สายลุย สายรักธรรมชาติ ทริปนี้จะเป็นประสบการณ์ดีๆให้กับคุณ ความสนุก ความสงบ และมิตรภาพดีๆ รอให้คุณได้ไปค้นพบอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่าชมวิว 3 ยอดดอยบนดอยผาตั้ง เช็กอินที่น้ำตกแม่ยะที่สวยอันดับต้นๆของเมืองไทย การเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติที่กิ่วแม่ปาน และปิดท้ายด้วยการเรียนรู้วิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง ชนชาติปกาเกอะญอ ดอยผาตั้ง-หินตั้ง ดอยลับที่ไม่ค่อยมีคนรู้ หนึ่งในอันซีนของอำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นดอยพี่ดอยน้องกับดอยอินทนนท์ และดอยหัวเสือ สามารถชมวิว 3 ดอยได้พร้อมกัน หากมองลงไปด้านล่างจะพบกับดงดอกพญาเสือโคร่ง(ดอกจะบานประมาณกลาง – ปลายเดือนมกราคมของทุกปี) นอกจากนี้ยังมีจุดชุมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกอีกด้วย สำหรับการเดินทางต้องอาศัยความชำนาญค่อนข้างมาก เพราะเป็นเส้นทางที่ชันและคดเคี้ยว ถนนบางส่วนยังคงเป็นดินลูกรัง ใช้เส้นทางเดียวกับทางขึ้นไปพระตำหนักดอยผาตั้ง เลยแยกพระตำหนักแล้วตรงขึ้นไป สำหรับใครที่ต้องการขับรถขึ้นไปเอง แนะนำให้ใช้เป็นรถกระบะ 4WD หรือ รถวิบากนะคะ แต่ทางที่ดีควรหาไกด์พาไปเพื่อความความสะดวกและความปลอดภัยค่ะ สถานที่ต่อมาคือ น้ำตกแม่ยะ เป็นน้ำตกที่มีความสูงที่สุดในน้ำตกของอุทยานฯ ดอยอินทนนท์ประมาณ 260 เมตร 30 ชั้น มีขนาดใหญ่โต อลังการและสวยงามจนไม่อยากละสายตา ใครได้เห็นไม่มีทางลืมได้ลง นอกจากนี้ยังเคยเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในประเทศไทยก่อนที่จะมีการค้นพบน้ำตกทีลอซู จังหวัดตากอีกด้วย รอบๆน้ำตกห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้นานาชนิด สีเขียวชอุ่มช่วยให้ได้พักสายตาอย่างเต็มที่ นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้ ระหว่างทางที่จะเดินไปยังน้ำตกเป็นทางเรียบชันประมาณ 300 เมตรและขั้นบันไดอีก 100 เมตร ตรงลานจอดรถจะมีร้านขายของชำและอาหาร ห้องน้ำ คอยบริการนักท่องเที่ยวอยู่ สำหรับใครที่เป็นสายตั้งแคมป์ หากคุณสนใจกางเต็นท์ก็สามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้ค่ะ น้ำตกแม่ยะตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอุทยานฯ เมื่อเข้าสู่ถนนสายจอมทอง-ยอดดอยอินทนนท์ได้ประมาณ 1 กิโลเมตร จะมีทางแยกซ้ายไปอีกประมาณ 14 กิโลเมตร เปิดให้เข้าชมเวลา 08.00-17.00 น. ค่าเข้าชม : คนไทย ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท , ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท อีกหนึ่งสถานที่สำคัญที่ห้ามพลาดคือ เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน เส้นทางเดินป่าที่ได้การยอมรับว่าสวยที่สุดในไทย มีระดับความสูงกว่า 2,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ลักษณะเส้นทางเป็นวงกลม ระยะทางรวมประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 2-3 ชั่วโมง ตลอดทางเดินคุณจะได้พบกับความหลากหลายของธรรมชาติทั้งหมด 4 ช่วง ที่มีจุดไฮไลท์อยู่ตามช่วงต่างๆ ได้แก่ ช่วงป่าดิบชื้น มีมอสและเฟิร์นขึ้นอย่างหนาแน่นตามต้นไม้ใหญ่ตลอดทาง ช่วงทุ่งหญ้า คุณจะพบกับลานทุ่งหญ้ากว้างสุดลูกหูลูกตา มีสายลมพัดผ่านให้ความสดชื่น เย็นสบาย หากไปช่วงหน้าฝนหรือหน้าหนาวอาจจะได้พบไอหมอกเมฆที่ใครๆต่างก็อยากสัมผัส ช่วงกุหลาบพันปี ระหว่างทางจะมีดงต้นกุหลาบพันปีแดงตามหน้าผา(ออกดอกช่วง ม.ค. - มี.ค.) ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของกิ่วแม่ปาน และวนกลับมาที่ช่วงป่าดิบชื้น ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของทางเดินที่ต้องเดินลงสู่ลำห้วยแม่ปาน และมีจุดแวะที่สามารถมองเห็นพระมหาธาตุนภเมทนีดล และ พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ หรือ เจดีย์คู่ ที่ประดิษฐานอยู่บริเวณทางแยกของถนนก่อนขึ้นยอดดอยอินทนนท์ได้อย่างชัดเจน ในการเข้าเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานจะต้องมีไกด์จากอุทยานฯ คอยนำทาง โดยเสียค่าบริการ 200 บาทต่อกลุ่ม คุณสามารถจับกลุ่มกับนักท่องเที่ยวที่นั่นเพื่อหารค่าใช้จ่ายกันได้ เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05.00-17.30 น. ช่วงเวลาที่เหมาะคือเดือนธันวาคม-มกราคม ส่วนในช่วงเดือนมิถุนายน-ตุลาคม เส้นทางนี้จะปิดให้บริการเพื่อให้เวลาธรรมชาติฟื้นตัว ปิดทริปด้วยการไปเยือนชุมชนบ้านผาหมอน สถานที่ยอดฮิตของจังหวัดเชียงใหม่ สัมผัสวิถีชีวิตของชาวปกาเกอะญอ และชมนาข้าวขั้นบันได โดยนาจะเป็นสีเขียวช่วงกลางเดือนกันยายน-กลางตุลาคม และจะกลายเป็นสีทองช่วงปลายตุลาคม-ต้นพฤศจิกายน หลังจากนั้นจะเป็นช่วงเก็บเกี่ยว และเฉลิมฉลองท้ายปีด้วยประเพณีกินข้าวใหม่ บ้านผาหมอนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้ชื่อว่า สูงสุดแดนสยาม มีสภาพภูมิทัศน์งดงาม ตัวหมู่บ้านตั้งอยู่กลางหุบเขาลาดชันสลับกับที่ราบ ถูกโอบล้อมด้วยป่าเบญจพรรณและป่าดิบเขา มีลำห้วยไหลผ่าน 4 สาย ซึ่งเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่สำคัญต่อชุมชน บ้านผาหมอนตั้งอยู่ในช่วงตอนกลางระหว่างเส้นทางไต่เขาก่อนขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์ ห่างจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1009 (จอมทอง-ดอยอินทนนท์) ประมาณ 7-10 กิโลเมตร สภาพถนนเป็นดินแดงคดเคี้ยวไปมา ต้องอาศัยความชำนาญของสารถีนำทาง คนในชุมชนมีชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ‘ปกาเกอะญอ’ ใช้วิถีชีวิตแบบ Slow life แต่เดิมดำรงชีพด้วยการทำไร่หมุนเวียน ภายหลังปรับเปลี่ยนมาปลูกพืชผัก ผลไม้ และไม้ดอกไม้ประดับให้กับโครงการหลวง ไม่รับนักท่องเที่ยว Walk in หรือนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้ติดต่อจองที่พักล่วงหน้า เพราะชุมชนมีขีดจำกัดในการรองรับจำนวนนักท่องเที่ยว ที่นี่เน้นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับนักท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยจะมีไกด์สายเลือดปกาเกอะญอ คอยประชาสัมพันธ์และประสานงานให้กับชุมชนบ้านผาหมอนและนักท่องเที่ยว แนะนำในเรื่องต่างๆ เช่น สถานที่ท่องเที่ยวละแวกดอยอินทนนท์ หรือถ้าใครอยากเรียนรู้วัฒนธรรมประเพณีของชาวปกาเกอะญอ เขาก็สามารถอธิบายแนะนำให้เราเข้าใจได้ไม่ยากด้วยจิตสำนึกที่บรรพบุรุษชาติพันธุ์ชนเผ่ากะเหรี่ยงปกาเกอะญอที่สานต่อวิถีอันมีค่าให้ดำรงสืบไป เครดิตภาพ จาก ผู้เขียน ทั้งหมด อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !