การเดินทางในปัจจุบันมีให้เราเลือกได้หลากหลายช่องทางมาก ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบิน รถทัวร์ รถยนต์ และรถไฟ ซึ่งการเดินทางด้วยรถไฟในปัจจุบันเป็นอะไรที่นิยมกันมาของนักเดินทางเพราะว่ามีราคาถูกและมีตัวเลือกที่หลากหลาย ทั้งแบบนั่งและแบบนอน แถมรถไฟยังได้มีการปรับปรุงรถไฟประเภทตู้นอนให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย และตอนนี้การรถไฟแห่งประเทศไทยได้เปิดให้บริการจองตั๋วรถไฟออนไลน์ ด้วยระบบ D-Ticket แล้วไหนใครอยากจะลองเริ่มขึ้นรถไฟแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง ต้องขึ้นที่ไหน จองยังไง จ่ายเงินช่องทางไหนบ้าง เชิญมาฟังทางนี้เลยค่ะ จากประสบการณ์ที่ขึ้นรถไฟจนชำนาญในระดับหนึ่งเลยอยากจะมาแชร์วิธีการที่ตัวเราเองได้จองตั๋วรถไฟออนไลน์ ว่าควรขึ้นรถไฟที่สถานีไหนดี และทริคในการจอง ในการซื้อตั๋วรถไฟเราไม่ต้องไปถึงสถานีรถไฟแล้วถึงจะซื้อตั๋วได้ แต่เราสามารถซื้อทางออนไลน์ได้เลย ทั้งสะดวกและรวดเร็ว ที่สำคัญเราสามารถเลือกที่นั่งเองได้อีกด้วย เราสามารถซื้อตั๋วได้จากทางออนไลน์ แม้จะอยู่ที่ไหนก็สามารถซื้อได้ และพิมพ์ตั๋วเป็นไฟล์เก็บไว้ในโทรศัพท์เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานได้เลย นอกจากนี้ยังสามารถจองตั๋วรถไฟโดยสำรองที่นั่งผ่านสายด่วน 1690 ได้เลยค่ะขั้นตอนในการจองตั๋วรถไฟออนไลน์ขั้นตอนที่ 1 เข้าไปที่ลิงค์นี้ https://www.dticket.railway.co.th/DTicketPublicWeb/home/Home เป็นลิงค์สำหรับการจองตั๋วของการรถไฟแห่งประเทศไทยโดยตรง โดยหน้าตาขอเว็บจะเป็นเหมือนในรูปขั้นตอนที่ 2 เราจะต้องทำการสมัครสมาชิกก่อนหรือหากใครสมัครสมาชิกแล้วก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปเลย ในการสมัครสมาชิกนั้นไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถสมัครได้ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ต่อมาทำการกรอกข้อมูลส่วนตัว พร้อมทั้ง e-mail และตั้งรหัสผ่าน เพื่อใช้ในการเข้าสู่ระบบต่อไปข้อมูลที่ต้องกรอกมีดังนี้ชื่อ-นามสกุลเลขบัตรประชาชน/หมายเลขเดินทาง(สำหรับชาวต่างชาติ)เบอร์โทรศัพท์อีเมลรหัสผ่านยืนยันรหัสผ่านเมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนแล้ว กด “ยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไข” และกดปุ่มยืนยัน จากนั้นให้เข้าไปยืนยันตัวตนตามอีเมลที่กรอกไว้ เมื่อยืนยันตัวตนในอีเมลเสร็จ ก็ถือว่าสมัครสมาชิกเรียบร้อยขั้นตอนที่ 3 เข้าสู่ระบบ โดยสามารถเลือกใช้ e-mail, เบอร์โทรศัพท์ หรือเลขบัตรประจำตัวประชาชน และกรอกรหัสผ่าน ปล.อย่าลืมเข้าไปยืนยันในอีเมลก่อนเข้าสู่ระบบขั้นตอนที่ 4 เลือกสถานีต้นทาง สถานีปลายทาง วันที่ต้องการจะเดินทาง และจำนวนผู้โดยสาร และจากนั้นคลิก "ค้นหา" ได้เลย (ในการเลือกวันที่ในการเดินทางควรเผื่อเวลาเนื่องจากการเดินทางด้วยรถไฟนั้นใช้เวลาค่อนข้างนาน ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 13 ชั่วโมง) ในตัวอย่าง เลือกสถานีต้นทางคือ เชียงใหม่ และสถานีปลายทางคือ ชุมทางบางซื่อขั้นตอนที่ 5 เลือกขบวนรถไฟ โดยเลือกจากเวลาที่ต้องการเดินทาง หรือขบวนรถไฟที่ต้องการ จากนั้นกดเลือกเพื่อไปเลือกประเภทของที่นั่งขั้นตอนที่ 6 เลือกประเภทของรถไฟที่ต้องการ รถไฟประเภทนอน/ ประเภทนั่งชั้น 1,2 และ 3แบบปรับอากาศ / พัดลมประเภทผู้โดยสารทั่วไป / ผู้พิการ / สตรีและเด็กเมื่อเลือกประเภทรถไฟที่ต้องการได้แล้วให้กดคลิกที่ เลือก เพื่อไปยังขั้นตอนต่อไป ส่วนประเภทที่ตัวเลือกขึ้นเป็นสีเทาแสดงว่ารถไฟประเภทนี้ถูกจองจนเต็มแล้วขั้นตอนที่ 7 กรอกข้อมูลผู้โดยสาร หากผู้โดยสารเป็นคนเดียวกับผู้จองสามารถคลิกที่ "ข้อมูลเดียวกับผู้จอง" โดยในระบบจะทำการกรอกข้อมูลให้เราอัตโนมัติเนื่องจากเราทำการเข้าสู่ระบบมาแล้ว หากไม่ใช่ก็ไม่ต้องเลือก และทำการกรอกข้อมูลของผู้โดยสารที่ต้องการจองให้ครบถ้วนขั้นตอนที่ 8 เข้ามาสู่ผังการเลือกที่นั่ง โดยทางระบบจะทำการเลือกที่นั่งให้เราอัตโนมัติแต่เราสามารถเลือกที่นั่งใหม่เองได้โดยต้องไปยกเลิกที่นั่งเดิมก่อนที่จะเลือกที่นั่งใหม่ หากเป็นประเภทรถนอนจะมีระบุบอกเตียงบนหรือเตียงล่างสีเขียว = ที่นั่งว่างสีน้ำเงิน = ผู้ชายสีชมพู = ผู้หญิงสีเหลือง = พระเมื่อเราทำการจองที่นั่งแล้วให้มาตรวจสอบข้อมูลชื่อผู้โดยสาร ประเภทที่นั่ง คันที่ เลขที่นั่ง และราคา ทางด้านล่างสุดของหน้าต่างว่าถูกต้องหรือไม่ จากนั้นคลิกปุ่มถัดไปขั้นตอนที่ 9 ขั้นตอนการชำระเงินสามารถเลือกการชำระเงินได้ทั้งหมด 2 ช่องทางชำระโดยการตัดผ่านบัตรเครดิต/บัตรเดบิตสามารถชำระเงินได้ที่สถานีรถไฟ เมื่อทำการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว ระบบจะทำการออกตั๋วโดยส่งมาทางอีเมล หรือสามารถตรวจสอบได้จากตัวเลือกประวัติการซื้อตั๋วและทำการดาวน์โหลดไฟล์ PDF เพื่อเก็บไว้เพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันในวันเดินทางตัวอย่างหน้าตาตั๋ว D-ticket ที่เป็นไฟล์ PDF เพียงเท่านี้ก็เป็นอันจองตั๋วรถไฟออนไลน์สำเร็จเรียบร้อย การจองออนไลน์ง่าย สะดวก รวดเร็วซึ่งใช้เวลาไม่นานเลยทริคและคำแนะนำตั๋วรถไฟแบบนอนชั้น 1 หรือ 2 ในการจองตั๋วรถไฟออนไลน์ หากใครต้องการ แนะนำว่าควรจะต้องจองล่วงหน้าก่อนสัก 1 เดือน เนื่องจากช่วงนี้คนให้ความสนใจการขึ้นรถไฟแบบนอนมากยิ่งขึ้นอาจจะทำให้ที่นั่งเต็มเร็ว เพราะหากจองก่อนจะทำให้เราสามารถเลือกที่นั่งและที่นอนได้ว่าจะเลือกชั้นบนหรือชั้นล่างตั๋วรถไฟชั้น 3 จะเป็นแบบนั่ง สามารถจองก่อนล่วงหน้าประมาณ 1 อาทิตย์ได้เลย หรือถ้ากระทันหันต้องจองก่อนออกเดินทาง 1-3 วันก็สามารถจองได้เลย เพราะตั๋วชั้น 3 รับผู้โดยสารจำนวนมากในการเลือกสถานีต้นทาง หากขึ้นจากในกรุงเทพฯ หากใครไม่รู้ว่าจะไปขึ้นที่ไหนแนะนำให้ขึ้นที่สถานีกลางบางซื่อ เพราะเป็นสถานีที่ติดกับ MRT และรถไฟฟ้าสายสีแดงเลย ซึ่งสะดวกในการเดินทางมากที่สุด หรือสถานีรถไฟกรุงเทพ(หัวลำโพง) ส่วนใครที่มาจากต่างจังหวัดก็สามารถเลือกสถานีตามจังหวัดตัวเองได้เลยส่วนตัวคิดว่าการจองตั๋วรถไฟในปัจจุบันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก เพราะเราสามารถจองแบบออนไลน์ได้เลย ไม่ต้องไปซื้อตั๋วถึงที่เคาน์เตอร์สถานีรถไฟ ในการจองตั๋วรถไฟออนไลน์นั้นยังมีทางเลือกให้เราได้จ่ายเงินโดยการตัดผ่านบัตรหรือไปจ่ายที่เคาน์เตอร์ก็ได้ ซึ่งสะดวกมากๆสำหรับใครที่ต้องการจองแบบกระทันหันก็สามารถจองผ่านทางเว็บไซต์ได้เลย และตั๋วที่ได้ก็เป็นไฟล์ PDF ไม่ต้องพิมพ์เป็นกระดาษออกมาเลยFacebook : https://www.facebook.com/journeyyymeYouTube : Journeyyy-meบทความ True ID : https://creators.trueid.net/@Journeyyymeภาพถ่ายโดยผู้เขียน และภาพถ่ายหน้าจอจากเว็บไซต์ https://www.dticket.railway.co.th/ 🗺 แชร์ที่เที่ยวใหม่ๆ ไม่ว่าจะเที่ยวสายไหนก็มาแวะแชร์กับทรูไอดีคอมมูนิตี้ “เที่ยวไปให้สุด”