คนเราไม่สามารถอยู่คนเดียวบนโลกใบนี้ได้ตลอด ใครบางคนอาจจะตอบว่าได้ แต่ท้ายที่สุดแล้วคงเป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าเราอยู่คนเดียว ใครจะสร้างบ้านให้เราอยู่ ถ้าจะสร้างเอง อุปกรณ์สร้างบ้านก็ต้องซื้อ ถ้าทำบ้านเองเหนื่อยจะทำอาหาร วัตถุดิบต่างๆจะมาจากไหม การใช้ชีวิตก็เช่นกัน ถ้าหากอยู่คนเดียว เราอาจจะพูดไม่ได้ เพราะไม่มีใครสอนพูด ไม่ได้เรียนหนังสือ นึกถึงสิ่งเหล่านี้ยิ่งจะไปกันใหญ่ เกิดมาอยู่ไม่นานน่าจะสิ้นใจไป แท้ที่สุดแล้วมนุษย์ทุกคนล้วนแต่ต้องพึ่งพากันและกัน แต่วันหนึ่งซึ่งก็ไม่อาจจะรู้ได้ เราต้องจากโลกใบนี้ไปนั่นละคือสิ่งที่เราต้องเผชิญกับความโดดเดี่ยวเพราะต้องไปคนเดียว คงไม่มีใครอยากไปพร้อมเรา ครั้งนี้เหมือนการไปทำบุญและเที่ยวในวันหยุด วันหยุดคือวันพักผ่อน ซึ่งการออกมาเที่ยวก็เป็นการพักผ่อน พักผ่อน เปิดหูเปิดตา สถานทีแห่งนี้ มีคนมาเที่ยวถ่ายรูปกันค่อนข้างเยอะ ที่ขึ้นมาคงเพราะอากาศเย็นและวิวสวย เที่ยวสนุกแล้วแวะทำบุญกัน ชีวิตทำแต่งานมนุษย์เงินเดือนจนไม่มีเวลาเที่ยว พอถึงวันหยุดเท่านั้นลุย การเดินทางครั้งนี้ใช้เวลาคุยกันหนึ่งคืน ทุกคนต้องให้คำตอบในตอนเช้า และออกเดินทางในเวลาแปดนาฬิกา ภูเขาสูงคือเป้าหมายของพวกเรา และการถ่ายภาพคือสิ่งที่ทุกคนเตรียมพร้อม ด้วยโทรศัพท์หรือกล้องพกติดตัวเล็กๆ ผลพลอยได้น่าจะเป็นการทำบุญ กลุ่มของพวกเราเดินทางไปด้วยรถส่วนตัวสามคัน ถ่ายรูปยิ้มกันทุกข์ก็คลาย ทุกคนยิ้ม เป็นประโยคฮิตของการถ่ายภาพ ก็คงใช่เวลาถ่ายภาพคงไม่มีใครบอกว่า ให้ทำหน้าบูดเสียใจ มีแต่บอกให้ยิ้มให้ทำหน้าตลก ถ่ายไปก่อนแล้วค่อยกลับไปเลือกทีหลัง รถแล่นออกมาไม่ไกลจากพนมเปญมากนัก เลี้ยวขวาผ่านซุ่มประตูขนาดใหญ่ เพื่อไปยังจุดหมายถนนที่ขับรถขึ้นต้องใช้รถมี่มีกำลังเพราะเขาสูงขึ้น และแล้วเราก็ถึงที่หมายในการถ่ายภาพซุ้มประตูใหญ่ ศิลปะซุ้มประตูในประเทศกัมพูชา สิ่งสำคัญ เหมือนกับบันไดบ้าน ในกัมพูชาบ้านนั้นบันไดบ้านจะต้องสวยงามไว้ก่อน ซุ้มทางเข้าวัดถือว่ามีความสำคัญจะต้องสวยงาม วัดในกัมพูชาทุกวัดมีซุ้มประตูเข้าที่ยิ่งใหญ่พิกัด >>>> วัดพนม กันดาล กัมพูชา บานประตูกาลเวลา วิวถ่ายภาพที่บรรยากาศรอบปราสาทนี้ จะเป็นเหมือนกับกรอบรูป ถ้าใครได้มายืนเกาะขอบหน้าต่างแล้วมองตรงไปด้านหน้าบอกเลยว่าสุขใจยิ่ง มองไปรอบจะเห็นเมืองทั้งเมือง กำแพงหินเก่าด้านบนนั้น ในวัดแห่งนี้ มีพระสงฆ์จำนวนไม่มากนัก หลังจากถ่ายภาพมุมสวยเพียงพอ พวกเราพากันเดินชมสถานที่ สถานที่แห่งนี้เหมือนกับวัด แต่ไม่มีพระอยู่ เท่าที่เห็นมีแต่คนเดินทางมาที่นี่เพื่อเที่ยวและถ่ายภาพสถานที่จะไม่เงียบช่วงวันหยุด วันหยุดคือวันพักผ่อน การเดินทางในทุกวันหยุดจะพบกับเพื่อนรายทาง บางครั้งโลกกลม เจอกับคนรู้จักได้ร่วมวงกันทานข้าวบริหารฝีปากกันยกใหญ่ วันหยุดให้ทุกคนได้กลับบ้านเกิดเพื่อทำบุญ วัดพนม วัดนี้มีชื่อว่าวัดพนมอยู่บนเขาสูง เดินทางออกห่างจากพนมเปญไม่มากนัก วัดนี้ในช่วงของเทศกาลประจุมบิญ (บุญข้าวสาก) จะมีชาวบ้านขึ้นมาทำบุญเยอะหน่อย และวัยรุ่นก็จะมาเที่ยวถ่ายภาพเพราะอยู่บนเขาสูง เวลาที่มองลงไปด้านล่าง จะทำให้เห็นท้องทุ่งนาต้นไม้เล็ก วัดแห่งนี้ เป็นวัดพุทธ ใต้ต้นโพธิ์มีพระพุทธรูปให้สักการะ ใต้ต้นโพธิ์มีการรูปปั้นที่แสดงให้เห็นพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า ขวามือของภาพตอนประสูติ มีพระนางสิริมหามายายืนเกาะกิ่งไม้ และเจ้าชายสิทธัตถะเดินทั้งหมดประสูติ และเดินตามรอยของดอกบัว ต้นโพธิ์ต้นนี้ใหญ่ที่สุดในวัด พวกเราเลยแวะสักการะก่อนเดินทางเข้าวัดสองข้างทางก่อนขึ้นเขา ระหว่างทาง เรียกได้ว่าตลอดสองข้างทางหลังจากออกจากกรุงพนมเปญ ความงามสองข้างทางที่เป็นแม่น้ำ ล้อมรอบถนนใหญ่ เหมือนอยู่กลางทะเล สีของน้ำทำให้ดูแปลกตากว่าที่อื่นจนต้องจอดลงเก็บภาพข้อระวัง ในการมาเที่ยวสถานที่แห่งนี้ เนื่องจากทางเดินภายในบริเวณนี้ จะเป็นที่ลาดชันต้องพยายามในการเดินขึ้น ซึ่งในเวลาที่เราลงนั้น เราจะวิ่งจนหยุดไม่ได้ ต้องระวังเวลาเดินลง แนะนำรองเท้าที่รัดกุมและลูกยางดีๆหน่อย หลังจากที่พวกเราขึ้นถ่ายรูปด้านบน ในขณะของการเดินลงจากเขาจำต้องพักเพราะถ้ารีบลงอาจจะหน้าคว่ำได้ ทางเดินบนเขาสูง สถานที่แห่งนี้อุดมสมบูรณ์มาก ต้นไม้ใหญ่ล้อมรอบวัดทำให้ร่มรื่นยิ่งขึ้น บริเวณด้านหลังของวัดนั้นเป็นหน้าผาสูง ถ้าพลาดหล่นลงไปคงไม่รู้ชะตากรรม สภาพเหมาะกับการถ่ายภาพที่สุด วัดนี้เหมาะมากสำหรับคนที่รักในการถ่ายภาพทำไมถึงเที่ยววัด? หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมพวกเราจึงเดินทางไปเที่ยววัด เหตุผลแรกคือเป็นช่วงของการหยุดเทศกาลประจุมบิญ ซึ่งชาวกัมพูชาจะพากันไปวัด ยิ่งครบเก้าวัดยิ่งเป็นกุศล จุดที่ต่ำสุดของวัด ถ้าจะถ่ายรูปมุมนี้ ต้องมีการแหวกหรือหาช่องว่างของต้นไม้ เราจะเห็นภูเขา และหมู่บ้านด้านล่าง หมู่บ้านนี้จะขึ้นมาทำบุญที่วัดนี้เป็นประจำ การเห็นรอยยิ้มของคุณยายที่มีความสุขสิ่งเหล่านี้ก็ทำให้คนมองเป็นสุขไปด้วย ทำไมถึงสร้างวัดบนที่สูง?? เคยสงสันเหมือนกันว่า ทำไมวัดแต่ละที่จึงสร้างไว้บนที่สูง ยิ่งสูงมากเท่าไหร่ยิ่งดี เมื่อสูงแล้วบันไดที่ขึ้นไปสูงยิ่งกว่า ความเชื่อที่หนึ่ง เพื่อแสดงถึงความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เวลาที่เราเดินขึ้นบันไดนั้นจะต้องก้มหัวลงเพื่อจดจ่อกับการก้าวขึ้นบันไดอยู่ตลอดเวลา ต่อมาคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นต้องอยู่บนที่สูง และในภูเขาสูงก็เชื่อว่ามีสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์รักษาอยู่ ความเชื่ออีกอย่างหนึ่งคือ การก้าวขึ้นบันไดนั้นทำให้เราได้ขจัดกิเลสที่เกิดขึ้นภายในใจ และไล่สิ่งที่ไม่ดีออกไปจากใจ ยิ่งก้าวพ้นบันไดขั้นสุดท้ายนั้น ทำให้กิเลสหายไปหมดสิ้นเหลือเพียงความบริสุทธิ์ และยังทำให้เรานั้นได้ฝึกสมาธิในการจดจ่อก้าวขึ้นบันได คงจะใช่ในเรื่องของการกำจัดกิเลสเพราะทุกครั้งที่เราก้าวขึ้นบันไดสูงเวลาไปวัด เราจะบ่นตั้งแต่ขั้นแรก พอใกล้จะถึงเราจะไม่บ่นแล้ว เพราะว่าเหนื่อยเก็บแรงไว้หายใจ ธรรมชาติสร้างสิ่งที่สวยงามเสมอ นอกจากความสวยงามคือความลงตัว มนุษย์เองนั้นก็มองเห็นความงามเหล่านั้น จึงได้สร้างสถาปัตยกรรม เพื่อให้มนุษย์ด้วยกันได้มาพบความสวยงามของสถานที่ และเพื่อทำให้คนที่ผ่านไปมาได้กุศลบุญจึงได้สร้างวัด เพื่อให้ได้สักการะกราบไหว้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างบนที่สูง บรรยากาศโดยรอบยิ่งทำให้มีความสุขเมื่อครั้งได้ไปเยือน เหมือนกันกับการไปเที่ยวนอกจากจะได้ชมความงามของวิวทิวทัศน์แล้ว ยังได้บุญชำระบาป และสุดท้ายคือได้มิตรภาพที่ดี ระหว่างทางปีนขึ้นเพื่อนช่วยเพื่อนเพื่อให้ทุกคนถึงจุดหมายภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียนเอง (อุ้งเท้าแมว)วันลาเหลือใช่ไหม อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !