เที่ยวไป ชิมไป ในบาร์เซโลน่า เมื่อแปดปีก่อนที่ฉันย้ายมาทำงานที่ต่างประเทศ ฉันได้รู้จักกับครอบครัวชาวสเปน เธอเป็นลูกค้าที่น่ารักของฉัน ทุก ๆ ปีหลังช่วงซัมเมอร์ เธอจะมาหาฉันพร้อมของฝากจากบาร์เซโลนา และเธอจะมีกระเป๋า หรือรองเท้าใหม่ ๆ แบบเก๋ ๆ ทุกครั้งหลังจากกลับมา เธอผู้นี้ จุดประกายให้ฉันอยากไปเที่ยวบาร์เซโลน่าสักครั้งในชีวิต เราเดินทางจากสอตแลนด์ไปที่บารร์เซโลนา เราไปถึงค่อนข้างเช้า จัดแจงเอากระเป๋าไปเก็บเข้าที่พัก โรงแรมของเราอยู่ในย่านที่เรียกว่า Universitat เป็นย่านที่สะดวกมาก ๆ ทั้งร้านอาหาร ทั้งร้านชอปปิ้ง สามารถเดินไปยังจุดที่น่าสนใจได้หลายที่ เราตรงดิ่งไปที่ตลาด La Boqueria อารมณ์เหมือนจตุจักรบ้านเรา ทั้งตลาดมีของน่าสนในหลากหลายมาก ร้านขายน้ำปั่นผลไม้ สีสันสดใส อาหารทะเล ผัก ผลไม้เต็มไปหมด เราเดินไป ชิมไป ดูไป แต่ก็ไม่ได้ตั้งใจซื้ออะไรมากมาย แค่เดินก็เพลินตามากแล้ว อ้อ และมาถึงสเปน ใครอยากลองชิมอาหารท้องถิ่นก็ในตลาดนี้เลย มีแฮมที่เรียกว่า Jamon รสชาติออกเค็ม ๆ แล่บาง ๆ กินกับชีส กับขนมปัง ก็อร่อยไปอีกแบบ ฉันไปเจอเขาขายแบบทั้งชิ้นในห้าง แพคเกจจิ้งน่าสนใจมาก คนถ่ายรูปกันเยอะทีเดียว อาหารที่ฉันได้ลองคือ พริกเม็ดสีเขียวเหมือนพริกหยวก ผัดกับเกลือ แล้วก็ ปลาหมึกตัวเล็ก ๆ ทอดกรอบ อร่อยดีทีเดียว พริกไม่เผ็ดมาก ได้รสเค็มนิด ๆ ของเกลือทะเล ส่วนปลาหมึกก็สดดีแป้งด้านนอกกรอบมาก เนื่องจากฉันไปช่วงหน้าร้อน บนท้องถนนจะเต็มไปด้วยผู้คนแต่งตัวเก๋ ๆ สวยเปรี้ยวกันทั้งนั้น แต่ถ้าจะสังเกตคนบาร์เซโลน่าของแท้แล้วล่ะก็ เขาจะมีอะไรที่แตกต่าง ยิ่งเรื่องของการแต่งตัว สำหรับฉันเรียกว่าคลาสสิคเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า รองเท้า ชุด ทุกอย่างดูลงตัวเข้ากัน สีเสื้อผ้าออกแนวเรียบ ๆ กระเป๋า และรองเท้าหนังดีไซน์เรียบแต่คลาสสิค เราเดินเข้าออกตามถนนเส้นเล็ก ๆ จะมีร้านค้า เรียงราย ทุกอย่างดูน่าสนใจไปหมด ฉันคิดว่ามาถึงสเปนทั้งที ต้องกินปาท่องโก๋สเปนให้ได้ ปาท่องโก๋ที่ว่าเนี่ย คือขนมที่เรียกว่า Churros เป็นแป้งที่เนื้อกรอบนอก นุ่มใน โรยด้วยอบเชยป่น จิ้มกับช็อกโกแลตเข้มข้น ฉันเดินผ่านร้านที่ดูเก่าแก่ และมีลูกค้าเยอะมาก ชื่อร้าน Granja M. Viader เลยได้ทานสมใจอยาก ขอบอกว่าช็อคโกแลตที่เอาไว้จิ้ม รสชาติเข้มข้นจริง ๆ เข้ากับ Churros มาก ๆ ทานคู่กับชาหรือกาแฟ ก็ยิ่งเข้ากัน สิ่งที่พลาดไม่ได้สำหรับทริปนี้คือการเข้าชม Sagrada familia เป็นโบสถ์ที่สร้างมาเป็นร้อยกว่าปียังไม่เสร็จ จนผู้ออกแบบคือคุณ เกาดี ก็เสียชีวิตไปแล้ว โบสถ์มีรูปร่างหน้าตาเหมือนหินแกะสลัก ประดับด้วยกระจกสี เวลาที่แสงแดดส่องกระทบแต่ละช่วงเวลาของวัน จะให้แสงสะท้อนที่แตกต่างกันไป แม้อากาศข้างนอกจะร้อน แต่ภายในโบสถ์ กลับรู้สึกเย็นสบาย ใครคิดว่าจะมาชมที่นี่ควรจะจัดการจองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้า เพราะคนค่อนข้างเยอะ ส่วนอาหารมื้อเย็นของเราวันนี้ ก็หนีไม่พ้นทาปาส อาหารที่ทุกคนที่มาสเปนต้องลอง เพื่อนชาวบาร์เซโลน่า แนะนำร้านชื่อ Vinitus ร้านนี้ไม่รับจองล่วงหน้า ต้องไปเข้าคิวรอเท่านั้น ตอนช่วงที่ฉันไปถึง มีคนรอคิวยาวมาก แต่เราได้รอไม่นานเลย ร้านมีสองชั้น โต๊ะเยอะเพียงพอสำหรับทุกคน ซ้ายมือของฉันเป็นนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย ส่วนขวามือเป็นคนสเปน ที่ดูเหมือนมาสังสรรค์กันกับเพื่อน ฉันแอบมองดูว่าเขาสั่งอะไรกัน ก็ตรงกับที่เพื่อนของฉันบอกมาว่าควรสั่ง เป็นมันฝรั่ง โรยด้วยผงปราปริก้า มายองเนส รสชาติออกเค็ม ๆ อร่อยดีเหมาะกับเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย และก็ยังมีปลาหมึกแว่นชุบแป้งทอด อันนี้เมนูโปรดของฉัน แล้วเราก็สั่ง ไข่เจียวสเปน หน้าตาดูธรรมดา แต่มีความพิเศษตรงไส้จะมีมันฝรั่งด้วย อร่อยอีกเหมือนกัน และก็มีกุ้งที่สดมาก ๆ และเนื้อบนขนมปังที่เราสั่งมาเพิ่มอีก ร้านนี้จานไม่เล็กจิ๋ว สั่งมาห้าอย่างเราก็รู้สึกอิ่มกันมาก แต่ฉันมองเห็นพนักงานทำขนมหวานให้ลูกค้า แม้จะอิ่มมากแล้วฉันก็ยังอยากลอง เป็นเหมือนขนมปังหน้าคัสตาร์ด เสิร์ฟมาขณะที่ยังร้อน ๆ ทานคู่กับกาแฟคาปูชิโน่ เป็นการปิดท้ายวันได้อย่างลงตัวที่สุด เวลาที่มี เหมือนกับว่าเท่าไหร่ก็ไม่พอเพราะบาร์เซโลน่ายังมีที่น่าสนใจอีกมาก เป็นเมืองสำหรับทุกคน อารมณ์เหมือนกรุงเทพ ที่มีของทุกอย่างทุกราคา สำหรับทุกคน ฉันแวะเข้าออกร้านนั้นร้านนี้ ได้ของถูกใจทุกอย่าง เสื้อผ้า รองเท้า ดีไซน์สวย ไม่ซ้ำที่ไหน ถ้าหากอยากซื้อของหรู แพง ก็มีย่านสำหรับคนเหล่านั้น บนถนน Passeig de Gracia ถ้าใคร อยากมาเยือนยุโรปให้ครบทุกรสชาติ ฉันคิดว่าบาร์เซโลน่า คือหนึ่งในนั้น " เครดิตรูปภาพประกอบโดยผู้เขียน "