จังหวัดปราจีนบุรี เป็นจังหวัดทางภาคตะวันออกและเป็นเมืองรองที่น่าเที่ยว น่าค้นหาอีกจังหวัดหนึ่ง มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และมีการพบซากโบราณสถานในหลายพื้นที่ของจังหวัด นอกจากนี้ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่ง อีกทั้งยังเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ป่ามากที่สุดในภาคตะวันออก ทริปนี้เราใช้เวลาท่องเที่ยว 2 วัน 1 คืน ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งก็เดินทางถึงตัวเมืองปราจีนบุรี เมื่อถึงแล้วเราแวะเติมพลังกันที่ร้านข้าวมันไก่ท้องถิ่น นั่นก็คือ ร้านบุญตาข้าวมันไก่ ร้านเปิดมานานกว่า 40 ปีแล้ว ร้านจะเป็นตึกแถวตั้งอยู่เยื้องศาลหลักเมืองปราจีนบุรี นอกจากเมนูข้าวมันไก่แล้ว ทางร้านยังมีเมนูอื่นให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ และก๋วยเตี๋ยว เราเลือกสั่งไก่ต้มจานเดี่ยวทานคู่กับข้าวมัน น้ำซุป และข้าวหมูแดง รสชาติถือว่าอร่อยเลย และที่สำคัญราคาไม่แพง เมื่อท้องอิ่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็มีมุ่งหน้าไปกราบสักการะเจ้าแม่ทับทิมกันต่อ ซึ่งศาลเจ้าแม่ทับทิมตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำปราจีนบุรีห่างจากร้านบุญตาข้าวมันไก่ประมาณ 2 กิโลเมตร ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม โดยศาลจะเปิดให้เข้าสักการะเวลา 07.00 – 17.00 น. เสร็จจากศาลเจ้าแม่ทับทิม เราเดินทางต่อมายังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี พิพิธภัณฑ์มีการปรับปรุงปรับโฉมใหม่ได้ไม่นาน ภายในกว้างขวาง ส่วนจัดแสดงแรกจะมีให้ชมวีดิทัศน์ที่แสดงถึงเรื่องราวความเป็นอยู่และวิชีวิตของคนในจังหวัดปราจีนบุรี รวมถึงคนที่อาศัยในบริเวณภาคตะวันออก เมื่อรับชมวีดิทัศน์เสร็จ ส่วนจัดแสดงถัดมาเป็นส่วนจัดแสดงโบราณวัตถุซึ่งได้รวบรวมโบราณวัตถุบริเวณภาคตะวันออกไว้มากมาย หากมีข้อสงสัยหรืออยากเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมสามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์ได้ตลอด พี่ๆ เค้ายินดีเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้เราฟังเป็นอย่างดีเลย เสร็จจากพิพิธภัณฑ์ก็เริ่มเย็นแล้ว เราเลยเข้าที่พัก ที่พักที่เราจองไว้ชื่อ ปานพิมพ์รีสอร์ท ห่างจากตัวเมืองประมาณ 10 กว่ากิโลเมตร ให้บรรยากาศเงียบสงบ และร่มรื่น ตื่นเช้ามาทางที่พักได้จัดเตรียมปาท่องโก๋และข้าวต้ม พร้อมกับกาแฟร้อนไว้ให้ เมื่อเราทานข้าวเช้าและเก็บของเสร็จก็ออกเดินทางไปที่คาเฟ่วิวธรรมชาติ บรรยากาศดีมาก เรียกได้ว่านั่งชิลทั้งวันยังได้ คาเฟ่ที่เราไปชื่อว่า คาเฟ่ Into The Wild บริเวณคาเฟ่ค่อนข้างกว้างขวาง มีเก็บค่าบริการก่อนเข้าคาเฟ่คนละ 50 บาท (สามารถนำไปใช้เป็นส่วนลดค่าอาหารและ เครื่องดื่มได้) เปิดให้บริการเวลา 10.00 – 17.00 น. จากคาเฟ่เราขับรถเข้าตัวเมืองปราจีนบุรีอีกครั้ง โดยเรามุ่งหน้าไปที่ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ซึ่งเป็น Landmark สำคัญของจังหวัดปราจีนบุรี ผู้ก่อตั้งคือเจ้าพระยาอภัยภูเบศรนั่นเอง โดยท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองปราจีนบุรีในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยโรงพยาบาลแห่งนี้มีจุดเด่นในการนำสมุนไพรมาใช้รักษาโรคที่มีมาตรฐานเทียบเท่าการแพทย์แผนปัจจุบัน เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 8.30 - 16.00 น. และไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าเยี่ยมชม นอกจากการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แล้ว ยังสามารถซื้อยาสมุนไพรจากแพทย์แผนโบราณที่มีความเชี่ยวชาญ หรือซื้อสินค้าที่ทำจากสมุนไพรต่างๆ กลับไปรับประทานหรือใช้เอง หรือจะซื้อเป็นของฝากก็ได้อีกด้วย ก่อนกลับกรุงเทพฯ เราแวะทานข้าวกันที่ ร้านอาหารชื่อดังประจำจังหวัดที่มีจุดเด่นในการนำสมุนไพรมาเป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหาร ชื่อร้านว่า บ้านเล่าเรื่อง เมืองสมุนไพร ร้านเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11.00 – 19.30 น. ร้านนี้เคยเป็นบ้านของขุนนางและพ่อค้าคนสำคัญมาตั้งแต่สมัยโบราณ และถูกนำมาปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์และร้านอาหารในปัจจุบัน เมนูที่เราสั่งประกอบด้วย กุ้งทอดใบชะพลู ยำวุ้นเส้นอัญชันหมูสับ ไข่พระอาทิตย์ และแกงป่าปลา ทานคู่กับข้าวไรซ์เบอร์รี่ร้อนๆ เข้ากันอย่างลงตัว เสร็จจากมื้ออาหารกลางวันนี้ เราก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ เป็นอันจบทริป ภาพถ่ายโดย Duckiimild เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !