เส้นทางปั่นจักรยานที่ฮิโรชิมะ ชิมานามิ ไคโด ทริปข้ามเกาะญี่ปุ่นที่ยาวที่สุดในโลก
หนึ่งในความใฝ่ฝันของนักปั่นไม่ว่าจะมือโปรหรือมือสมัครเล่น คือการได้ไปเยือนประเทศที่ได้ชื่อว่ามีความเป็นมิตรต่อจักรยานมากประเทศหนึ่งของโลกอย่าง ประเทศญี่ปุ่น นั่นเองครับ
และเส้นทางปั่นจักรยานท่องเที่ยวที่เราจะมาแนะนำคุณในวันนี้รับรองว่าเป็นทริปปั่นจักรยานที่คุณไม่มีวันลืมแน่นอน ด้วยทัศนียภาพอันสวยงามของสะพานแขวนที่พาดข้ามทะเล เชื่อมระหว่างสองแผ่นดินของญี่ปุ่นเข้าด้วยกัน ที่จังหวัดฮิโรชิมะ ชิมานามิ ไคโด (Hiroshima’s Shimanami Kaido) นั่นเอง
ชิมานามิ ไคโด ความจริงแล้วเป็นส่วนหนึ่งของระบบทางด่วนของญี่ปุ่น แต่ก็มีการออกแบบโดยคำนึงถึงคนเดินเท้า และขี่จักรยานด้วย ด้วยระยะทางทั้งหมดกว่า 60 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างเกาะฮอนชู ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ของญี่ปุ่น เข้ากับเกาะชิโกะกุ ระหว่างทางก็จะผ่านเกาะเล็กๆ อีก 6 เกาะ ถ้ารวมแผ่นดินใหญ่ทั้ง 2 ฝั่งด้วยก็เท่ากับ 8 เกาะด้วยกัน !
ซึ่งแต่ละเกาะก็มีแหล่งท่องเที่ยวให้แวะพักกันตลอดเส้นทาง ทั้งศาลเจ้า ประภาคาร และธรรมชาติที่สวยงาม รวมถึงจุดชมวิวทะเลเซโตะ (Seto Inland Sea) ซึ่งการจะแวะให้ได้ทุกที่ภายในวันเดียวนั้นคุณอาจต้องมีความฟิตอยู่พอสมควร แต่สำหรับนักปั่นที่ไม่เร่งรีบนักก็อาจวางแผนเส้นทาง แวะเที่ยววันละ 2-3 เกาะก็ได้ เส้นทางนี้มีนักปั่นทุกรูปแบบ ทุกเพศ ทุกวัย รับรองไม่เหงาแน่นอน
สำหรับจุดเริ่มต้นที่นักปั่นนิยมจะอยู่ที่เมืองโอโนะมิจิ (Onomichi) บนฝั่งจังหวัดฮิโรชิมะนั่นเอง ซึ่งเรียกว่าเป็นเมืองของผู้ชื่นชอบการปั่นจักรยานจริงๆ เพราะมีโรงแรมสำหรับนักปั่นอย่างแท้จริง ชื่อว่า ONOMICHI U2 ที่สามารถเอาจักรยานไปจอดในห้องได้เลย รวมถึงร้านซ่อมบำรุงจักรยานที่ถูกรวบรวมมาไว้ที่นี่ เพื่อให้บริการแขกที่ปั่นจักรยานมาเข้าพักโดยเฉพาะ
แถมยังมีร้านอาหาร ร้านเบเกอรี่ไว้เติมพลังงานก่อนออกแรง มีร้านจำหน่ายจักรยานด้วย ถ้าใครไม่มีจักรยานของตัวเองก็มีสถานีเช่าจักรยานให้ที่จุดเริ่มต้น และจุดสิ้นสุดของเส้นทาง สามารถคืนจักรยานที่สถานีใดก็ได้ ที่เมืองนี้ยังมีจุดชมวิวบนเนินเขา ให้คุณชมทัศนียภาพของเส้นทางชิมานามิ ไคโดที่คุณกำลังจะปั่นไป จะได้ประเมินตัวเองอีกรอบ ว่าจะไหวแน่นะ
หลังจากเตรียมความพร้อมเรียบร้อย ก็ได้เวลาล้อหมุน เมื่อออกจากเมืองโอโนะมิจิแล้วจุดหมายแรกคือ เกาะมุไคชิมา (Mukaishima Island) ซึ่งเป็นแหล่งปลูกผลไม้รสเปรี้ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ทั้งส้ม มะนาว เกรปฟรุต เป็นต้น รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปอื่นๆ เช่น เค้กผลไม้ แยม ซอส น้ำผลไม้ หลังจากผ่านเกาะนี้ไปคุณก็จะได้พบกับสะพานที่เป็นไฮไลท์ของเส้นทาง ดังนี้
– สะพานทาทาระ (Tatara Bridge) หนึ่งในสะพานขึง (cable-stayed bridges) ที่ยาวที่สุดในโลก ขึงด้วยหอเหล็กกล้าความสูง 220 เมตร
– สะพานคุรุชิมะ (Kurushima Kaikyo Bridge) สะพานแขวน (Suspension Bridge) ที่ยาวที่สุดในโลก ระยะทาง 4,045 เมตร
นอกจากสองสะพานเด่นๆ นี้แล้ว เส้นทางนี้ยังต้องผ่านสะพานอีก 5 แห่ง รวมทั้งหมดเป็น 7 สะพานด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น สะพานอิคุจิ Ikuchi Bridge, สะพานอิโนะชิมะ (Inoshima Bridge) เป็นต้น บางสะพานเราก็จะได้ปั่นจักรยานลอดไปด้านใต้สะพานด้วย แต่ส่วนใหญ่ก็จะได้ปั่นบนสะพานเลย
อีกสิ่งที่ไม่ควรพลาดก็คือการแวะเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ วัดวาอารามของที่นี่ เช่น วัดโคซันจิ (Kosanji Temple) บนเกาะอิคุชิ สร้างขึ้นในปี 1936 มีเจดีย์ และรูปปั้นที่สวยงามให้แวะสักการะ
MyPixelDiaries / Shutterstock.com
ข้อมูลอื่นๆ
– นั่งรถไฟชินคังเซ็นจากโตเกียว ลงที่สถานีชินโอโนะมิชิ (Shin-Onomichi station) ใช้เวลา 4 ชั่วโมงกว่าๆ , นั่งเครื่องบินจากโตเกียวลงที่ฮิโรชิม่า ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 20 นาที
– ค่าเช่าจักรยานเริ่มต้นที่ 1,000 เยนต่อวัน (ถ้าจักรยานเด็ก 300 เยน) และยังมีจักรยานแบบปั่น 2 คน วันละ 1,200 เยน และจักรยานไฟฟ้า วันละ 1,500 เยน คืนจักรยานที่สถานีใดก็ได้ แต่ถ้าคืนจักรยานที่สถานีอื่นที่ไม่ใช่สถานีที่เช่ามา จะถูกริบเงินมัดจำ
– รถยนต์เสียค่าผ่านทาง 5,000 เยน (One way)
- จุดให้บริการรถจักรยานจะมีอยู่ตลอดเส้นทาง แต่จะปิดให้บริการในเวลา 5 โมงเย็น ควรเผื่อเวลาปั่นกันให้ดี
- เมื่อถึงเวลากลางคืน ถนนจะค่อนข้างมืด ดังนั้นหากใครตั้งใจปั่นมากกว่า 1 วันควรจองที่พักระหว่างทางให้เรียบร้อย
อัพเดทที่พักสุดชิลล์ ที่เที่ยวสุดมันส์ ที่กินสุดฮิป
ติดตาม travel.trueid.net ได้ที่
LINE |
TrueID Application |