วัดบุปผาราม หรือที่ชาวบ้านท้องถิ่นเรียกกันติดปากว่า "วัดปลายคลอง" ในจังหวัดตราด วัดแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่วัดเท่านั้น แต่คือพิพิธภัณฑ์มีชีวิตที่เล่าขานประวัติศาสตร์ ศิลปะ และศรัทธาผ่านทุกอณูของพื้นที่ วัดบุปผารามตั้งตระหง่านอยู่บนเนินสูงใกล้คลองในตำบลวังกระแจะ อำเภอเมืองตราด ห่างจากตัวเมืองเพียงไม่กี่กิโลเมตร แผนที่ https://maps.app.goo.gl/pkAo2jAHhkHM178CA ความพิเศษของวัดบุปผารามนี้คือการครองตำแหน่ง วัดที่เก่าแก่ที่สุดของจังหวัดตราด โดยมีหลักฐานบ่งชี้ว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ในรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ราวปี พ.ศ. 2195 ซึ่งนับรวมอายุแล้วก็กว่า 300 ปี! ชื่อ "บุปผาราม" นั้นมีความหมายอันไพเราะว่า "พระอารามแห่งดอกไม้" เนื่องจากในอดีตผู้ที่ริเริ่มสร้างวัดบุปผารามได้กลิ่นดอกไม้ป่าหอมอบอวล ณ บริเวณนี้ จึงถือเป็นนิมิตหมายอันดีและได้สร้างวัดขึ้น การเดินชมวัดบุปผารามจึงเปรียบเสมือนการเดินย้อนรอยประวัติศาสตร์อันยาวนานของดินแดนปลายอ่าวไทยแห่งนี้ หัวใจสำคัญของการมาเยือนวัดบุปผารามที่ไม่อาจมองข้ามได้เลยคือ พระอุโบสถ (หรือโบสถ์หลวงพ่อโต) ที่มีสถาปัตยกรรมแบบก่ออิฐถือปูนผนังสีขาวเรียบง่าย ที่ซ่อนความอลังการของงานพุทธศิลป์ไว้ให้ผู้มาเยือนได้ตื่นตาตื่นใจ ที่นี่เป็นที่ประดิษฐานของ หลวงพ่อโต พระประธานปางมารวิชัย สร้างจากทรายแดงฉาบปูน สิ่งที่น่าอัศจรรย์และเป็นเอกลักษณ์ของหลวงพ่อโต วัดบุปผาราม องค์นี้คือ พระนขา (เล็บมือและเท้า) ที่ประดับด้วยเปลือกหอย มีสีขาวขุ่นคล้ายเล็บคนจริง ซึ่งหาชมได้ยากยิ่งในพระพุทธรูปองค์อื่น ๆ ทั่วประเทศ นับเป็นความละเอียดอ่อนและภูมิปัญญาช่างโบราณที่สะท้อนผ่านผลงาน แต่ความพิเศษของพระอุโบสถแห่งวัดบุปผารามยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะผนังภายในเต็มไปด้วย จิตรกรรมฝาผนัง อันเก่าแก่และทรงคุณค่า โดยเป็นศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น (สมัยรัชกาลที่ 3) ลวดลายจิตรกรรมเหล่านี้ถ่ายทอดเรื่องราวทางพุทธประวัติ เช่น พระพุทธเจ้าปางแสดงธรรม และลวดลายดอกพุดตาลที่งดงามอ่อนช้อย รวมถึงลวดลายดอกไม้และม่านพริ้วไหวรอบบานประตูหน้าต่าง ที่สำคัญคือมีการผสมผสานศิลปะจีนและวรรณคดีจีนเข้าไปด้วยอย่างกลมกลืน ซึ่งบ่งบอกถึงอิทธิพลและความสัมพันธ์ทางการค้ากับชาวจีนที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในเมืองท่าชายฝั่งตะวันออกแห่งนี้ในอดีตอย่างชัดเจน ลองใช้เวลาสักนิดเงยหน้ามองเพดาน ก็จะพบกับลายรูปดาวและกลีบบัวซ้อนอยู่ภายใน สื่อถึงจักรวาลและพระธรรมอันเป็นมงคล... การได้ยืนอยู่ท่ามกลางภาพวาดเก่าแก่เหล่านี้ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินทางทะลุมิติกลับไปสู่ยุคอดีตอันรุ่งเรือง นอกเหนือจากพระอุโบสถแล้ว วัดบุปผารามยังเป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์วัดบุปผาราม ซึ่งเปรียบเสมือนห้องเก็บสมบัติทางประวัติศาสตร์และศิลปะของจังหวัดตราด ที่นี่เป็นแหล่งรวบรวมโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าไว้มากมาย จนได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาดของจังหวัด สิ่งที่ถือเป็นมงคลสูงสุดคู่บ้านคู่เมืองที่ประดิษฐานอยู่ที่นี่คือ พระบรมสารีริกธาตุแท้ ซึ่งมีประวัติการค้นพบและอัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดแห่งนี้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2459 วัดบุปผารามยังคงไว้ซึ่งรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโบราณที่งดงามหลายจุด ซึ่งทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกถึงความขลังและความศรัทธาที่สืบทอดกันมาเช่น - วิหารพระพุทธไสยาสน์ (วิหารพระนอน) ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์ ซึ่งมีจิตรกรรมฝาผนังเน้นลายดอกไม้และสัตว์ต่าง ๆ ผสมผสานศิลปะจีนและวรรณคดีจีน - หอสวดมนต์ เป็นอาคารไม้ทรงไทยยกพื้นสูง หลังคามุงกระเบื้องเคลือบ มีหน้าบันไม้จำหลักปิดทองลายเทพนม ดูอ่อนช้อยงดงาม - หมู่กุฏิเล็กทรงไทย ที่สร้างตามพระวินัยบัญญัติแบบโบราณ คือมีขนาดพอดีสำหรับพระภิกษุรูปเดียว ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแบบแผนการสร้างวัดในอดีตอย่างถูกต้อง บรรยากาศโดยรอบวัดบุปผารามมีความ ร่มรื่น เงียบสงบ และสะอาดสะอ้านเป็นระเบียบเรียบร้อย ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการมาทำบุญไหว้พระ ปฏิบัติธรรม และพักผ่อนหย่อนใจจากความวุ่นวายภายนอก ด้วยความโดดเด่นทางประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และโบราณวัตถุอันล้ำค่า ทำให้วัดบุปผารามถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวในโครงการ "Unseen New Chapter" ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญและความน่าสนใจของวัดบุปผารามแห่งนี้ในฐานะจุดหมายปลายทางที่ไม่เพียงแต่สายบุญเท่านั้นที่ต้องมาเยือน แต่ยังรวมถึงผู้ที่สนใจในประวัติศาสตร์ ศิลปะ และความงามแบบไทยโบราณ ได้สัมผัสถึงมนต์เสน่ห์เหนือกาลเวลาที่สถิตอยู่คู่เมืองตราดมานานนับศตวรรษ การมาเยือนวัดนี้คือการได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการชื่นชมและรักษาไว้ซึ่งมรดกอันล้ำค่าของชาติไทย *หมายเหตุ ภาพถ่ายและเนื้อหาทั้งหมดในบทความ เขียนขึ้นโดยผู้แต่งเอง (Wefoto) อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !