ดิฉันมีโอกาสได้เดินทางไปเยือน “พระราชวังต้องห้าม” หรือ “กู้กง (故宫)” ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ยิ่งใหญ่และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากที่สุดในโลก พระราชวังแห่งนี้เคยเป็นที่พำนักของจักรพรรดิราชวงศ์หมิงและชิง เป็นศูนย์กลางของอำนาจจักรพรรดิจีนมายาวนานกว่า 500 ปี 🧭 วิธีเดินทางอย่างละเอียดจากกรุงเทพฯ ไปพระราชวังต้องห้าม 1. ✈️ จากกรุงเทพฯ สู่ปักกิ่ง ดิฉันเลือกบินจาก สนามบินสุวรรณภูมิ (BKK) ไปยัง สนามบินนานาชาติปักกิ่ง (Beijing Capital – PEK) โดยสายการบิน Thai Airways ซึ่งใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง 30 นาที 2. 🚆 จากสนามบินเข้าสู่ตัวเมืองปักกิ่ง เมื่อดิฉันเดินทางถึงสนามบินปักกิ่ง ดิฉันนั่ง Airport Express Train เข้าเมือง โดยขึ้นจาก Terminal 2 ไปลงที่ สถานี Dongzhimen จากนั้นต่อรถไฟใต้ดิน สาย 2 ไปลงที่สถานี Qianmen (前门) หรือ Tian’anmen East (天安门东) ซึ่งอยู่ใกล้ทางเข้าพระราชวังมากที่สุด 💸 ค่าโดยสารรถไฟฟ้าโดยรวมประมาณ 25 หยวน 🕐 ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง 3. 🎟️ การเข้าชมพระราชวังต้องห้าม เวลาทำการ: 08:30 – 17:00 น. (ปิดวันจันทร์) ค่าเข้าชม: 60 หยวน (นักเรียน/ผู้สูงอายุมีส่วนลด) ❗ แนะนำให้จองล่วงหน้า เพราะจำกัดจำนวนผู้เข้าชมต่อวัน 📌 เคล็ดลับส่วนตัวจากดิฉัน ไปเช้าๆ จะคนไม่เยอะ ถ่ายรูปสวยและเดินสบาย พกร่มหรือหมวกกันแดด เพราะพื้นที่โล่งกว้าง ไม่มีร่มเงา ใส่รองเท้าสบาย ๆ เพราะต้องเดินเยอะมาก หากมีเวลา ดิฉันขอแนะนำให้แวะขึ้น Jingshan Park (景山公园) ซึ่งอยู่ด้านหลังพระราชวัง สามารถชมวิวมุมสูงของทั้งพระราชวังได้อย่างชัดเจนและสวยงาม ไฮไลท์ & จุดน่าสนใจในพระราชวังต้องห้าม 1. ประตูอู่เหมิน (Meridian Gate - 午门) ดิฉันเดินเข้าทางประตูนี้ซึ่งเป็นประตูหลักทางใต้ของพระราชวัง มีความสูงและสง่างาม เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางผ่านประวัติศาสตร์จักรพรรดิจีน 2. หอไท่เหอเตี้ยน (Hall of Supreme Harmony - 太和殿) อาคารที่ปรากฏในภาพที่ดิฉันถ่าย เป็นอาคารหลักและยิ่งใหญ่ที่สุด ใช้สำหรับพิธีสำคัญ เช่น พิธีราชาภิเษก หรือพิธีขึ้นปีใหม่ ดิฉันยืนชมความโอ่อ่าของลานหินและบันไดหินแกะสลักรูปมังกรอันวิจิตรงดงาม 3. หอจงเหอเตี้ยน (Hall of Central Harmony - 中和殿) อยู่ถัดมา เป็นจุดที่จักรพรรดิพักผ่อนและเตรียมตัวก่อนเข้าสู่พิธีใหญ่ ตัวอาคารเล็กกว่า แต่ประณีตมาก 4. หอเป่าเหอเตี้ยน (Hall of Preserving Harmony - 保和殿) ใช้สำหรับการสอบคัดเลือกขุนนาง (การสอบจอหงวน) และจัดเลี้ยงราชทูตต่างประเทศ ดิฉันรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายแห่งปัญญาในสถานที่แห่งนี้ 5. สวนอวี้ฮวาหยวน (Imperial Garden - 御花园) สวนท้ายพระราชวังที่ร่มรื่นมาก มีต้นสนเก่าแก่ พุ่มดอกไม้ และศาลาโบราณที่ออกแบบอย่างสมดุล ดิฉันรู้สึกผ่อนคลายมากหลังเดินมาหลายชั่วโมง 6. พิพิธภัณฑ์ศิลปวัตถุ (Palace Museum) ดิฉันได้ชมเครื่องลายคราม, เครื่องราชูปโภค, เครื่องแต่งกายของจักรพรรดิ และภาพวาดโบราณ ที่แสดงถึงวัฒนธรรมจีนในยุคต่าง ๆ 🏮 จุดถ่ายรูปยอดนิยม หน้าหอไท่เหอเตี้ยน (มุมตรงกลางกับลานหินกว้าง ๆ) มุมประตูแดง + หน้าต่างลายฉลุไม้ สะพานหินข้ามลำธารกลางลานใหญ่ บริเวณสวนอวี้ฮวาหยวนในยามแสงแดดอ่อน ดิฉันประทับใจมากกับประสบการณ์ในครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เพราะความงดงามของสถานที่ แต่เพราะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์จีนอย่างลึกซึ้งด้วยตนเอง หากคุณกำลังวางแผนเดินทางไปจีน ดิฉันขอยืนยันว่าพระราชวังต้องห้ามควรอยู่ในลิสต์อันดับต้น ๆ ค่ะ 😊 รูปภาพปกผู้เขียนถ่ายเอง รูปภาพที่1 ถึง 4 ผู้เขียนถ่ายเอง อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !