ไทยติดโผ 10 อันดับ ประเทศน่าอยู่หลังเกษียณ ประจำปี 2023

เราคงรู้กันดีว่าสำหรับชาวต่างชาติแล้ว ประเทศไทยนั้นเป็น 1 ประเทศในฝันที่ขึ้นชื่อลือชาเสมอว่ามีค่าครองชีพที่ไม่สูง และดีที่สุดสำหรับวัยเกษียณ รวมถึงวัยทำงานที่อยากหาประสบการณ์ใหม่ๆ ในประเทศที่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างไม่เร่งรีบ และประหยัดเงินได้มากขึ้น ซึ่งปีนี้ก็มีการประกาศ 10 อันดับประเทศน่าอยู่หลังเกษียณประจำปี 2023 ออกมาเป็นที่เรียบร้อย อ้างอิงจาก International Living’s Annual Global Retirement Index 2023 ปีนี้เราจะอยู่ลำดับที่เท่าไหร่ ลองมาดูกัน
10 อันดับ ประเทศน่าอยู่หลังเกษียณ 2023
International Living รวบรวมผลคะแนนจากหลายๆ ด้าน เช่น ค่าครองชีพ สภาพอากาศ วีซ่า ที่พักอาศัย การดูแลสุขภาพ โดยสำรวจจากคนที่อาศัยอยู่ในประเทศนั้นจริงๆ ปีนี้มีบางประเทศที่หลุดจากอันดับ เช่นเวียดนาม และมาเลเซีย เนื่องจากข้อจำกัดต่างๆ ที่เที่ยวกับการขอวีซ่าที่ยากขึ้น และมีราคาแพงขึ้น จึงทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศเดียวในแถบเอเชียที่ติด 1 ใน 10 ของผลสำรวจนี้ สำหรับผลการจัดอันดับนั้น มีดังนี้
1. โปรตุเกส
การขอวีซ่าโปรตุเกสนั้นทำได้ง่าย และสามารถพำนักระยะยาวได้ ค่าครองชีพต่อวันก็ถูกมาก และแม้จะเป็นประเทศเล็กๆ แต่ก็มีเพียบพร้อมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ อาหารรสเลิศ และสถานบันเทิงยามค่ำคืนอันครึกครื้น โดยเฉพาะในเมืองที่มีชีวิตชีวาอย่าง ลิสบอน และ ปอร์โต คนโปรตุกีสยังใจดี มีความจริงใจ และยินดีต้อนรับชาวต่างชาติ กลุ่มคนรุ่นใหม่เข้าใจภาษาอังกฤษได้ดีเนื่องจากมีการสอนตั้งแต่เด็ก
นักท่องเที่ยวเองก็เที่ยวที่นี่ได้อย่างสบายใจ เพราะโปรตุเกสนั้นติดอันดับที่ 6 ของ Global Peace Index ด้วย จึงไม่ต้องกังวลเรื่องอาชญากรรมนัก ด้านสาธารณสุข และการดูแลสุขภาพก็มีราคาไม่แพง โดยอยู่ในลำดับที่ 12 ขององค์การอนามัยโลก
2. เม็กซิโก
แม้เราจะเข้าใจว่าเม็กซิโกเป็นประเทศที่ดูร้อน และแห้งแล้ง แต่ความเป็นจริงแล้วนั่นเป็นแค่บางส่วนของประเทศเท่านั้น มีบางเมืองที่มีอากาศเย็นสบายเพราะอยู่ในที่ราบสูง มีหมู่บ้านเงียบสงบ มีรีสอร์ทริมหาดที่มีชีวิตชีวา รวมถึงที่เที่ยวธรรมชาติที่หลากหลาย ตั้งแต่ภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ ไปจนถึงป่าฝนเขตร้อนเลยทีเดียว
ปัจจุบันในเม็กซิโกมีชาวต่างชาติอาศัยอยู่กว่า 1.6 ล้านคน บางส่วนนิยมหนีมาพักร้อนตากอากาศกันในช่วงหน้าหนาว ที่นี่จึงมีชุมชนต่างชาติอยู่เป็นจำนวนมาก และมักรวมตัวกันบ่อยๆ เวลามีงานเทศกาล
3. ปานามา
ปานามาถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่การเข้าถึงโรงพยาบาล และหมอนั้นดีที่สุดในแถบละตินอเมริกา การเดินทางไปไหนมาไหนก็สะดวกสบายด้วยรถไฟใต้ดินสายใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จ ค่าที่พักที่อยู่อาศัยไม่แพง และอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มากมาย มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี
4. เอกวาดอร์
เอกวาดอร์ ประเทศเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ และยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความหลากหลายทางระบบนิเวศมากที่สุดในโลก แม้พื้นที่ส่วนใหญ่จะยังไม่มีผู้คนอยู่อาศัย แต่ก็มีความสะดวกสบายครบครัน ทั้งระบบขนส่งมวลชนที่ดี อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง อากาศที่อบอุ่น และที่อยู่อาศัยราคาไม่แพง ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ที่นี่มีอัตราการเติบโตด้านการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น นักเดินทางส่วนใหญ่จะมาจากแถบยุโรป และอเมริกาเหนือ
5. คอสตาริกา
คอสตาริกานั้นมีอีกฉายาหนึ่งว่า "สวิตเซอร์แลนด์แห่งอเมริกากลาง" เป็นที่ที่มีอัตราการรู้หนังสือสูงติดอันดับโลก ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้โดยง่าย เพราะมีระบบการดูแลสุขภาพถึง 2 ระบบในประเทศ ทั้งภาครัฐ และเอกชน ที่นี่ยังมีระบอบการปกครองที่มั่นคง มีกฎหมายที่เข้มงวด รัฐบาลรับรองเสรีภาพในการนับถือศาสนาสำหรับทุกคน และแม้ชาวคอสตาริกันจะพูดภาษาสเปนเป็นหลัก แต่ก็ยินดีต้อนรับ และช่วยเหลือชาวต่างชาติอย่างเต็มที่
6. สเปน
สเปน ขึ้นชื่อว่ามีอากาศแจ่มใสตลอดทั้งปี มีวัฒนธรรมที่เป็นมิตร ผู้คนใช้ชีวิตกันอย่างสบายๆ และค่าครองชีพที่ต่ำ (ยกเว้นที่เมืองใหญ่อย่างมาดริด หรือบาร์เซโลน่า) นับเป็นอีก 1 ประเทศหลังเกษียณสุดโปรดของชาวอังกฤษ ชาวเยอรมัน และชาวยุโรป ทางด้านอาหารการกินก็ถือว่าถูกใจผู้รักสุขภาพ เพราะอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนนั้นหาได้ง่าย และราคาไม่แพงด้วย
7. กรีซ
กรีซ ประเทศในยุโรปใต้ที่มีอากาศอบอุ่น แสงแดดส่องถึงตลอดทั้งปี แม้จะมีจำนวนประชากรเพียง 11 ล้านคน แต่กลับเต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่ทางประวัติศาสตร์ ที่นี่ถือเป็นแหล่งกำเนิดของประชาธิปไตย และบ้านเกิดของนักปรัชญาโบราณ เช่น อริสโตเติล โสกราตีส และเพลโต สำหรับนักเดินทางสายโบราณคดี ที่นี่คือที่ของคุณ เราจะพบกับแหล่งโบราณคดีที่น่าประทับใจที่มีอายุนับพันปีได้ทั่วประเทศ และยังมีพิพิธภัณฑ์ระดับชาติ และเอกชนกว่า 300 แห่ง
8. ฝรั่งเศส
หากตัดเมืองใหญ่ที่ใครก็รู้จักอย่างปารีสออกไป การใช้ชีวิตในต่างจังหวัดของฝรั่งเศสนั้นนับเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของวัยเกษียณ เพราะที่นี่มีสวัสดิการด้านสุขภาพที่ดี วัฒนธรรมฝรั่งเศสยังให้ความสำคัญกับสุขภาพ และความเป็นอยู่ โดยเฉพาะด้านอาหารการกิน ใปี 2010 UNESCO ได้ยกให้อาหารฝรั่งเศสเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกที่จับต้องไม่ได้
9. อิตาลี
(อันดับ 9 ร่วม)
อิตาลีนั้นเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นเหมือนหมุดหมายการเกษียณของชาวยุโรปอยู่เสมอ ด้วยความหลากหลายทางสภาพอากาศ ภูมิประเทศ ชายหาด อาหาร ไวน์ กีฬา ชุมชน การดูแลสุขภาพ และวิถีชีวิตที่โดยเฉลี่ยชาวอิตาลีมีอายุยืนยาวกว่าเพื่อนบ้านในยุโรปตะวันตก 1-5 ปี รวมถึงมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลกอีกมากมาย อิตาลียังมีระบบขนส่งมวลชนที่ยอดเยี่ยม ทั้งรถไฟ รถประจำทาง สายการบิน และส่วนลดสำหรับผู้สูงอายุด้วย การเดินทางทั่วประเทศจึงนับเป็นเรื่องง่ายสำหรับที่นี่
9. ไทย
(อันดับ 9 ร่วม)
ปีนี้ไทยได้ผลคะแนนรวมเท่ากันกับอิตาลี โดยมีเหตุว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีเสน่ห์ มีความสวยงามทางธรรมชาติ และวัฒนธรรม มีค่าใช้จ่ายค่าที่อยู่อาศัยที่สามารถจับต้องได้ ค่าครองชีพไม่สูงมากหากเทียบกับประเทศอื่นๆ ชาวไทยยังให้ความสำคัญกับความสนุกสนาน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ส่งผลกับคนไทยในทุกแง่มุมของชีวิต เต็มไปด้วยเทศกาลต่างๆ มากมาย ถือว่าเป็นที่ที่สนุกสนานในการใช้ชีวิตสำหรับชาวต่างชาติ
ประเทศไทยยังเป็นเหมือนศูนย์กลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โอบล้อมด้วยกัมพูชา ลาว และเมียนมาร์ทางตอนเหนือ และมีพรมแดนร่วมกับมาเลเซียทางตอนใต้ การเดินทางไปเที่ยวในประเทศแถบนี้โดยยึดเอาไทยเป็นจุดตั้งต้นนั้นถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม
====================