หนีกรุง เที่ยวเชียงราย ทริปครอบครัว ไปกับ Agoda ที่เที่ยวหลายสไตล์ แฮปปี้ทั้งบ้าน!

     ลมหนาว พัดมาอีกครั้ง! เป็นเวลาที่ดีที่เราจะออกไปใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์กับครอบครัว ว่าแล้วก็เตรียมตัวเก็บกระเป๋าออกไปทักทายลมหนาวกัน ระหว่างที่คิดอยู่นั้น เชียงราย ก็ผุดขึ้นมาเป็นที่แรกๆ ที่อยากจะพาครอบครัวไปเที่ยวผ่อนคลายด้วยกันค่ะ นึกถึงอากาศเย็น ธรรมชาติสวยๆ ก็รู้สึกว่าได้เวลา หนีกรุง เที่ยวเชียงราย กันแล้ว ทริปครอบครัว คราวนี้ เราจองที่พักและกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้งทริปกับ Agoda ค่ะซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์มากๆ ในการเดินทางท่องเที่ยวครั้งของบ้านเราค่ะ มีทุกอย่างในที่เดียวครบๆ เลย ค่ะ ทำให้ทริปนี้ของเรามีที่เที่ยวหลากหลายสไตล์ที่ต้องแฮปปี้ทั้งบ้านแน่นอน! ตามมาดูกันได้เลย...

ทริปเที่ยวเชียงราย ที่เที่ยวครอบครัว สุดชิล

     หลังจากมีเดสติเนชั่นในใจ เว็บไซต์จองที่พัก ตั๋วเครื่องบิน และกิจกรรมท่องเที่ยว ก็ถูกเปิดขึ้นหลายหน้าจอ เราไล่เช็กวันว่างของสมาชิกในครอบครัวที่แสดงตัวอยากมาทัวร์รับลมหนาวด้วยกัน แผนการเดินทางสุดชิลเพื่อไปสัมผัสลมหนาวแบบสโลว์ไลฟ์ ดูไฟลท์บินพร้อมที่พักก็บังเกิด ทุกคนเริ่มขยับหากระเป๋าเดินทาง ทำให้ ทริปครอบครัว ทัวร์ไหว้พระ ดื่มด่ำศิลปะ เที่ยวธรรมชาติสวยๆ ขึ้นดอย ที่ เชียงราย ก็ได้เริ่มต้นขึ้นค่ะ 

      สำหรับทริปนี้ เราจองที่พักและตั๋วเครื่องบินผ่านบริการของ Agoda Family Travel ที่เรียกได้ว่า ทำให้ทริปครอบครัวในครั้งนี้ของเราสะดวกสบายสุดๆ ค่ะ ด้วยบริการเรื่องการท่องเที่ยวที่ครอบคลุมแบบครบวงจร รวมถึงทุกแผนการเดินทางจบเพียงที่เดียว One Stop Service ให้ทริปครอบครัวที่เราต้องการเป็นเรื่องง่ายกว่าที่คิด และตอบโจทย์กับทุกไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัวอีกด้วย

     และ อโกด้า ยังมีฟีเจอร์ Agoda Homes ที่มีทั้งอพาร์ทเมนท์ วิลล่า เกสต์เฮ้าส์ และเบดแอนด์เบรคฟาสท์ ให้เลือกมากมายเลยค่ะ ที่พักก็กว้างขวาง เหมาะสำหรับสมาชิกครอบครัวทุกวัย ให้ทุกคนรู้สึกเหมือนอยู่บ้านหลังเดียวกันเลย

      อีกทั้งยังมี Shopping Cart ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ค่ะ ช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกจองห้องพักได้สูงสุดถึง 8 ห้อง ในการจองเพียงครั้งเดียวเลยค่ะ เป็นฟีเจอร์ที่เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่มากๆ หรือทริปที่ต้องไปหลายเมือง ก็สะดวกสุดๆ

เช็กอิน ที่พักเชียงราย เริ่มต้นความสนุกทริปครอบครัว

     เพียงอึดใจเดียวเครื่องบินก็แลนด์ดิ้งลงที่ สนามบินเชียงราย ครอบครัวเราขึ้นรถต่อไปยังที่พัก จะว่าไปแล้วการไปเที่ยวแบบครอบครัว การเลือกที่พักค่อนข้างมีความสำคัญอย่างมากต่อแผนการเดินทางเลยค่ะ ทั้งในเรื่องความเป็นส่วนตัวของสมาชิกในครอบครัว และพื้นที่ส่วนรวมที่ให้ทั้งครอบครัวได้มาทำกิจกรรมด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา ทำให้เราเลยเลือกจองที่พักกับ Agoda ซึ่งตอบโจทย์ทั้งหมดเลยค่ะ 

     เพราะฉะนั้น ทริปนี้เราจึงมองหาห้องพักหรือบ้านพัก ที่สามารถพักกันได้ครบๆ ทั้งครอบครัวค่ะ นับไว้ว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ เลยสำหรับทริปครอบครัวชิลๆ แบบนี้ ดีที่ Agoda Family Travel มีตัวเลือกที่ครบครันมากๆ ตั้งแต่โรงแรมหรูไปจนถึงโรงแรมราคาประหยัด ทำให้เราสามารถหาห้องพักที่เหมาะสำหรับครอบครัวได้ค่ะ 

      อีกทั้งยังมีฟิลเตอร์ช่วยกรองความต้องการต่างๆ ของเรา อย่างการหา ที่พักมีสระว่ายน้ำส่วนตัว ค้นหาไล่ราคาจากต่ำไปสูง ทำให้สะดวกสบายขึ้นมากๆ และจองผ่านได้ทั้งทาง เว็บไซต์ Agoda.com หรือ แอปพลิเคชัน Agoda ก็ได้ ใครที่วางแผนทริปครอบครัวกันอยู่ แนะนำเลยค่ะ รับรองว่า สะดวกสบาย และตอบโจทย์ครบจริงๆ

     สำหรับที่พักของเราในทริปนี้ดีต่อใจทุกคนครอบครัวมากๆ เป็นบ้านหลังใหญ่ มีหลายห้องนอน พักได้หลายคนเลยค่ะ สิ่งอำนวยความสะดวกก็ครบครัน ตั้งแต่ ห้องรับแขกของบ้านพัก มุมห้องครัว ทีวี ตู้เย็น ครบๆ และสำหรับในห้องนอน ก็มีห้องน้ำในตัวด้วยค่ะ และรอบๆ ตัวบ้านพักก็มีพื้นที่กว้างขวาง มีสนามหญ้า ทำให้ตรงนี้เป็นมุมที่เด็กๆ ชอบมากๆ เลย เพราะได้ออกมาวิ่งเล่นในสนามหญ้ากันค่ะ 

      หลังจากจัดแจงสัมภาระ เก็บกระเป๋ากันเรียบร้อยแล้ว เราก็เตรียมตัวไปเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์กัน ไม่นานนัก รถให้บริการท่องเที่ยวที่จองไว้ในระบบที่มาถึง ได้เวลาที่ทุกคนในครอบครัวจะออกไปตะลุยเที่ยวในตัวเมืองเชียงรายกันแล้วค่ะ! 

เที่ยวฉบับสายบุญ ไหว้พระเชียงราย อิ่มใจ

     อย่างที่หลายคนรู้กันดีว่า ที่จังหวัดเชียงรายนั้น ขึ้นชื่อเรื่องวัดที่สวยงาม และเต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ล้านนา จึงทำให้ในการไปเที่ยวชม ถ้าหากมีผู้เชี่ยวชาญหรือไกด์ท้องถิ่นนำทางไปด้วย เราก็จะได้รู้เรื่องราวต่างๆ เพิ่มเติมที่มากกว่าความงดงามผ่านสายตาที่ได้เห็น ทำให้ทริปนี้สนุกสนานกว่าที่เคยอีกด้วยค่ะ เพราะเราได้รู้ที่มาของสิ่งต่างๆ 

วัดพระแก้ว เชียงราย

      ที่เที่ยวสายบุญของเราเริ่มต้นที่ วัดพระแก้ว เชียงราย ซึ่งเดิมมีชื่อว่า “วัดป่าเยี้ยะ” โดยคำว่า “เยี้ยะ” แปลว่า ไม้ไผ่ ตามภาษาพื้นถิ่นที่ตำนานสืบกันมาว่าในปี พ.ศ.1987 ราวๆ 700 ปีก่อนได้เกิดฟ้าผ่าที่ องค์พระเจดีย์ และปรากฏเป็น พระแก้วมรกต ซ่อนไว้ในพระเจดีย์ ทำให้วัดถูกเรียกขานว่า “วัดพระแก้ว” ในภายหลังนั่นเอง

      เรื่องราวของ องค์พระแก้วมรกต ก็ได้มีการอัญเชิญไปประดิษฐานไว้ในที่ต่างๆ มากมาย รวมถึงฝั่งประเทศลาว ก่อนที่สุดท้ายจะมาอยู่ที่กรุงเทพฯ ขณะที่ “วัดพระแก้ว” เชียงราย ก็ได้มีการสร้างพระพุทธรูปหยกขึ้นใหม่เพื่อมาทดแทน ในวาระที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีพระชนมายุครบ 90 พรรษา ในปี พ.ศ.2534 ค่ะ 

วัดมิ่งเมือง เชียงราย

      วัดมิ่งเมือง หรือในอดีตคือ วัดช้างมูบ นับเป็นอีกวัดที่มีความเก่าแก่ แต่เดิมเป็น วัดไทใหญ่ ในยุคพม่าครองเมือง ซึ่งมีการสันนิษฐานว่าเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองในสมัยฟื้นฟูเมืองเชียงราย เมื่อราวๆ 700-800 ปีก่อนค่ะ

      ภายในวัด มีองค์พระประธานเป็นศิลปะเชียงแสนสิงห์ 1 อายุกว่า 400 ปี ขณะที่เจดีย์ภายในได้บูรณะขึ้นใหม่เป็นศิลปะล้านนา จากเดิมที่เป็นรูปทรงของพม่า ด้านนอกมี บ่อน้ำช้างมูบ ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ ก่อสร้างหลังคาเป็นรูปซุ้มโขง ประดับด้วยรูปปั้นของช้างทรงเครื่องซึ่งหมอบอยู่ ได้บอกเล่าเรื่องราวในอดีตที่มีต่อวิถีของคนเชียงรายในยุคนั้นได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ และที่สำคัญ หากแวะมาถ่ายรูปวัดในยามค่ำ จะสวยงามตระการตามากๆ ด้วยแสงไฟที่ประดับประดารอบๆ นั่นเอง

      เรียกได้ว่าแค่ 2 วัดแรกก็มีความน่าสนใจในเรื่องราวของประวัติศาสตร์ตามแบบฉบับเมืองล้านนา แต่ว่าในจังหวัดเชียงรายนั้น นอกจากอารยธรรมแบบดั้งเดิมที่อนุรักษ์ไว้ ก็ยังเต็มไปด้วยความงดงามของศิลปิน ที่รังสรรค์ความงามผ่านศิลปะสมัยใหม่ มาในรูปแบบที่น่าสนใจ ตามไปเที่ยวฉบับสายบุญกันต่อที่ วัดร่องขุ่น กันค่ะ

วัดร่องขุ่น เชียงราย

      วัดร่องขุ่น เชียงราย แต่เดิมเป็นวัดในชุมชนเล็กๆ สร้างขึ้นราวๆ ปี พ.ศ.2430 และได้เสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา ทำให้ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ จิตรกรชื่อดังเข้ามาเพื่อสร้างถวายเป็นพุทธบูชาในปี พ.ศ.2540 ด้วยการออกแบบและก่อสร้างวัดโดยได้รับแรงบันดาลใจบางส่วนมาจาก วัดมิ่งเมือง จังหวัดน่าน นั่นเองค่ะ 

      ในการดีไซน์ให้วัดเป็นสีขาว มีความหมายถึง พระบริสุทธิคุณของพระพุทธเจ้า พร้อมเสริมเติมแต่งโครงสร้างทางศิลปะที่แฝงด้วยคำสอนต่างๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็น สะพาน เขี้ยว ดอกบัวทิพย์ บันไดทางขึ้น ล้วนแล้วแต่มีความหมายซ่อนอยู่ ทำให้ชื่อเสียงของความงามในศิลปะได้เลื่องลือไปไกลถึงขนาดเป็นแลนด์มาร์คหลักของชาวต่างชาติเมื่อมาเยี่ยมเยียนเมืองเชียงรายแห่งนี้เลยทีเดียว

พิพิธภัณฑ์บ้านดำ

      เราไปเที่ยวต่อกันที่ พิพิธภัณฑ์บ้านดำ ค่ะ ที่นี่สร้างขึ้นโดย อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติที่มีชื่อเสียงด้านจิตรกรรม ประติมากรรม ที่ท่านได้ถึงแก่อนิจกรรมไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 แต่ “บ้านดำ” ก็ยังเปิดให้บริการกับนักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสความงามของศิลปะราวกับมรดกที่ทิ้งไว้ผ่านความเข้มขลังของสีดำ ซึ่งเป็นสีสันที่ผู้สร้างโปรดปราน 

      ภายในพิพิธภัณฑ์ถูกออกแบบด้วยศิลปะแบบล้านนา การแกะสลักลวดลายงดงาม ลายเส้นแห่งจิตรกรรมที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล รวมถึงการประดับประดาด้วยเขาสัตว์ หรือกระดูกสัตว์ ในพื้นที่รายรอบด้วยบ้านกว่า 40 หลัง เช่น วิหารราม เรือนหลองข้าว ศาลาพระสี่อริยาบถ เรือนสุงสุมาร บ้านดำกาแลเกี่ยวฟ้า ศาลาตะวันออก ห้องแต้ม เรียกได้ว่าได้ดื่มด่ำศิลปะบ้านดำกันอย่างเต็มอิ่ม ถ่ายรูปสวยๆ กลับมาเพียบค่ะ

วัดร่องเสือเต้น

      วัดร่องเสือเต้น เป็นอีกหนึ่ง วัดสวยเชียงราย ที่สร้างขึ้นด้วยศิลปะแบบไทยประยุกต์จากฝีมือของ พุทธา กาบแก้ว หรือ สล่านก ศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงราย ซึ่งเคยเป็นลูกศิษย์ของ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ นั่นเองค่ะ 

      โดยสถานที่แห่งนี้ถูกออกแบบด้วยสีน้ำเงินเป็นหลักตัดกับสีทองทั่วทั้งวัด วิจิตรสวยงามมากๆ ไล่ตั้งแต่ซุ้มประตูที่สร้างเป็น พญานาคท้าวมุจลินทร์ และปู่ศรีสุทโธ บริเวณวงเวียนจัดสร้างเป็นพระอุปคุต พระอัครสาวกของพระพุทธเจ้า ส่วนวิหารเป็นงานประติมากรรมพุทธศิลป์ร่วมสมัย 

      ขณะที่ด้านหลังวิหารมีพระพุทธรูปสีขาวปางห้ามญาติอยู่ใกล้กับ พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีห้าพระองค์ ทำให้ วัดสีน้ำเงิน นี้จึงเป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวที่มักจะมาถ่ายรูปสวยๆ ของวัดที่กลมกลืนกับปุยเมฆและท้องฟ้ายามเช้า หรือยามค่ำที่ไฟส่องสว่างสีน้ำเงินก็ได้ความงดงามท่ามกลางแสงจันทร์ไปอีกแบบด้วยค่ะ

      หมดไป 1 วันเต็มๆ กับการเที่ยววัดสวยๆ ในเชียงราย และชมความสวยงามของศิลปะ ตอนนี้ต้องขอตัวไปพักผ่อนกันให้เต็มที่ก่อนนะคะ เพราะพรุ่งนี้ เราจะพากันไปสัมผัสอากาศเย็นๆ บน ดอยตุง ที่เที่ยวธรรมชาติของเชียงราย ที่ทริปไหนๆ ก็ห้ามพลาดค่ะ 

เช้าวันใหม่ ที่ สวนแม่ฟ้าหลวง ดอยตุง

      เราตื่นกันแต่เช้า เพื่อจะออกไปสัมผัสกับอากาศเย็นๆ กันที่ ดอยตุง ค่ะ ไกด์ท้องถิ่นของเรามาพร้อมกับรถคันใหญ่ที่ตอนนี้กำลังไต่ระดับฝ่ากลุ่มหมอกที่เบาบาง และไม่นาน เราก็มาถึงกันแล้วที่ พระตำหนักดอยตุง

พระตำหนักดอยตุง

     พระตำหนักดอยตุง หรือ พระตำหนักแม่ฟ้าหลวง ตั้งอยู่ที่บริเวณสันเขาของเทือกดอยนางนอน สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2530 ในขณะที่ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สมเด็จย่า มีพระชนมายุ 88 พรรษา โดยได้ออกแบบสถาปัตยกรรมแบบล้านนาผสานกับบ้านพื้นเมืองของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งภายในมีโซนจัดแสดงที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมได้อีกด้วย

สวนแม่ฟ้าหลวง

     สวนแม่ฟ้าหลวง ตั้งอยู่ไม่ไกลจากพระตำหนักดอยตุงค่ะ เรามาเที่ยวกันต่อที่นี่ ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ที่รายล้อม ที่นี่ถูกเนรมิตให้เป็น สวนดอกไม้เมืองหนาว ท่ามกลางหุบเขา สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2535 บนพื้นที่ถึง 25 ไร่เลยทีเดียวค่ะ ซึ่งตรงนี้มาจากจุดเริ่มต้นของโครงการพัฒนาดอยตุง เพื่อทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่จะปลูกดอกไม้หมุนเวียนสลับตลอดสามฤดู และยังเป็น จุดถ่ายรูปเชียงราย ที่ต้องพลาดไม่ได้เลยสำหรับคนรักดอกไม้ค่ะ

     ภายในสวนเต็มไปด้วยดอกไม้เมืองหนาว และต้นไม้ใหญ่ที่ร่มรื่น อีกทั้งยังมีประติมากรรมเข้ามาตกแต่งให้สวยงาม ถ่ายรูปเพลินๆ กันไปเลยค่ะ แถมได้สูดอากาศดีๆ อีกด้วย นอกจากนี้ พื้นที่สวนก็จะดูแลโดยชาวเขาบนดอยตุงค่ะ ทั้ง ชาวเขาเผ่าอาข่า ลาหู่ ไทใหญ่ และจีนฮ่อ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของกลุ่มคนชาวเขา และรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมเอาไว้

พระธาตุดอยตุง

      เรานั่งรถเพื่อไปต่อยัง พระธาตุดอยตุง อีกหนึ่งแลนด์มาร์คจากตำนานมากกว่า 1,000 ปี เดิมที่นี่มีชื่อว่า ดอยดินแดง ค่ะ จนเมื่อสมัยพระเจ้าอุชุตะราช รัชกาลที่ 3 แห่งราชวงศ์สิงหนวัต ผู้ครองนครโยนก นาคนคร เมื่อปี พ.ศ.1452 ได้รับ พระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระรากขวัญเบื้องซ้าย หรือไหปลาร้าของพระพุทธเจ้า และทรงสร้างพระสถูปขึ้น โดยนำธงตะขาบยาว 3,000 วา ไปปักไว้บนดอย ทำให้ “ดอยดินแดง” ได้ชื่อใหม่ว่า “ดอยตุง” ซึ่งคำว่า ตุง แปลว่า ธง ตามภาษาพื้นถิ่นนั่นเอง

      ต่อมาในสมัย พระเจ้าเม็งรายมหาราช ก็ได้รับพระบรมสารีริกธาตุจากการถวายเช่นกัน จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุขึ้นอีกองค์หนึ่ง เหมือนกับองค์เดิมทุกประการเพื่อให้ตั้งคู่กันที่นี่ ทำให้พระธาตุดอยตุง จึงมี 2 องค์อย่างที่เราได้เห็นกันในทุกวันนี้ค่ะ

      นอกจากนี้ ยังมีประเพณืที่สืบทอดต่อกันมาในทุกปี คือ ประเพณีเดินขึ้นดอยบูชาพระธาตุ ค่ะ และยังรวมถึงความเชื่อว่าของชาวล้านนาว่า พระธาตุดอยตุง เป็นพระธาตุประจำคนเกิดปีกุน อีกด้วย แต่ว่า “ปีกุน” ในความหมายของสถานที่แห่งนี้ไม่ใช่ “หมู” ตามความเชื่อสากลแบบที่เรารู้กกัน แต่เป็น “ช้าง” ซึ่งเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านตามแบบล้านนานั่นเอง

      เรียกได้ว่า ทริปนี้เต็มอิ่มกันทั้งครอบครัวมากๆ ค่ะ เพราะนอกจากจะได้สัมผัสอากาศเย็นสบายบนดอยตุงแล้ว ทุกคนยังได้เรียนรู้เรื่องราว ศิลปะต่างๆ กันจัดเต็ม คุณตาคุณยายก็ได้ไหว้พระ เที่ยวฉบับบสายบุญ และรีแลกซ์กันอย่างเต็มที่ หลานๆ ก็ได้เที่ยวเล่นชิลๆ ถ่ายรูปเพลินๆ และได้รับความรู้ดีๆ จากคนในท้องถิ่น เป็นทริปที่เรียกรอยยิ้มได้ทุกคนเลยทีเดียว ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นทริปครอบครัวที่ตอบโจทย์ทุกคนจริงๆ และแพลนได้ง่ายมากๆ ด้วยตัวเองผ่านบริการของ Agoda Family Travel ค่ะ 

      ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไฟลท์บิน หรือ ที่พัก ก็สามารถเลือกได้ตามใจเลยค่ะ หรือจะจองไฟลท์บินพร้อมที่พักแบบเราเพื่อราคาที่คุ้มค่ากว่า ก็ได้เหมือนกันค่ะ แถมยังรองรับทั้งการใช้งานภาษาไทย และภาษาอังกฤษ รวมถึง Shopping Cart ฟีเจอร์ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ สามารถจองที่พักได้หลายที่ภายในการจองครั้งเดียว สูงสุดถึง 8 ห้อง เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ หรือทริปที่ต้องไปหลายเมือง ทุกคนสามารถจองตั๋วเครื่องบินและกิจกรรมมากมายผ่าน Agoda ได้เลยค่ะ

      นอกจากนี้ Agoda Family Travel ยังมีกิจกรรมการท่องเที่ยว ให้เราสามารถเลือกใช้บริการให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัวด้วยนะคะ เพราะอย่างในจังหวัดเชียงรายก็ยังมีอีกหลายที่น่าเที่ยวมากมายเลยค่ะ เราสามารถวางแผนเที่ยวได้ตามใจ จัดเต็มทุกทริปไปเลยจ้า

     ทริปเที่ยวครอบครัว เรายังไม่จบเพียงเท่านี้นะคะ ได้มาเที่ยวเชียงรายทั้งที คงไม่พลาดไปต่อกันที่ สิงปาร์ค แลนด์มาร์ค ที่เที่ยวดังเชียงราย อีกแห่งที่ต้องมาค่ะ!

สิงห์ปาร์ค เชียงราย

      เรามากันต่อที่ สิงห์ปาร์ค ค่ะ สำหรับคนที่ชอบกิจกรรม ชมธรรมชาติ และ ได้ใกล้ชิดกับสัตว์มากมาย ที่นี่จะถูกใจมากๆ เพราะเราจะได้มาเที่ยวไร่ชา รวมถึงกิจกรรมการขึ้นบอลลูนชมวิวสวยๆ จากมุมสูง สัมผัสอากาศดีๆ ที่นี่ได้อีกด้วย

วัดห้วยปลากั้ง

      สำหรับใครที่ชื่นชอบสไตล์วัดจีนกับวิวทิวทัศน์รอบเชียงราย เราพากันมาที่ วัดห้วยปลากั้ง วัดสวยที่เราจะได้เห็นวิวสวยๆ จากบนจุดชมวิว พร้อมกับได้ไป ไหว้ขอพร เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ กันอีกด้วย นอกจากนี้ ภายในวัดยังมี เจดีย์ 9 ชั้น พบโชคธรรมเจดีย์ มีการใช้ศิลปะแบบจีนผสมเข้ากับล้านนาได้อย่างลงตัว โดยมีมังกรคู่คอยปกปักษ์รักษาอยู่หน้าเจดีย์ค่ะ ถือว่าเป็นวัดสวย อันซีนของเชียงรายเลยก็ว่าได้

ถนนคนเดินเชียงราย

       ปิดท้ายทริปของเราที่ ถนนคนเดินเชียงราย ที่เที่ยววัยรุ่น ที่ปลุกความคึกคักให้เมืองเชียงรายในทุกคืนวันเสาร์ ภายในถนนคนเดินจะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร สตรีทฟู้ด เดินชิลๆ หาของกินแบบจุกๆ ในราคาน่ารัก ใครที่อยากได้บรรยากาศช่วงกลางคืนชิลๆ แบบนี้ แวะมาเช็กอินที่นี่กันได้เลยค่ะ 

      จบทริปไปแบบฟินๆ สโลว์ไลฟ์กันได้ทั้งครอบครัวเลย ใครที่อยากมาเที่ยวชิลๆ แบบเรา ก็สามารถมาจองทริปเที่ยวครบๆ ผ่าน Agoda Family Travel ได้เลยนะคะ สะดวกสบาย และราคาดีต่อใจมากๆ เลยค่ะ อีกทั้งยังมี Agoda Activities ที่ช่วยให้เราสามารถเลือกจองกิจกรรมต่างๆ มากมายในทริปของเราได้ค่ะ หมดห่วงไปได้เลยเรื่องไปถึงที่แล้วไม่รู้จะทำอะไรดี ทริปนี้ของบ้านเราก็เลยได้เที่ยวกันจัดเต็มไปเลย! 

      และที่เราอยากแนะนำมากๆ กับหลายคนที่กำลังน่าจะไปเที่ยวกันทั้งบ้านก็คือ การที่ Agoda มีที่พักหลายแบบ หลายประเภท เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกวัยและทุกรูปแบบ ทำให้เราได้เลือกที่พักให้เหมาะกับทริปของเรามากที่สุดค่ะ การไปเที่ยวกันทั้งบ้านของเราที่เชียงรายคราวนี้เลยเป็นไปด้วยความชิล สนุกสนาน หลังจากที่ไม่ได้ไปรีแลกซ์กันครบๆ ทุกคนมานานเลยค่ะ