สวัสดีค่ะ วันนี้ห้อยศรีก็จะขอมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวอีก 1 ที่ ซึ่งก็อาจจะเป็นที่ที่หลาย ๆ คนอาจจะเคยไปกันมาแล้ว หรือสำหรับคนที่ยังไม่เคยไป ห้อยศรีขอคอนเฟิร์มเลยว่า ดีงามพระรามสิบไปเลยค่ะคุณขา!!! เฮ้ย!! ไม่มีนี่หว่า!! แฮ่ ๆ ห้อยศรีก็จะขอแนะนำว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติมากกก บรรยากาศดี อากาศดี ตอนช่วงเย็น ๆ แสงสวย อากาศเย็นลงเบา ๆ สบาย ๆ แถมวิวสวยสุด ๆ โอบล้อมไปด้วยภูเขา มองไปทางไหนก็เห็นเป็นสีเขียวสบายตาไปหมด ถ้าจะไปชาร์จแบตแบบ I love natural แบบห้อยศรี ขอบอกเลยว่าปังมากจ้าแม่!!! ซึ่งที่เที่ยวที่ห้อยศรีพูดมา นั่นก็คือ!!! คือ!!! คือ!!! “อุทยานเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน จังหวัดราชบุรี” นั่นเองค่ะ ก่อนอื่นเลยนะคะ ห้อยศรีก็ไม่เคยไปมาก่อนเหมือนกันค่ะทุกคน บังเอิญมีช่วงวันหยุดยาว เราก็ทำไมคะ!!! ชีพจรลงเท้าสิคะ!!! หาเรื่องไปเที่ยวนั่นเองค่ะ 555 ซึ่งตอนนั้นก็ยังสรุปไม่ได้จะไปเที่ยวไหนดี แล้วอยู่ ๆ น้าโทรมาหา เหมือนรู้ว่าห้อยศรีจะหนีเที่ยวนั่นเองค่ะ 555 น้าก็เลยชวนไปเที่ยวบ้านน้าที่จังหวัดราชบุรีค่ะ ห้อยศรีก็ไม่รอช้าเลยค่ะ รีบหา Reference ดูรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดราชบุรีรอเลยค่ะ ซึ่งก็คิดแล้วว่าจะไปสวนผึ้ง!! ฟาร์มแกะต้องมา ฉันต้องได้วิ่งในทุ่งหญ้ากับฝูงแกะสวย ๆ และต้องได้ทำเทียนหอมสวย ๆ เก๋ ๆ ก็เป็นอันว่าตกลงว่าจะไปบ้านน้าที่ราชบุรีกันเรียบร้อยค่ะ ถึงวันเดินทาง น้าก็มารับห้อยศรีแล้วเราก็ได้เดินทางไปช่วงเย็นวันศุกร์ค่ะ ซึ่งระหว่างทางก็ไม่ได้ตื่นเต้นไรสักเท่าไหร่ค่ะทุกคน ด้วยความที่ว่าเรารู้ว่าไปถึงก็นอนก็ไม่ได้อะไรมากมายใช่มั้ยคะ ห้อยศรีก็ก้มหน้าไถโทรศัพท์มาตลอดทาง แต่ช่วงระหว่างทางเข้าบ้านน้า ก็คือสัญญาณโทรศัพท์เริ่มหายละ ก็คิดว่าทำไมแค่ราชบุรีเองทำไมสัญญาณไม่มีอะ? ห้อยศรีก็เลยได้เริ่มพักสายตาจากจอโทรศัพท์ มามองสิ่งแวดล้อมรอบข้างบ้าง ถึงกับได้ตื่นเต้นจริง ๆ ว่าแบบเอ๊ะทำไมกระจกเย็นเจี๊ยบ!!! จากนั้นน้าปรับกระจกลงให้สัมผัสอากาศข้างนอกดู คือมันเย็นสบายมากเลยทุกคน เหมือนเอาแอร์มาเปิดข้างนอก ซึ่งแค่นี้ก็ทำให้ห้อยศรีตื่นเต้นละว่าคืนนี้บ้านน้าต้องอากาศดีแน่ ๆ พอถึงบ้านน้าปุ๊บ!! ยกของสัมภาระไรลงเรียบร้อย น้าก็เอาเต็นท์มากางให้หน้าบ้าน ห้อยศรีก็ตกใจสิ เดี๋ยว!!! น้า!!! ให้หนูนอนข้างนอกจริง ๆ สิ? น้าบอกจะได้ ได้รู้สึกเหมือนนอนเขาใหญ่ไง !!! เอาแล้ว!!! น้าเล่นห้อยศรีแล้ว!!! ก็เอาวะไหน ๆ ก็มาแล้วเปลี่ยนประสบการณ์การนอนดู ซึ่งมันก็ตะกุกตะกักหน่อย ก็นอนได้ แต่ท้องฟ้าสวย มีดาวเต็มเลย ถ่ายรูปมันไม่เห็น หรือเรียกว่าห้อยศรีถ่ายไม่เป็นไม่รู้ค่ะ 555 เลยได้แบบนี้มา เช้าวันรุ่งขึ้น !!! ห้อยศรีพร้อมเที่ยวแล้วน้า ก็บอกน้าไปที่นี่ก่อนแล้ววนกลับมา ไปนี่ต่อนะน้า ก็ร่ายยาวใส่น้าไปๆ และก็ได้เวลาออกเดินทางกัน Let’s go !!! ก็มาถึงเรื่องพีคที่พอออกจากบ้านเสร็จ น้าขับรถเลี้ยวเข้าไปข้างใน ไม่ได้เลี้ยวออกไปข้างนอก ห้อยศรีก็ไปไหนหว่า น้าก็เลยบอกว่าเดี๋ยวน้าพาไปที่นี่ดีกว่าแล้วจะติดใจ ห้อยศรีก็ใจบางแล้ว โห่แผนที่วางไว้อดหมด ทุ่งหญ้าแสนสวยของฉัน ==! ก็เลยเอาวะ ไปไหนไปกัน ห้อยศรีก็บ่น ๆ ๆ น้า ไหนพาหนูไปเที่ยวไง โห่ น้าอะ ก็มาสะดุดใจตอนที่เราบ่นน้ายังไม่ทันจบ น้าก็จอดรถแล้วบอกห้อยศรีพอ ๆ ๆ เลิกบ่น ถึงแล้ว ไปลงไป! ก็ลงรถ พอเปิดประตูรถเท่านั้นแหละ เหมือนมีลมวิเศษพัดเข้ามาตอนห้อยศรีเปิดประตูลงไป แล้วแบบมันสดชื่นมากเลยค่ะทุกคน มองไปข้างหน้าคือเห็นดอกไม้สวย ๆ บ่อน้ำขนาดใหญ่ พร้อมด้วยรายล้อมไปด้วยภูเขา คือมันดีมาก ๆ เหมือนได้พักปอดจากฝุ่นควันในกรุงเทพฯ เหมือนล้างเครื่องฟอกอากาศของเราใหม่ 555 ซึ่งมันดีจริง ๆ รู้สึกเข้าใจคำพูดที่เค้าว่า “ธรรมชาติบำบัด” มันเป็นยังไง จากนั้นหลังจากที่น้าให้ดื่มด่ำความสดชื่น อากาศดี แถมฟรีวิวสวย ๆ ภูเขาเขียว ๆ โอบล้อมและน้าก็ชวนห้อยศรีไปต่อกันค่ะ แต่ขอบอกก่อนเลยนะคะ ตรงนี้คือวิวดี สวย ทุกคนต้องมาโพสถ่ายรูปกันตรงจุดนี้กันเลยค่ะ ไปต่อกันดีกว่า!!! ก็ขึ้นรถเดินทางต่อ ซึ่งทางที่ไปต่อก็คือเลาะภูเขาขึ้นมาบนอุทยานค่ะ ทางก็คือธรรมชาติมาก ๆ ๆ ๆ ขรุขระหน่อย รถอาจจะขับขึ้นยากนิดนึง เนื่องจากเป็นทางลูกรัง แต่ขอบอกเลยค่ะว่าวิวตอนขึ้นก็คือสวย สิบ สิบ ไปเลยค่ะคุณ!!! แล้วเราก็มาถึงฝายน้ำบนอุทยานค่ะ อากาศจะเย็นกว่าข้างล่างที่เราแวะมาจุดแรกนะคะ เพราะว่าต้นไม้จะเยอะมาก มีแสงแดดน้อย ๆ น้ำใสปิ๊ง เย็นสดชื่นสุด ๆ ไปเลยค่ะ ห้อยศรีว่าห้อยศรีตกหลุมรักที่นี่ไปแล้วค่ะทุกคน!!! ก็จะรอช้าอยู่ทำไมใช่มั้ยคะทุกคน ห้อยศรีตบะแตกฟินไม่ไหวแล้วก็เล่นน้ำเลยค่ะทุกคน น้ำใส เย็นเจี๊ยบ สดชื่นสุด ๆ ไปเลยค่ะ อ้อแล้วห้อยศรีจะบอกว่า ที่นี่มีอ่างจากุชชี่ด้วยนะจ๊ะ ซึ่งเสียดายไม่มีรูปให้ทุกคนดู เพราะเปียกเรียบร้อยแล้วค่ะ 555 ซึ่งมันก็เกิดจากการที่น้ำเซาะหินตามธรรมชาตินั่นเองค่ะ ก็เลยเกิดแอ่งน้ำขนาดเล็กคล้ายๆ อ่างน้ำนั่นแหละ แต่เพื่อความสวยหรู เว่อวังของห้อยศรีน้านนน จะชื่อธรรมดาได้ไงใช่มั๊ยคะ 555 ห้อยศรีก็ไปแช่น้ำมโนว่าอยู่คฤหาสน์ ประมาณตัวว่าเป็นลูกเศรษฐีแช่น้ำนมอยู่ 555 แต่มันสบายมากเลยนะคะทุกคน ก็ยังไม่จบแค่นั้นที่แช่อ่างจากุชชี่ เรามาต่อกันด้วยสไลเดอร์ของอุทยาน 555 ทุกคนคงเข้าใจความมโนของห้อยศรีใช่มั้ยคะ ไม่ใช่ว่ามีสไลเดอร์จริง ๆ หรอกค่ะ แต่มันคือช่องโขดหินน้อย ๆ ที่พอดีตัวจากน้องอ่างจากุชชี่ของเรานั่นเองค่ะ คืออ่างจากุชชี่เนี่ยจะสูงกว่าน้ำฝายข้างล่างปกตินิดนึง ก็จะมีโขดหินน้อย ๆ ให้เราไหลตัวลงไปได้เหมือนสไลเดอร์นั่นเองค่ะ หลังจากเล่นน้ำได้พักใหญ่ ๆ ก็นานเลยค่ะ เป็นชั่วโมง เพราะว่าน้าที่รอก็คือหลับรอไปเลยค่ะ 555 ก็ยังจะไม่จบแต่เพียงเท่านี้ น้าบอกมีไฉไลกว่านี้อีก น้าก็ชี้นิ้วบอกให้เดินขึ้นไปอีกนิดนึง จะเห็นผีเสื้อลายสวย ๆ เต็มเลย ลองเดินไปดูสิ เราก็ไม่รอช้า ไปดูผีเสื้อกันจ้า!!! หลังจากนั้นหลงอยู่กับกลุ่มผีเสื้ออยู่อีกสักพัก มันน่าตื่นเต้นมากเลยค่ะทุกคน คือผีเสื้อมีสีแปลก ๆ ที่เราไม่เคยเห็น มีลายสวย ๆ ดูเวลามันบินคือแบบว่าห้อยศรีอยู่ท่ามกลางฝูงผีเสื้อสวย ๆ นี่ยิ่งกว่าคิดว่าตัวเองอยู่ทุ่งลาเวนเดอร์อีกค่ะ คือ มันเพลินตามากเลยทุกคน ดูแล้วไม่เบื่อเลยค่ะ ซึ่งก็เป็นอันว่าห้อยศรีได้รู้สึกหลงรักที่นี่ไปแล้วค่ะ ซึ่งอย่างนึงเลยที่ห้อยศรีได้มาจากการไปเที่ยวในครั้งนี้ ก็คือ บางทีเราไม่ต้องอยู่กับในโลกของโทรศัพท์ตลอดเวลาก็ได้ เราควรออกมามองหาประสบการณ์จากโลกภายนอกดูบ้าง เพราะบางทีเราอาจจะสนใจแต่จอโทรศัพท์ จนเราละเลยและไปลดความสำคัญของคนที่อยู่ตรงหน้าเรา โดยที่เราไม่รู้ตัวก็ได้ค่ะ ห้อยศรีฝากไว้ให้คิด ด้วยความหวังดีนะคะทุกคน ภาพทั้งหมดโดย : ห้อยศรี ค่ะ ^^ #ห้อยศรีมณีนุช อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !