้วที่อัญเชิญมานั้น คือพระเขี้ยวแก้ว 1 ใน 2 องค์ที่มีอยู่บนโลกมนุษย์ ตามความเชื่อดังกล่าว พระเขี้ยวแก้วถือเป็นสิ่งที่ควรเคารพบูชาแทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หากได้มากราบไหว้ จะเปรียบเสมือนได้กราบแทบเบื้องพระยุคลบาทขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อแวะเวียนผ่าน เราไปร่วมกิจกรรมในช่วงค่ำ ซึ่งพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ประดิษฐาน ณ บริเวณท้องสนามหลวง สามารถเข้าสักการะได้ตั้งแต่เวลา 07.00 – 20.00 ตลอดระยะเวลากิจกรรม เพียงแค่แสดงบัตรประชาชน ใบขับขี่ หรือพาสปอร์ตต่อเจ้าหน้าที่ที่ประตูคัดกรองทางเข้า หากไม่ได้นำบัตรมา เจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้เข้าชม ทั้งนี้ยังมีบริการรถวีลแชร์ โดยสามาถนำบัตรประชาชนมาแลก เพียงแต่ไม่มีบริการเข็นให้ ต้องเข็นด้วยตนเอง ภายในสนามหลวง จะมีจุดบริการดอกบัวพร้อมกับบทสวดมนต์บูชาพระเขี้ยวแก้ววางอยู่ด้านข้าง โดยจัดไว้ให้สำหรับประชาชนทุกคน 1 ดอกบัวและบทสวด ต่อ 1 ท่าน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เนื่องจากมีการแจ้งไว้ ว่างดการนำดอกไม้ พวงมาลัย หรือพานบายศรีมาเองเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายและสกปรกแก่พื้นที่ โดยสามารถนำดอกบัวที่จัดเตรียมไว้ให้ เข้าไปถวาย เดินสวดมนต์ หรือเดินเวียนเทียน แล้วนำไปวางไว้บริเวณจุดวางดอกบัวโดยรอบได้ โดยไม่ต้องไปรอวางด้านข้างจุดแรกเพียงจุดเดียว บริเวณโดยรอบ มีการตกแต่งด้วยดอกไม้นานาพรรณ เป็นแนวยาว เด่นตระการตาเมื่อย่างเข้ามาภายในท้องสนามหลวง นอกจากนี้ยังมีจุดถ่ายรูปต่างๆอีกมากมายให้เดินชม บริเวณท้องสนามหลวงยังมีการประดับตกแต่งด้วยไฟหลากสีที่ถูกตัดแต่งเป็นรูปทรงต่างๆอย่างสวยงาม โดยพื้นที่ที่จัดแสดง จะอยู่บริเวณด้านหลังหอประดิษฐาน และในช่วงเย็นจะมีไฟแสดงให้เห็นสีสันสดใสงดงามของไฟประดับ ผู้คนต่างมาถ่ายรูปที่ระลึก และเดินชมความสวยงามของไฟพร้อมวิววัดพระแก้วด้านหลัง ในกิจกรรม ยังมีการจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ในช่วงเวลา 10.00-12.00 น. และเวลา 16.00 น. เป็นต้นไป และพิธีเจริญจิตตภาวนา ทุกวันพระ โดยจะมีพิธีแสดงธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ (ในช่วงเช้า) และในวันสุดท้ายของปี จะมีกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี และกิจกรรมทำบุญตักบาตรในวันขึ้นปีใหม่ ก่อนจะเดินทางกลับ บริเวณด้านนอกมีจัดบูธขายสินค้า อาหาร และของฝากอีกมากมาย เช่น ร้านอภัยภูเบศร์ ร้านยาสมุนไพรขึ้นชื่อที่ผู้เฒ่าผู้แก่ต้องรู้จักเป็นอย่างดี เราได้แวะเดินเลือกซื้อของฝากหรือของที่ระลึกก่อนกลับ ซึ่งเปิดให้แวะชมแวะทานได้ตั้งแต่ช่วงเช้า ถึง ค่ำ ตอนแรกกังวลว่าจะไม่มีพื้นที่รับประทาน แต่ภายในงานได้จัดซุ้มนั่งรับประทาน รวมทั้งโต๊ะและเก้าอี้รองรับอย่างสะดวกสบาย สำหรับใครที่ต้องการมาเที่ยวสนามหลวง ควรแต่งกายสุภาพเรียบร้อย เคารพสถานที่และวัฒนธรรมไทย ระมัดระวังทรัพย์สินส่วนตัว ควรเตรียมน้ำดื่มและพกร่มไปด้วย เนื่องจากเป็นสถานที่เปิดและอากาศค่อนข้างร้อน ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสนามหลวงและกิจกรรมต่าง ๆ ก่อนเดินทาง เพื่อให้การเดินทางมาสนามหลวงเป็นไปอย่างราบรื่นและสนุกสนาน แนะนำให้เลือกเดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT เพราะถือว่าสะดวกสบายที่สุด โดยการลงที่สถานีสนามไชย (Sanam Chai Station) ซึ่งเป็นสถานีที่อยู่ใกล้ที่สุด จากนั้นเดินออกตรงทางออกที่ 1 และเดินต่อมาอีกประมาณ 10 นาทีไปยังสนามหลวง การเดินทางนี้จะช่วยประหยัดเวลาและยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้อีกด้วย ภาพโดยผู้เขียน พิชญาภา พรเจริญ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !