เปลวไฟที่ลุกช่วงไม่เคยดับมากว่า 2500 ปี ความเชื่อเรื่องการชำระบาป หลุดพ้นจากความทุกข์ ที่คนทุกคนนั้นมองเป็นเรื่องน่ากลัว แต่สำหรับที่นี่การจากลาเป็นเรื่องปกติ คิวที่นอนเรียงรายคือร่างที่ไร้วิญญาณ ครั้นเมื่อถึงวาระแตกดับก็ย่อมต้องสลายไปกับกองเพลิงอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง สิ้นลมหายใจ เขาจะนำพาร่างอันเปื่อยเน่านั้นไปแห่งใดไม่อาจรู้ได้ ชีวิตคนเราก็มีเพียงเท่านี้ เพียงแค่ได้ลืมตาตื่นมาในตอนเช้าขอให้เรานั้นขอบคุณตัวเองขอบคุณโลกที่ให้เราได้ตื่นขึ้นมา มองชีวิตนเอง เราได้เคยสร้างสิ่งไหนไว้ให้คนอื่นได้ใช้ประโยชน์บ้าง คนเราเมื่อไหร่ที่ถึงเวลาต้องจาก ไม่มีใครมาบังคับห้ามไม่ให้แก่ ซึ่งหลังจากนั้นธรรมชาติจะเรียกเรากลับคืนสู่แผ่นดิน เปรียบร่างของคนเราในเมื่อครั้งวิญญาณออกจากร่างแล้วนั้นก็เหมือนท่อนไม้ท่อนฟืน แรกนั้นสวยใส แต่หลังจากนั้นกาลเวลาทำให้เปลี่ยนแปลงไป จนถึงทิ้งต้นยืนตายไร้ค่า เปรียบกับชีวิตของคนเราตั้งแต่เกิดขึ้นมาเป็นมนุษย์พ่อแม่คอยดูแลปกป้องอย่างทะนุถนอม ก่อนก้าวเดินต่อสู้กับโลกภายนอก ความเชื่อที่ว่ากรรมนำมาเกิด ยังคงมีให้เห็นทั่วไป คนที่เคยทำกรรมดี ย่อมเกิดมามีรูปร่างสวย ฐานะทางสังคมดี ไม่ทุกข์ทรมานอดอยากไร้แม้ที่จะซุกกายนอนในยามค่ำคืนอันเหน็บหนาว ประเทศอินเดียหลากหลายความเชื่อเกี่ยวกับการล้างบาป การขจัดสิ่งไม่ดีออกจากตัวเรา การเห็นแสงแรกของดวงอาทิตย์เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ แสงอาทิตย์คือจุดเริ่มของการออกทำมาหากิน ทุกชีวิตดำเนินไปได้เพราะแสงสว่าง น้ำถือเป็นสิ่งสำคัญของทุกชีวิต ทุกชีวิตไม่สามารถดำรงอยู่ได้หากขาดน้ำ ครั้งนี้ได้มีโอกาสเดินทางจาริกตามรอยพระศาสดาที่ประเทศอินเดียและเนปาล ร่วมกับกลุ่มเยาวชนผู้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ในนามยุวพุทธในพระบรมราชูประถัมภ์ โดยตามรอยพระศาสดาครบทั้ง 4 สังเวชนียสถาน สถานเริ่มที่สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ ประกาศศาสนา และปรินิพพาน ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ในการเดินทางล่องเรือชมวิถีชีวิตของชาวอินเดียสองฝั่งแม่น้ำคงคา ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น เพื่อลอยประทีปอธิษฐานจิตสวดมนต์ชะล้างใจตามความเชื่อ เป็นระยะเวลาประมาณสองชั่วโมงและรอคอยชมแสงแรกของวันใหม่ เพื่อเป็นสิริมงคล ในการลอยประทีปถือเป็นการลอยทิ้งความทุกข์โศกฝากไปกับแม่น้ำ การที่ล่องชมแม่น้ำคงคา เพราะการได้ล่องแม่น้ำคงคา ถือว่าเรานั้นได้มาถึงประเทศอินเดีย แม่น้ำคงคาคือแหล่งรวมชีวิตของชาวอินเดียตั้งแต่เกิดจนถึงวาระสุดท้ายสู่เชิงตะกอน การล้างบาปของชาวอินเดีย ในแม่น้ำคงคา พวกเราตื่นนอนกันตอนเช้ามืด ต้องเดินเท้าลงไปให้ถึงริมแม่น้ำ ก่อนเวลาตีห้า เพราะถ้าหากลงไปช้ากว่านี้ บริเวณแม่น้ำจะไม่มีแม้แต่ทางเดิน เพราะเมื่อแสงพระอาทิตย์ขึ้นทั้งวัวทั้งคนจะเริ่มการเคลื่อนไหว เพื่อต่อสู้กับชะตาชีวิต ชีวิตที่เลือกเกิดไม่ได้ แต่จะต้องมีชีวิตต่อไปให้ได้ ระหว่างทางเดินสู่แม่น้ำคงคา จะต้องระมัดระวังในการเหยียบระเบิด ที่ทั้งคนและสัตว์วางไว้ ถ้าหากขาดสติแม้เวลาเพียงเสี้ยวอาจจะต้องทิ้งรองเท้า เพราะกลิ่น เดินถึงริมแม่น้ำ ระยะทางเท้าประมาณ 500 เมตร ถึงริมแม่น้ำ เป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า เพราะขณะที่เราเดินทางไปนั้นจะเห็นขบวนแห่ ระหว่างทางสู่เปลวไฟ ร่างที่นอนนิ่งบนแพที่มีสี่คนหาม เดินกันไปอย่างเงียบๆ แม้ตายร่างเขายังเอาไปเผา นอนเรียงเข้าแถวรอไฟเผาร่าง ชีวิตก็มีเท่านี้ ปลงกับชีวิตไม่มีความแน่นอน การจะนำร่างอันไร้วิญญาณเผาได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย จะต้องมีเงินและทรัพย์เพื่อจ้างสัปเหร่อและซื้อฟืนเพื่อใช้เผาร่างของตน บางศพเงินน้อยเผาร่างของตนยังไม่มอดไหม้ สัปเหร่อก็ใช้ไม้จิ้มแล้วโยนลงแม่น้ำ ส่วนศพของหญิงสาวและเด็กเล็กที่เรียกว่าศพบริสุทธิ์จะไม่ทำการเผา จะต้องโยนลงน้ำเชื่อว่าจะได้ขึ้นสวรรค์ล่องเรือชมวิถีชีวิตริมแม่น้ำคงคา หลังจากที่เดินลงมาถึงแม่น้ำ จะต้องเดินลงบันไดเพื่อก้าวสู่แม่น้ำซึ่งเชื่อว่า เป็นหนทางสู่ความสุข การลงเรือนั้นจะต้องเป็นเรือลำใหญ่ เพราะจะต้านกับแรงน้ำ การลอยเรือของพวกเราจะลอยไปกลางแม่น้ำ เพื่อทำการชำระล้างบาป โดยการลอยประทีป กระทงไฟแสดงถึงดวงชีวิตลอยลงไปกับแม่น้ำเพื่อเป็นการชำระล้างบาปอีกวิธีหนึ่ง ตำนานเปลวไฟที่ไม่เคยมอดมากว่า 2500 ปี ไฟความร้อนที่เผาร่างกายของเราตั้งแต่เกิดจนถึง ช่วงสุดท้ายของชีวิต ไฟราคะ ไฟโทสะ ไฟโมหะ ที่ผลัดกันหมุนเวียนเข้ามารุมเร้าในร่างกาย เมื่อเรามองไปเห็นร่างที่ถูกไฟเผาไหม้ บางศพนอนบนกองฟอน บางศพถูกโยนทิ้งลงน้ำเมื่อไหม้ยังไม่หมด บางศพลอยอยู่เหนือน้ำ โดนแร้งรุมจิกกินซาก การล้างบาป ชาวอินเดียทุกคนต่างเดินลงมาที่แม่น้ำคงคาอย่างมุ่งมั่นเพื่อทำการอาบน้ำชำระล้างบาป ซึ่งพิธีอาบน้ำนี้จะเริ่มตั้งแต่ดวงอาทิตย์ยังไม่ขึ้นส่องแสง โดยความตั้งใจเดินค่อยๆเดินลงบันไดทีละขั้น จนถึงแม่น้ำเมื่อถึงน้ำแล้วก็จะเดินลงไปเรื่อยๆ จนหัวจมมิดประนมมือ และกลั้นหายใจในน้ำ จากนั้นโผล่ขึ้นมาบนน้ำ ซึ่งเหมือนกันกับการเกิดใหม่อีกครั้ง ซึ่งเราจะมองเห็นเพียงชายเท่านั้นที่เดินทางมาชำระล้างบาป ระหว่างขั้นบันไดจะมีผู้คนนั่งมองอีกฝ่ายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้จะมีบางคนที่ไม่ใส่อะไรท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ ถ้าเราลอยเรือไปเรื่อยๆ เราจะได้เห็นท่าน้ำแห่งนี้ ซึ่งท่านี้มีความเชื่อว่าถ้าหากเสียชีวิตแล้วได้มาลอยศพบริเวณนี้ จะได้ไปสวรรค์ ท่านี้จะสำหรับผู้หญิงและเด็กซึ่งจะไม่มีการเผา จะทำพิธีโยนลงน้ำได้เลย เพราะถือเป็นวิญญาณบริสุทธิ์ ถ้าลอยไปในแม่น้ำคงคาเชื่อจะได้ไปสวรรค์ เป็นท่าที่โดดเด่นและยิ่งใหญ่แสงแห่งชีวีตที่รอคอย ล่องเรือในแม่น้ำคงคาประมาณตีสี่ครึ่ง ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง เมื่อแสงแห่งชีวิตกำลังจะส่องสว่างให้กับโลกมนุษย์ เพื่อให้ทุกชีวิตรู้ว่าการเริ่มต้นการทำมาหากินมาถึงแล้ว ทางทิศตะวันออกที่ไม่มีสิ่งใดคอยบดบัง แสงสว่างกำลังค่อยๆส่องให้สัตว์โลก สวยงามสมการรอคอย เมื่อแสงพระอาทิตย์ขึ้นส่องสว่างบนฟ้าเสียงสาธุดังสนั่นรอยยิ้มของหลายชีวิตแสดงถึงความสุขแสงตะวันแสงแห่งชีวิต ชีวิตที่ถูกฉาบทาด้วยสีสันบนใบหน้า ในตอนที่มีชีวิตอยู่ ชีวิตของเราเช่นดวงตะวัน เช้าเราตื่นขึ้นมาสร้างประโยชน์ทำงาน ตกเย็นเราก็กลับ ดวงอาทิตย์ก็ตกดินนำพาความมืดให้โลก ทุกอย่างหลับไหลจากนั้นก็รอรุ่งเช้าวันใหม่ หมุนเวียนไปอย่างนี้มานับสองพันปี คนเราก็เช่นกันเกิดและดับมานับกี่ชาติแล้วไม่อาจรู้ได้ หลังแสงสว่างเบิกฟ้า เมื่อแสงสว่างมาให้กับชีวิต เริ่มมองเห็นวิถีชีวิตบนสายน้ำ จากที่รายรอบเรือมีเพียงความมืดกลับกลายเป็นวิถีทางน้ำ จากภาพที่เห็นประชาชนจำนวนมาก เดินทางมารอแสงของพระอาทิตย์แล้วทุกอย่างก็สลายหายไปเหลือเพียงท่าน้ำที่เงียบสงบ แต่ไม่ว่าจะมืดมนหรือมีแสงสว่าง เปลวไฟที่เผาร่างไร้วิญญาณก็ยังคงลุกโซน ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่หมดลมหายใจแล้วจะเดินทางมาเผาที่นี่ทั้งหมด ริมแม่น้ำคงคาตลอดสาย สามารถที่จะเผาร่างอันไร้วิญญาณได้ทั้งหมด อาจจะเป็นครอบครัวจัดการเผาเองโดยพราหมณ์ ทำพิธีซึ่งจะต้องหาเอง แต่ถ้านำมาเผาที่ท่าแห่งนี้ จะมีความเชื่อในเรื่องของไฟ เป็นไฟที่ไม่เคยดับหายไป เหมือนกับชีวิตที่มีบางช่วงเราก็ไฟแรง บางช่วงไฟก็ไม่ค่อยลุก ข้อห้ามในการชมสองฝั่งแม่น้ำ ในการล่องแม่น้ำจะสิ่งแรกคือห้ามถ่ายภาพเมื่อเข้าใกล้สถานที่สถานที่เผาศพ ถ้าถ่ายจะต้องห้ามใช้แฟลตที่ทำให้รู้ได้ว่าเรานั้นถ่ายภาพ และห้ามส่งเสียงตะโกนดัง เพราะสถานที่นี้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตอยู่ในความเศร้าโศกเสียใจ เมื่อเราพายเรือเข้าไปใกล้จะมองเห็นวิถีชีวิตท่ามกลางเปลวไฟไม่ว่าจะวัวซึ่งอินเดียถือว่าวัวนั้นคือเทพเจ้า ที่เมื่อมีการเลี้ยงเพื่อให้นมในบ้าน เมื่อวัวนั้นมีอายุเยอะหรือที่เราเรียกว่าแก่ วัวจะถูกปล่อยให้เป็นอิสระเพราะถือว่าได้ทำความดีให้กับเจ้าของเรียบร้อยแล้ว ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว กองฟืน เชื้อเพลิงที่มีการเตรียมไว้เพื่อเผาร่างกายที่ไร้วิญญาณการที่จะใช้ได้นั้นจะต้องมีทรัพย์สินในการซื้อซึ่งขายราคานับเป็นท่อน ถ้าญาติต้องการที่จะเผาด้วยไฟจะต้องมีฟืนก่อขึ้นและนำร่างวางไว้บนกองฟอน จุดไพเพื่อเผา ซึ่งเราไม่สามารถเข้าไปตรงนั้นได้ เพราะเป็นที่ต้องห้ามสำหรับนักท่องเที่ยว สวมชุดขาว พราหมณ์ผู้ทำพิธีในการสวดส่งดวงวิญญาณเพื่อให้ไปสู่สรวงสวรรค์ ในการจะเผาศพได้ จะต้องมีหนึ่งคือพราหมณ์ผู้ทำพิธี พระสงฆ์สวดส่งดวงวิญญาณ และสัปเหร่อผู้ที่จะนำแสงไฟอันร้อนระอุ ถ้าสำหรับคนที่ไม่มีเงิน ศพผู้เสียชีวิตจะไม่ได้รับการเผา บริเวณนี้เราจะเห็นศพลอยอยู่ตามสายน้ำ ซึ่งคนที่ขับเรือเองไม่ได้ตกใจหรือกลัวเมื่อเห็นสิ่งเหล่านี้ ร่างที่เหลือครึ่งท่อนลอยขึ้นอืด ให้ฝูงแร้งคอยแทะจิกกินเนื้อที่เน่าเหม็น หัวกะโหลกที่ไม่มีแม้เศษเนื้อหลงเหลืออยู่ เป็นภาพที่เห็นจนชินตา สัปเหร่อยังใช้ไม้โยนเศษชิ้นส่วนร่างของมนุษย์ลงในน้ำเป็นระยะๆ แสงแรกของวันใหม่ กลางแม่น้ำคงคา หลังจากลอยประทีป แม่น้ำคงคา แม่น้ำที่ไม่เคยหลับไหลไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน เช้ามืดทุกคนต่างเดินทางเพื่อไปชำระล้างบาปเพื่อรอแสงแรกแห่งวัน สองข้างทางเต็มไปด้วยผู้คนที่ต่อสู้ชีวิตเพื่อให้รอดพ้นไปในแต่ละวัน ตัวเราเมื่อเห็นแล้วก็กลับมามองตัวเอง ไม่รู้วันไหนเราเองก็จะจากไปเฉกเช่นร่างที่นอนไร้ลมหายใจ การเวียนว่ายตายเกิดอยู่เช่นนี้ต่อไปนานแสนนานจนกว่าเรานั้นจะได้พบนิพพานภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียน (อุ้งเท้าแมว)เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !