เมื่อหนูไม่อยากเรียนพิเศษ..หนูไม่เรียนพิเศษ..หนูไม่อยากเรียนพิเศษไม่เอา... หนูไม่เรียนพิเศษเรียนเสริม ดนตรี ศิลปะ กีฬา ภาษา หนูอยากเรียนอะไรไหม ?ลองเล่นเปียโนไหม?เล่นไอซ์ สเก็ตแล้วหนูชอบ งั้นเดี่ยวแม่สมัครคอร์สเรียนให้ไหม ไม่เอาหนูไม่เรียน หนูไม่เรียนพิเศษ เด็ดขาดเลิกเรียนไปเรียนภาษาอังกฤษ กับเพื่อนนะไม่เอา หนูจะเล่น หนูไม่เรียนคำถามที่แม่ถามบ่อยๆ แต่ถูกปฏิเสธมาตลอดเมื่อไม่อยากเรียน ยังไม่พร้อม งั้นเราออกเดินทางกันเวลาที่ผ่านไป ไม่หวนย้อนกลับ การเดินทาง คือประสบการณ์ การเรียนรู้ นอกห้องเรียน ทุกครั้งที่เราออกเดินทาง ไม่ใช่เเค่จุดหมายปลายทางที่รอเค้าอยู่ เเต่ยังมีเรื่องราวระหว่างทางอีกมากมายที่ให้ลูกได้เรียนรู้ พาลูกออกไปเรียนรู้โลกกว้าง ๆ ตอนที่เค้ายังต้องการเราโลกใบนี้คือห้องเรียนของลูก เเละมีอะไรให้ลูกต้องเรียนรู้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดนั่งรถไฟไป..ปีนังนี่ไม่ใช่การเดินทางไปมาเลเซียครั้งแรกของพวกเรา 3 คน แต่เป็นการเดินทางโดยรถไฟข้ามประเทศครั้งแรก จุดหมายปลายทางของการเดินทางครั้งนี้คือ เกาะปีนัง.ประเทศมาเลเซียการเดินทางครั้งนี้เราไปกัน 3 คนแม่ลูก ความปลอดภัยบนรถไฟต้องมี เราขอเลือกเป็น ตั๋วชั้น 1 ขบวน CNR กรุงเทพ -หาดใหญ่ ขบวนที่ 31 ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพถึงหาดใหญ่ 16 ชม.16 ชม.เราถึงแค่หาดใหญ่ เอาไงต่อดี ต่อรถไฟ หรือ เหมารถไปปีนังเลยก็สะดวกดี มีทางเลือก ในการเดินทางอีกหลายทางหนูอยากเดินทางโดยทางไหน เราขอความคิดเห็นของลูก เพื่อนร่วมเดินทางในครั้งนี้แม่หยิบไอแพดมาวาดเป็นภาพและอธิบายให้เค้าเข้าใจเสียงดังเข้า 2 หูแม่ชัดเจน หนูจะขึ้นรถไฟ ไม่เอารถ ช้อยส์ 2 ช้อยส์ 3 โดนตัดทิ้งเก็บใส่ไว้ในสมองแม่เผื่อเป็นแผนสำรองรถไฟ 3 ต่อ เรือ 1 ต่อ ทริปก่อนเปิดเทอม บทเรียนนอกห้องเรียน กำลังจะเริ่มต้น🚉สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ -ชุมทางหาดใหญ่ (14.50- 7.30 )🚂ชุมทางหาดใหญ่- ปาดังเบซาร์ ( 8.55 - 9.50 )🚈ปาดังเบซาร์ - Butterworth ( 12.35 -14.25 เวลามาเลเซีย ) เวลาที่มาเลเซียจะเร็วกว่าที่ประเทศไทย 1 ชม.🛳ต่อเรือ Feri ข้ามไปเกาะปีนัง ( ประมาณ 20 นาที )ระยะทาง1115 กิโลเมตร 24 ชั่วโมง( 1 วัน ) ที่จะต้องเดินทาง จนถึงเกาะปีนัง เมื่อแผนการเดินทางชัด การเตรียมตัวขั้นต่อไปบทเรียนนอกห้องเรียนเริ่มทำงาน จัดกระเป๋า วางแผน เรื่องเล็กๆที่การเดินทางได้สอนพวกเค้าแล้วในเรื่องความรับผิดชอบ คิดประมวลว่าต้องใช้กระเป๋าแบบไหน เตรียมของไว้ตรงไหนจะได้หยิบใช้ได้สะดวกลูกๆเตรียมกระเป๋า เตรียมเสื้อผ้า ส่วนแม่ต้องเตรียมเสบียง เตรียมของแก้เบื่อ กิจกรรมที่จะทำได้ในระหว่างการเดินทางอันยาวนานข้าวเหนียวหมูฝอย สมุดระบายสี หนังสือนิทาน เรื่องที่ชอบอ่านมากๆ ตาตุ ปาตุกับการเดินทางด้วยรถไฟ สมุดบันทึก สี เก็บเตรียมพร้อมใส่กระเป๋าเป้พาสปอร์ต ตั๋วรถไฟ บุคกิ้งโรงแรม ตั๋วเครื่องบินขากลับ เชคของทุกอย่างให้พร้อมก่อนออกเดินทาง16 พฤษภาคม 256612.00 ล้อหมุนเรียก แท็กซี่มารับไปส่งที่สถานีกลางบางซื่อ รถไฟทางไกลตอนนี้ต้องมาขึ้นที่บางซื่อกันหมดแล้ว กินมื้อเที่ยง ที่เป็นมื้อบ่ายเมื่อมาถึง อิ่มท้อง เข้าห้องน้ำ เตรียมตัวขึ้นรถไฟ14.50 เสียงเจ้าหน้าที่เรียกให้เตรียมตัวขึ้นรถไฟด่วนพิเศษ "ทักษิณารัถย์" CNR กรุงเทพ -หาดใหญ่ ขบวนที่ 31 พร้อมป้ายที่ชานชลาที่บอกว่าต้องไปต่อแถวขึ้นรถไฟกันได้แล้ว เสียงเจ้าหน้าที่อีกครั้งที่เรียกให้ผู้โดยสารชั่วโมงที่ 1 ความตื่นเต้นกับรถไฟขบวนนี้ ของ 2 เด็ก ทำให้เกิดการสำรวจไปทั้งโบกี้ สำรวจทั้งห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ วิ่งเข้าออกห้องน้ำ แล้วลองล็อคประตู ในห้องที่เราอยู่ก็จะขึ้นไฟแดงว่ามีคนใช้อยู่ วิ่งเล่นทดลองกันอยู่สักพัก ท้องเริ่มหิวขอเสบียงข้าวเหียวหมูฝอยที่พกมา นั่งกินข้าวเหนียวมองวิว ข้างทางที่ค่อยๆเปลี่ยนไป ท้องฟ้า วิวข้างทางผู้คนข้างทางรถไฟรถไฟยังคนเดินหน้ามุ่งสู่ภาคใต้ของประเทศไทย แวะจอดบ้างบางสถานี แต่ไม่ถึงกับบ่อยมาก เพราะรถไฟขบวนนี้เป็นขบวนด่วนพิเศษ บางสถานีก็เลยผ่านไป จนมาถึงสถานีราชบุรี เราได้ยินเสียงพนักงานรถไฟ เข้ามาถามเราว่า กินก๋วยเตี๋ยวปลาราชบุรีไหม ใครผ่านมาที่นี่ต้องลองกินนะ กล่องละ 10 บาท จะซื้อรีบไปยืนตรงทางขึ้นเลยนะ เราก็จะลองหรือไม่ลองดีนะ ข้าวเหนียวหมูก็เพิ่งกินไป อ๊ะ ไหนไหนก็มาหล่ะ ไปแย่งกันซื้อสักหน่อยละกัน ต้องใช้คำว่าแย่งเพราะ เป็นการขายก๋วยเตี๋ยวที่ค่อนข้างชุลมุน มีเวลาไม่นานมากที่รถไฟจอด นั่งกินก๋วยเตี๋ยวปลาบนรถไฟ ท้องฟ้าสองข้างทางเริ่มมืดลงพระอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า19.00 สถานีหัวหิน 4 ชั่วโมงผ่านไป เรามาถึงสถานีหัวหิน รถไฟจอดสักพักใหญ่ เจ้าหน้าที่ คุณลุงมาเปลี่ยนที่นั่งเราให้เป็นที่นอน จากที่นั่ง ที่เรานั่งมา 4 ชั่วโมงตอนนี้กลายมาเป็น เตียง 2 ชั้น 2 ฝั่ง เป็นห้องนอนของเราในค่ำคืนนี้สะดุ้งตื่นมาตอนประมาณตีสามอีกไม่ไกลแล้วเราจะถึงชุมทางหาดใหญ่ ตีห้าเด็กๆตื่นกันขึ้นมาเปลี่ยนชุด เตรียมพร้อมกับการเดินทางในเช้าวันนี้ที่เราจะมุ่งหน้าสู่ประเทศมาเลเซีย17 พฤษภาคม 25667.30 น. ชุมทางหาดใหญ่ รถไฟจอดให้ผู้โดยสารลงลากกระเป๋ากันลงมาจากรถไฟไปปาดังเบซาร์ค่ะ ผู้ใหญ่ 1เด็ก 2 ยื่นเงินจ่ายไปพร้อมกับรับตั๋วรถไฟมา รถออก 8.55 นะ มาให้ตรงเวลานะครับ พนักงานขายตั๋วบอก ขอบคุณมากค่ะพี่อากาศร้อนยามเช้าที่หน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ มีรถกะป๊อ เรียกให้เราขึ้นถามว่าจะไปที่ไหน เราคิดว่าไม่ไกลมากกับร้านที่เราจะไปกินเลยพา2เด็กเดินไป"โกตี๋โอชา" ป้ายหน้าร้านที่เด่นชัด และเป็นเมนูที่ต้องสั่งกินเช้านี้ บักกุดเต๋สิงค์โปร์8.55 ชานชลาหมายเลข 4 รอรถไฟที่จะพาเราไปต่อที่ชายแดนไทย มาเลเซีย ปาดังเบซาร์ รถไฟมาช้าเล็กน้อยรถไฟมาแล้ว เดินทางกันต่ออีกประมาณ 50 นาที เสียงของพนักงานรถไฟเรียกให้พวกเราลงที่ปาดังเบซาร์ฝั่งมาเลเซีย รถไฟขบวนนี้มีทั้งขาวไทย ชาวมาเลย์ นั่งท่องเที่ยวที่ดูเหมือนจะเป็นคนจีน หรือคนเกาหลี มาหน้าหลายตา ทุกคนมาต่อคิวเพื่อผ่านมาตรวจคนเข้าเมือง มาเลเซีย คิวยาวนิดหน่อย แต่ก็ไม่นาน ถึงคิว3 คนแม่ลูก เจ้าหน้าที่ตม.เอาพาสปอร์ตไปประทับตรา. และถามว่าพวกเราจะไปไหน กลับวันไหน We will go to Penang and Go Back on 20 May .ไม่มีคำถามอื่นอีก คงเป็นเพราะพวกเราเคยมามาเลย์กันแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 พาสปอร์ตถูกยื่นกลับมาให้เรา ได้ไปต่อกันแล้วมองไปที่นาฬิกาที่แขวนผนังบนเครื่องขายตั๋วรถไฟอัตโนมัติ ปรับเวลาเร็วกว่าที่ไทย 1 ชั่วโมง มาเลย์เร็วกว่าเรา 1 ชม. จริงๆ เวลาคงไม่ได้เร็วกว่าแต่เป็นเพราะเหตุผลทางการทำธุรกิจ มาเลเซียจริงปรับเวลาให้เป็นเหมือนที่สิงค์โปร์ตอนนี้เราต้องซื้อตั๋วรถไฟไปลงที่บัตเตอร์เวอร์ท เป็นสถานีที่เราจะต้องไปต่อเรือเฟอรี่เพื่อข้ามไปเกาะปีนัง10.30 เวลาไทย 11.30 เวลามาเลเซีย รถไฟ KTM Komuter จะออกจากปาดังเบซาร์ เวลา 12.35 อีก 1 ชม. พาเด็กๆไปนั่งรอรถไฟที่ชานชลาหมายเลข212.35 ตรงเวลาพอดี รถไฟที่หน้าตาเหมือนรถไฟฟ้ามาจอดเทียบชานชลาหมายเลข 2 เด็กขึ้นไปหาที่นั่งที่ยังว่าง นั่งตรงไหนก็ได้ไม่ได้มีการจองที่นั่งมา2 ชม. ที่จะนำทางเราไปถึงสถานีบัตเตอร์เวอร์ท ณ เวลานื้ เราก็เข้ามาอยู่ในประเทศมาเลเซียแล้ว สัญญาณโทรศัพท์ของประเทศไทยเริ่มที่จะใช้ไม่ได้ สองชั่วโมงเราจะถึงจุดหมายปลายทางที่เกาะปีนัง ไม่สิ ต้องข้ามเรืออีก เปิดโรมมิ่งเชื่อมต่อกับเครือข่ายโทรศัพท์ของมาเลเซียสถานีบัตเตอร์เวอร์ท ในที่สุด เราก็มาลงกันที่นี่เดินตามลูกศรเพื่อที่จะไปต่อเรือเฟอรี่ข้ามไปเกาะปีนัง3 คนแม่ลูกค่อยๆเดินขึ้นเรือหาที่นั่ง ไม่นานเรือก็ข้ามฝั่งมาถึงเกาะปีนัง ถึงซะที การเดินทาง 24 ชม.จากกรุงเทพมาถึงที่นี่....ปีนัง มาเลเซียเราก็เรียก Grab ไปส่งที่โรงแรมที่จองไว้ ตอนนี้คือต้องการทิ้งตัวและนอนพักสักหน่อยก่อนไปหาอะไรกินเช็คอิน พาเด็ก อาบน้ำ แม่ขอพักสายตาสักพัก ส่วนเด็กใช้แบตรุ่นไหนแบตไม่หมด หาอะไรเล่นก่อนเสียงนาฬิกาปลุกดังและเราก็ออกเดินเที่ยวเมืองปีนัง ยามเย็นหาอะไรลงท้องTok Tok Mee Bamboo Noodle ร้านบะหมี่เส้นสดที่ทำเองTai Tong Dimsum ร้านติ่มซำที่มีคนต่อคิวกินกันมีเมนูเด็ดให้ต้องลอง ขนมจีบเผือก ฮะเก๋า และเมนูของทอดต่างๆ18 พฤษภาคม 2566สวนผีเสื้อ Entopia แหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติที่นี่มีผีเสื้อหลายชนิดจัดแสดงให้ผู้ที่เข้ามาชมได้สัมผัสกับผีเสื้ออย่างใกล้ขิดนอกจากผีเสื้อแล้วยังมี แมลงต่างๆ กบ แมงมุม ตุ๊กแก ค่อยๆเดิน ค่อยดู จดบันทึกด้วยสายตาบ้าง ด้วยกล้องถ่ายรูปบ้าง ที่นี่ก็เปรียบเหมือนเป็นโรงเรียนที่พา 2 นี้มาเรียนรู้เรื่องราวของธรรมชาตินอกห้องเรียน หมู่บ้านชาวประมง "Chew Jetty" แหล่งมรดกโลกแห่งปีนังเป็นบ้านไม้เก่าแก่ ผสมผสานศิลปะแบบจีน ยื่นไปในทะเล เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตก และมองไปเห็นสะพานที่ทอดยาวข้ามฝั่งมายังเกาะปีนัง ถ้าเราเดินทางด้วยรถ สะพายแห่งนี้จะเป็นสะพานที่พาเรามาฝั่งเกาะปีนัง ภายในหมู่บ้านเล็กๆนี้ มีคาเฟ่ ร้ายขายของที่ระลึก วางขายให้เลือกซื้อกัน มีภาพวาดบนผนังไม้ของบ้านให้เห็นวิถีชีวิตของผู้คนในหมู่บ้านนี้ไปกันลูก ไปเดินเล่นดู street Art แล้วเดี่ยวไปหาบะหมี่กินกันที่ Chulia Street ระหว่างทางเดิน ค่อยๆเดินไป รู้สึกเหมือนมีอะไรเปียกๆ โดนตัวเรา ฝนตกปรอยๆ ไม่แปลกกับการที่มามาเลเซียแล้วจะต้องเจอฝน ถ้าไม่เจออาจจะเป็นเรื่องที่แปลกกว่า ฝนตกได้ทุกเมื่อ เรา 3 คนเดินลุยฝน กันไปเรื่อยๆ แผนที่เราจะนั่งกินข้าวที่ร้าน ที่ Chulia Street คงจะต้องเป็นการซื้อ Take Away กลับไปกินที่โรงแรมน่าจะดีกว่าหยุดยืนหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวที่ถนน chulia ตู้ใส่บะหมี่ที่มีตัวหนังสือภาษาจีน ที่เราอ่านไม่ออก แล้วภาษาอังกฤษ ที่บอกแค่ราคาBig 7.50 RM Small 6 RMด้วยความหิวตอนนี้ 2 Big Take Away บะหมี่หน้าตาธรรมดาแต่รสชาติตอนหิวคือตอบโจทย์ เด็กๆลุยกินกันจนหมด19 พฤษภาคม 2566เสียงฝนตกในเช้าวันนี้ ทำให้เราต้องกดดูพยากรณ์อากาศ วันนี้คงจะฝนตกทั้งวันงั้นวันนี้เราไปหาร้านคาเฟ่ที่ มีอุปกรณ์งานศิลปะขายให้เด็กได้ใช้เวลากับการบันทึกการเดินทางเป็นภาพวาด และเลือกซื้อโปสการ์ดสักใบ เขียนส่งกลับไปให้ตัวเอง P66 ร้านคาเฟ่ที่เราบังเอิญเดินเจอ ขอแวะเข้าไปหลบร้อนสักหน่อยบทสรุปและข้อคิดที่ได้จากการเดินทางพรุ่งนี้คงจะเป็นอีกวันที่เราจะอยู่ที่ปีนัง แผนการเดินทางที่วางไว้หลวมๆ ไม่ได้เน้นจุดหมายที่ทุกคนจะต้องมาเมื่อมาถึง เพราะการเดินทางกับเด็กๆ ถ้าเค้าสนุกตรงไหน เราคงต้องให้เวลากับตรงนั้น ถ้าเค้าเหนื่อยเดินไปต่อไม่ไหว เราคงต้องนั่งพัก เด็กคงไม่ได้ต้องการไปถ่ายรูป ไปกิน ไปให้ถึงที่ที่ผู้ใหญ่อยากจะไป ถ้าเรามาแล้วเราคาดหวังว่าเราต้องไปให้ครบ เราคงไม่สนุก หงุดหงิด มีอารมณ์ บังคับ ทุกอย่างที่เขียนมา ถ้าทำครบแล้วเราจะมาทำไมการเดินทางกับเด็ก สำหรับเราคือการพาเข้ามาเปิดโลกหาประสบการณ์ ที่ถ้าเวลามันผ่านไปแล้วมันไม่สามารถย้อนกลับมาได้ บางคนถามว่า พามาตอนเด็ก พามาทำไม จำอะไรไม่ได้หรอก เราได้แต่ยิ้ม และตอบในใจ ไม่ได้พามาให้จำ พามาเพื่อใช้เวลากับเค้า พามาให้เจอปัญหาด้วยกัน และแก้ไปด้วยกัน ทุกการเดินทางมีปัญหาที่เราไม่คาดคิด ทั้งที่เกิดปัจจัยที่เราคาดไม่ถึง การมาในที่ที่ไม่รู้ ทำให้เราต้องใช้เวลารอคอยเพื่อหาทางไปต่อ เด็กๆจะได้เรียนรู้เรื่องพวกนี้ไปกับเรา อีกหนึ่งบทเรียนพิเศษนอกห้องเรียน ที่เราคิดเสมอ เมื่อพาลูกออกเดินทาง..ถ้ามามาเลเซียร้านชาบูเมนูโปรดของเด็กเราต้องพามากิน Beauty in the pot ชอบน้ำซุปคอลลาเจนที่เค้าจะมาเติมคอลลาเจนให้เราเห็นเลยในน้ำซุป บันทึกการเดินทาง บทเรียนนอกห้องเรียน บทที่ 1 ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและฝากติดตามบทเรียนนอกห้องเรียนบทต่อไปของพวกเราด้วยนะฝากติดตาม FB : เป็นพ่อ // Daddy_being จองตั๋วรถไฟไทยที่การรถไฟแห่งประเทศไทยhttps://www.dticket.railway.co.th/DTicketPublicWeb/home/Homeโรงแรมแนะนำมีบ่อบอลให้เล่นในห้องเครดิตภาพ Arinangel เป็นภาพที่ถ่ายเองจากการเดินทางครั้งนี้The Granite Luxury Hotel Penang จองผ่าน Agodaซื้อบัตรล่วงหน้าเข้าสวนผีเสื้อที่ KlooK อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !