ถ่ายรูปสวย ปราสาทหินพิมาย นครราชสีมา ที่เที่ยวโคราช โบราณสถาน ย้อนรอยประวัติศาสตร์
หลายคนที่อินกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ หรือใครที่ชอบสถานที่ท่องเที่ยวแนวโบราณสถานสวยๆ ชอบถ่ายรูปสถาปัตยกรรมโบราณอันมีเสน่ห์สุดลึกลับ เราชวนมา เที่ยวโคราช ปักหมุดกันที่ ปราสาทหินพิมาย นครราชสีมา ไปย้อนรอยประวัติศาสตร์กับ โบราณสถาน อันสวยงาม และมีมนต์ขลังกันได้ใน อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย กันได้เลยค่ะ
เที่ยวโคราช ปราสาทหินพิมาย
ปราสาทขอม นับพันปี
การเดินทางไปยัง ปราสาทหินพิมาย นั้นไม่ยากเลยค่ะ ที่นี่ตั้งอยู่ใน อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย อำเภอพิมาย ซึ่งห่างจากตัวเมืองนครราชสีมาประมาณ 60 กิโลเมตรเท่านั้นค่ะ ถ้าขับรถไปชิลๆ ประมาณ 40 นาทีก็ถึงแล้ว โดยภายในสถานที่จะแบ่งเป็น 2 จุดใหญ่ๆ ด้วยกันคือ ในส่วนของโบราณสถาน และส่วนพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นั่นเอง
อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย
อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย จะมีค่าเข้าชมสำหรับคนไทย 20 บาทเท่านั้นค่ะ ภายในอุทยานประวัติศาสตร์ ถือเป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกที่หนึ่งเลยก็ว่าได้ ด้านในก็จะประกอบไปด้วยโบราณสถานสมัยขอมทั้งหมด ตั้งแต่ชิ้นเล็กๆ ไปจนถึงชิ้นส่วนใหญ่โตมากๆ แม้จะไม่อลังการเท่า ปราสาทหินพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ แต่ก็ถือว่าใหญ่โตโอ่อ่า และคงความสมบูรณ์ไม่แพ้กันค่ะ
ความเชื่อ และ สถาปัตยกรรม
ปราสาทหินพิมาย สร้างขึ้นตามความเชื่อเกี่ยวกับสวรรค์ และโลกมนุษย์ ค่ะ ที่นี่เป็นปราสาทหินทรงขอมโบราณแบบบาปวน สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ราวๆ พุทธศตวรรษที่ 16 เพื่อใช้เป็นเทวสถานของศาสนาพราหมณ์นั่นเอง
ลักษณะผังของปราสาทหินพิมายนั้นสร้างขึ้นคล้าย เขาพระสุเมรุ มีองค์ปราสาทประธาน ซึ่งอยู่ใจกลางของเทวสถานค่ะ อีกทั้งปราสาทหินพิมาย เป็นปราสาทหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดนครราชสีมาค่ะ
หลังจากได้ตั๋วเข้าชมเรียบร้อยแล้ว ตามเรามาเดินชมไปรอบๆ ปราสาทหินพิมาย ชมแต่ละจุดของ โบราณสถาน ที่น่าสนใจกันค่ะ
สะพานนาคราช
เริ่มจากทางเข้า สิ่งแรกที่เราจะได้เห็นเลยก็คือ สะพานนาคราช ค่ะ ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าโคปุระด้านทิศใต้ สร้างด้วยหินทราย มีผังเป็นรูปกากบาท กว้าง 4 เมตร ยาว 31.70 เมตร ยกพื้นสูง ความโดดเด่นก็คือ ราวสะพานที่ทำเป็นตัวนาค ที่ปลายราวสะพานทำเป็นรูปนาคราชชูคอแผ่พังพานเป็นรูปนาค 7 เศียร นั่นเอง
สะพานนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางเข้าสู่ศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ตามคติความเชื่อเรื่องจักรวาล เชื่อว่าเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับโลกสวรรค์ ซึ่งเป็นคติที่ถือสืบกันมาในศาสนาฮินดู และพุทธศาสนานิกายมหายานค่ะ
ซุ้มประตู และ กำแพงแก้ว
เมื่อเราเดินผ่านสะพานนาคราชเข้ามาด้านใน เราจะเจอกับซุ้มประตู และกำแพงแก้ว ซึ่งซุ้มประตู หรือที่เรียกว่า โคปุระ จะตั้งอยู่กึ่งกลางของแนวกำแพงแก้ว ก่อด้วยหินทราย สูงประมาณ 8 เมตร อยู่ในแนวตรงกันหมดทั้ง 4 ด้านค่ะ คือ ทิศเหนือ-ใต้ อยู่ตรงกึ่งกลางของกำแพง
ทิศตะวันออก-ตะวันตกค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย แผนผังโดยรอบของซุ้มประตูจะมีลักษณะเป็นรูปกากบาท จากกำแพงแก้วเข้ามาด้านใน มีความเชื่อกันว่าเป็นดินแดนของโลกสวรรค์ อันเป็นที่อยู่ของเทพเจ้านั่นเอง ตรงมุมนี้ถ่ายรูปสวยนะ บอกเลย!
ซุ้มประตู และ ระเบียงคด
ระเบียงคด นั้นก่อด้วยหินทราย เป็นระเบียงทางเดินหลังคาซุ้มโค้ง มีแผนผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าล้อมรอบปราสาทประธาน ค่ะ มีซุ้มประตูอยู่กึ่งกลางทั้ง 4 ด้าน โดยมีตำแหน่งที่ตั้งตรงกับแนวของประตูเมือง และประตูทางเข้าปราสาทประธาน
ปรากฏหลักฐานสำคัญที่ซุ้มประตูระเบียงคดด้านทิศใต้ คือ จารึกบริเวณกรอบประตูด้านทิศตะวันออกของห้องกลาง จารึกด้วยอักษรขอมโบราณภาษาเขมร ระบุชื่อ “กมรเตงชคตวิมาย” และกล่าวถึงการสร้างรูปเคารพสำคัญชื่อ “กมรเตงชคตเสนาบดีไตรโลกยวิชัย” ตรงกับ พ.ศ.1651 ตลอดจนปรากฏพระนามของขุนนางชั้นสูงและพระนามพระมหากษัตริย์ คือ พระเจ้าธรณีนทรวรมันที่ 1 อีกด้วย
ชาลาทางเดิน
เมื่อเดินเข้ามาสู่ด้านใน เราจะได้เจอกับ ชาลาทางเดิน ซึ่งก่อสร้างด้วยหินทราย เชื่อมต่อระหว่างซุ้มประตูด้านทิศใต้ของระเบียงคดที่ล้อมรอบปราสาทประธานค่ะ
โดยทำทางเดินยกพื้นสูงประมาณ 1 เมตร แบ่งเป็น 3 ช่องทางเดิน ผังทำเป็นรูปกากบาท สันนิษฐานว่าแต่เดิมน่าจะเป็นระเบียงโปร่ง ที่มีหลังคามุงกระเบื้อง รองรับด้วยเสาไม้รองรับ คาดว่าสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 17 ค่ะ เก่าแก่มากจนไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว!
ปราสาทประธาน
เดินมาเรื่อยๆ ถ่ายรูปเพลินๆ แป๊ปเดียวก็มาถึง ส่วนสำคัญที่สุดของปราสาทหินพิมายค่ะ นั่นก็คือ ปราสาทประธาน เป็นปราสาทองค์ใหญ่ สร้างขึ้นราวพุทธศรรตวรรษที่ 16-17 ก่อสร้างด้วยศิลาทรายสีขาวหันหน้าไปทางทิศใต้ ซึ่งแตกต่างจากศาสนสถานแบบขอมในที่อื่นๆ ที่มักจะหันหน้าไปทางทิศตะวันออก
ปราสาทประธานประกอบด้วยส่วนสำคัญ 2 ส่วนคือ มณฑป และ เรือนธาตุ มีการจำหลักลวดลายประดับตามส่วนต่างๆ เช่น หน้าบัน ทับหลัง เป็นภาพเล่าเรื่องรามเกียรติ์และเรื่องราวทางพุทธศาสนา ด้านทิศใต้ เป็นภาพศิวนาฏราช
ภายในเรือนธาตุเป็นส่วนสำคัญที่สุดเรียกว่า ห้องครรภคฤหะ เป็นที่ประดิษฐานรูปเคารพสำคัญ พื้นห้องตรงมุมด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือมีร่องน้ำมนต์ต่อลอดผ่านพื้นห้องออกไปทางด้านนอก เรียกว่า ท่อโสมสูตร
ปรางค์พรหมทัต
ปรางค์พรหมทัต ตั้งอยู่ด้านหน้าของปราสาทประธานค่ะ ก่อสร้างด้วยศิลาแลง สร้างขึ้นราวๆ พุทธศตวรรษที่ 18 มีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสย่อมุม ประตูก่อเป็นมุขบื่นออกมาทั้ง 4 ด้านค่ะ ภายในประดิษฐานรูปจำลองของ พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ซึ่งเป็นมหาราชองค์สุดท้ายของอาณาจักรขอม
นอกจากนี้ เรายังได้ชมวัตถุโบราณของปราสาทบางชิ้น ที่ยังคงตั้งอยู่ที่นี่อีกด้วยคะ่ หินแต่ละก้อนผ่านเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มามายมาก และยังอยู่ให้เราได้เห็น แอบขนลุกเบาๆ ถึงความอัจฉริยะของคนรุ่นก่อนที่สรรค์สร้างจริงๆ ค่ะ
ภายในอุทยานประวัติศาสตร์เรียกได้ว่า ถึงแดดจะแรงหน่อยๆ แต่ก็มีความร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่สีเขียว ตัดกับตัวปราสาทหินมากๆ ถ่ายรูปสวยไปอีกค่ะ ใครที่ชอบถ่ายรูปแนวๆ นี้ ต้องชอบแน่ๆ เชื่อสิ!
บรรณาลัย
เราเดินต่อไปยัง บรรณาลัย ซึ่งตั้งอยู่บริเวณลานชั้นนอกปราสาทหินค่ะ ตั้งอยู่ระหว่างกำแพงแก้วและซุ้มประตูระเบียงคด เป็นอาคาร 2 หลังขนาดเดียวกัน ผังอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายกพื้นสูง ก่อด้วยหินทรายกั้นเป็นห้องยาวตลอดแนว
ตรงบริเวณนี้ยังพบร่องรอยหลุมเสารูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส คาดว่าเดิมคงเป็นหลังคาเครื่องไม้มุงกระเบื้องค่ะ เชื่อกันว่า บรรณาลัย ก็คือ สถานที่เก็บรักษาคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาของคนยุคเก่าก่อนนั่นเอง
พลับพลาเบื้องเครื่อง
ที่นี่เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าค่ะ โดยภายในอาคารแบ่งออกเป็น 2 ห้อง สันนิษฐานว่า ตรงนี้เคยเป็นที่สำหรับใช้เป็นที่พักในการเดินทาง และเตรียมพระองค์ของพระมหากษัตริย์ หรือเจ้านายชั้นสูง เมื่อเสด็จมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาภายในปราสาทหินพิมายนั่นเอง คาดว่าตรงนี้สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 16 พร้อมๆ กันกับการสร้างปราสาทหินพิมายค่ะ
สำหรับคนที่ชอบเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์แล้ว ที่นี่เป็นโบราณสถานที่ทรงคุณค่ามากๆ และยังสามารถเดินเล่น ถ่ายรูปสวยๆ บนพื้นที่กว่า 115 ไร่ ได้อย่างไม่มีเบื่อแน่นอน ตั้งแต่บริเวณซุ้มประตูและกำแพงแก้ว หรือซุ้มประตูหรือโคปุระ ไปจนถึงปรางค์ประธาน ที่ถูกก่อสร้างด้วยหินทรายสีขาวเลยค่ะ
เอาเป็นว่าถ้ามีเวลาว่างในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ก็ลองชวนเพื่อนๆ หรือครอบครัว ขับรถกันมาเที่ยวที่นี่ดูนะ รับรองจะติดใจ และอินจนต้องเก็บไปฝันอย่างแน่นอน
- ที่อยู่ : ตำบลในเมือง อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา
- พิกัด : https://goo.gl/maps/224momsF3rCv6ewf9
- เปิดให้เข้าชม : 07.00-18.00 น.
- ค่าเข้าชม :
ชาวไทย 20 บาท
ชาวต่างชาติ 100 บาท
ยกเว้นค่าเข้าชมสำหรับนักเรียน/นักศึกษาในเครื่องแบบ และภิกษุสามเณร - โทร : 0-4447-1568
- เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย
รวมที่เที่ยว ที่พัก อัพเดทเทรนด์ ฟินทั่วไทยและต่างประเทศ
อ่านง่าย สบายกว่าที่เคย! บนแอปพลิเคชัน ทรูไอดี