มาถึงตอนนี้แล้วรู้สึกว่า การนำเสนอวัดปทุมวนารามฯ มีอะไรเยอะมากกว่าที่คิดไว้ แต่เอากันจริงๆแล้ว มันมีความสุขกับความงดงามของวัดปทุมฯ เป็นอย่างมากนอกจากจะหลบหนีความวุ่นวายของผู้คน ความทุกข์ในจิตใจ มาพักใจกับที่นี่ ทั้งการเพลิดเพลินกับการให้ทานบารมี ด้วยการเลี้ยงอาหารปลาก็ดี ได้มาชมศิลปกรรมทั้งวิจิตรศิลป์ งานปูนปั้น งานแกะสลัก ฯ ชื่นชมกับความสามารถของช่างศิลป์ก็ดี ยังจะได้ชื่นชมบารมีของครูบาอุปัชฌาย์อาจารย์ที่ได้มีความเมตตาต่อลูกศิษย์ที่อาศัยเนื้อนาบุญ ในการสั่งสมบุญบารมี ได้เรียนธรรมะจากครูบาอาจารย์ ประพฤติปฏิบัติธรรมเพื่อให้หลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง ช่วยส่งเสริมและสั่งสอนให้ คน ก้าวหน้าเป็น มนุษย์ วัดปทุมวนารามราชวรวิหารเป็นวัดนิกายธรรมยุต หรือที่เรียกว่าวัดป่า ที่วัดนี้จะมีการบวชชีพราหมณ์ เพื่อปฏิบัติธรรม ซึ่งขณะนี้จะมีเพียงการสอนการปฏิบัติธรรมในวันเสาร์เท่านั้น การทำวัตรสวดมนต์เช้า-เย็นทุกวัน จนกว่าสถานการณ์ไวรัสโควิด จะดีขึ้น และวัดปทุมวนารามฯมีเว็บไซต์ facebook ให้ได้เข้าไปดูกิจกรรม ที่ทางวัดประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนทั่วไปที่มีความสนใจ ออกจากศาลาครูอุปัชฌาย์อาจารย์ ฝั่งตรงข้ามจะมีศาลาพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงผนวช ประดิษฐานอยู่ พระองค์ทรงผนวชบวชในบวรพระพุทธศาสนาก่อนที่จะเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 จึงมีทศพิธราชธรรมในการปกครอง ทรงบำรุงพระพุทธศาสนาให้เป็นที่ประจักษ์ ทรงได้แบ่งศาสนาพุทธให้เป็น 2 นิกาย คือนิกายธรรมยุตหรือที่เรียกว่าวัดป่า สังเกตจากมีการใช้ผ้าจีวร ฉันท์อาหารมื้อเดียว และนิกายมหานิกาย ใช้ผ้าจีวรสีเหลืองส้ม ฉันท์อาหาร 2 มื้อ เอาคร่าว ๆ น่ะ รายละเอียดลึกซึ้งต้องไปหาข้อปฏิบัติศาสนกิจ ของแต่ละนิกาย ซึ่งพระสงฆ์จะเป็นพระรูปใดก็ตามที่จะขอเป็นศิษย์ เชื่อกันว่าแล้วแต่เคยมีบุญสัมพันธ์กับพระสงฆ์องค์นั้นมาก่อน จึงมีความถูกใจหรือถูกจริตกับท่าน ถึงกับขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ คอยอุปถัมภ์ให้เกิดเนื้อนาบุญ ภายในวัดมีพิพิธภัณฑ์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ในคราวที่ท่านได้มาอยู่ในวัดปทุมวนารามฯ บริเวณนี้เคยเป็นกุฏิเจ้าของหลวงปู่มั่น มาก่อนได้ทำการปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ โดยมีเครื่องใช้อัฐบริขาร อันมีสบง จีวร สังฆาฏิ บาตร มีดโกน เข็ม ประคตเอว ธมกรกหรือที่กรองน้ำ ของท่านตั้งอยู่เหมือนกับสมัยที่ท่านได้มาจำวัดอยู่ที่วัดปทุมฯ แห่งนี้ จะเปิดให้เข้าชมในวันพุธถึงวันจันทร์ เวลา 8.00 น. ถึง 16.00 น. เดินเข้ามาจะเห็นป้ายเขียนว่าสวนป่าพระราชศรัทธาธรรม เห็นเสาอโศกตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางสวนหิน เสาอโศกที่จำลองมาจากเสาหินรูปสิงห์ ที่พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงได้สร้างเสารูปสิงห์นี้ไว้ที่สถานที่สำคัญ ทางพระพุทธศาสนา ดูสง่างาม น่าเกรงขาม ที่แสดงถึงพระเจ้าแผ่นดินผู้ยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่ง ได้มีความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา ภายหลังที่พระพุทธเจ้าโคดม เสด็จปรินิพพานไปแล้ว ก้าวขึ้นมาที่ศาลาสวนป่าศรัทธาธรรม จะพบพระบรมสารีริกธาตุของพระผู้มีพระภาคเจ้า ประดิษฐานอยู่ท่ามกลางอารักขาของท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 เช่น ท้าววิรูปักษ์ ท้าววิรุฬหก ท้าวธตรัฏ และท้าวเวสสุวรรณ ผู้คุ้มครองรักษาผู้ที่มาสักการะบูชาพระบรมสารีริกธาตุ และดูแลรักษาพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานไว้ ฝีมือการหล่อท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 มีความงดงามมาก ความสวยงามของท่านบ่งบอกถึงความสามารถของช่างศิลป์ ที่สะกดใจให้ชวนบันทึกภาพอย่างใกล้ชิด โดยทางวัดจะมีดอกไม้ ดอกบัว ไว้สำหรับผู้ที่ต้องการจะถวายสักการะแก่พระบรมสารีริกธาตุ ตรงจุดนี้มีการจำลององค์พระเสริมมาประดิษฐานไว้เพื่อให้ผู้คนได้สักการะ เมื่อตอนที่ปฏิบัติธรรม ทำวัตรเช้า - เย็น ก็สวยงามเพลินตา เพลินใจ เหลือบมองเห็นพระภิกษุท่านมาทำวัตรเย็นที่ศาลาป่าศรัทธาธรรม ทางวัดได้จัดที่นั่งสำหรับผู้มาปฏิบัติธรรมทำวัตรเย็น แบบ social distancing ห่างอย่างห่วง ๆ ให้ทำวัตรเย็น ได้อย่างสบายอกสบายใจ คราวนี้ได้มาชมวัดปทุมวนาราม ด้วยความสุข สงบ สว่างในใจ กลับบ้านคืนนี้คงนอนหลับสบาย.