สวัสดีค่ะวันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ไปต่างประเทศครั้งแรก ประเทศเพื่อนบ้านของเราเองค่ะ ประเทศกัมพูชานั่นเอง ทริปนี้บอกก่อนเลยว่า เป็นทริปกับทางมหาวิทยาลัย ทางสาขาที่เราเรียนเขาต้องการให้นักศึกษาได้ไปฝึกภาษาอังกฤษแล้วก็เรียนรู้วัฒนธรรมในต่างแดนก็เลยกลายเป็นทริปนี้ขึ้นมานั่นเองค่ะ ทริปนี้ไปกัน 8 คน รวมอาจารย์ พวกเราไปอยู่ที่นั่น 3 วัน 2 คืน การเดินทางในครั้งนี้เราไปที่ เมืองเสียมเรียบ แล้วไปสถานที่ที่สำคัญของประเทศกัมพูชา ค่าใช้จ่ายแทบไม่ได้ใช้เลยค่ะ เพราะส่วนหนึ่งทางมหาวิทยาลัยมีงบประมาณให้ในการไปศึกษาในครั้งนี้ พวกเราพักกันที่โรงแรมแล้วก็มีพี่ไกด์จากทางประเทศกัมพูชาเป็นคนนำทริปในครั้งนี้ด้วยค่ะ วันแรก: พวกเราเดินทางออกจากมหาวิทยาลัย ไป จังหวัดสระแก้ว เพื่อจะข้ามฝั่งไปทางประเทศกัมพูชา ตรงนี้ต้องผ่านด่านตรวจคนก่อนเข้าประเทศของเขา จากนั้นพี่ไกด์ มารับพวกเราโดยรถตู้ที่เขาจัดไว้ให้ ( จากที่เราสังเกตประเทศเขา ขับรถข้างซ้าย ) พวกเรารับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารประกายพรึก อาหารที่นี่อร่อยนะคะ ร้านอาหารอยู่ระหว่างทางที่จะไปเมืองเสียมเรียบ จากนั้นพวกเราเดินทางมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่ต้องไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อน คือ ศาลองค์เจ็ก องค์จอม เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวต้องมาสักการะ เพื่อขอพรและ เปรียบเสมือนเป็นศาลหลักเมืองของประเทศกัมพูชาค่ะ จากนั้นเราเดินทางไปที่ ลานประหาร (ขออภัยตรงนี้เราลืมชื่อ) เราเดินทางไปต่อกันที่ โตลเลสาบ ที่นั่นวิวสวยดีนะคะ เรานั่งเรือไปตรงจุดที่เขาไปกัน ระหว่างการเดินทางอากาศดี เห็นผู้คนอาศัยอยู่ตามแนวชายฝั่งริมแม่น้ำ แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิต การใช้ชีวิตส่วนหนึ่งของคนที่นั่นค่ะ ซื้อตั๋วก่อนลงเรือค่ะ ทางเดินลง-ขึ้นตรงนี้ชันมาก ระวังลื่นด้วยนะคะ แนะนำใส่รองเท้าผ้าใบมาดีกว่าค่ะ ลืมบอกที่นี่มีจระเข้ด้วยนะคะ ( แอบกลัวค่ะ ) และแล้วก็มาถึงมื้อเย็นของพวกเราวันนี้กันค่ะ ทริปวันแรกก็จบลงแล้วนะคะ ความรู้สึกแรกที่มาที่นี่คือ แปลกๆเพราะไม่ใช่ประเทศของเรา ไม่คุ้นเคยค่ะ แล้วก็อากาศร้อนใช้ได้เลยค่ะ เพราะมาในช่วงเดือนมีนาคมอากาศที่นี่คือไม่ต่ำกว่า 37 อาศา เลยค่ะ วันที่สอง: พวกเราตื่นมารับประทานอาหารเช้ากันที่โรงแรม ในส่วนตรงนี้คือ ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้แล้วที่ห้องอาหาร เราสามารถไปหยิบไปตักรับประทานเองได้เลยค่ะ จากนั้นเราเริ่มเดินทางมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่สำคัญของทางประเทศกัมพูชาค่ะ นั่นคือ นครวัด นครธม ปราสาทบายน และปราสาทตราพรหมค่ะ เรามาเริ่มกันที่แรกก็คือ นครวัด นครวัดคือสถานที่ที่สำคัญที่สุด และนักท่องเที่ยวมากที่สุดที่พวกเราไปใน 4 ที่นี้ เป็นสถานที่ที่สำคัญของโลก และของประเทศกัมพูชาและศาสนสถาน ณ ที่นี้ได้รับความยกย่องในเรื่องความงามของสถาปัตยกรรม กลมกลืนกันอย่างงดงามและเป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดของโลกอีกด้วย เลยกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชาไปในที่สุด เราไปสถานที่ที่สองกันเลยนั่นก็คือ นครธม นครธมเดินทางจากนครวัดไม่ไกลมากค่ะ ทั้ง 4 ที่ เดินทางไม่ไกลกันเท่าไหร่ค่ะ ที่นี่คือ ประตูเมืองนครธม แล้วพอเข้าไปก็เจอกับ ปราสาทบายล แล้วสถานที่สุดท้ายก็มาถึงคือ ปราสาทตราพรหม พวกเราต้องตะลึงในความอลังการ ความสวยงามของปราสาทตราพรหมเพราะเข้าไปเจอกับธรรมชาติที่ล้อมรอบตัวปราสาทไว้ ทำให้ดูลงตัว ลึกลับและสวยงามอย่างบอกไม่ถูก มื้อกลางวัน เรามารับประทานอาหารกันที่ร้านอาหารที่พี่ไกด์เขาแนะนำค่ะ และแล้วเราก็มาถึงมื้อเย็น รับประทานอาหารกับร้านอาหารพื้นเมืองของที่นี่ค่ะ พนักงานที่นี่ใจดีมากเลยค่ะ คอยทำทุกอย่างและคอยถามว่าเพิ่มอะไรอีกไหมคะ รับอะไรเพิ่มอีกไหมคะ สำหรับที่นี่บริการดีมากๆค่ะ ทริปวันที่สองก็จบเพียงเท่านี้ วันนี้คือวันที่เหนื่อยมากๆค่ะ เพราะว่าอากาศร้อนค่ะ และพวกเราไปหลายสถานที่ด้วยค่ะ ในตอนกลางคืนพวกเราได้ไปเที่ยวตลาดกลางคืนของที่นั่นค่ะ ครึกครื้นและแสงสีสวยงาม มีผับมีบาร์ เพื่อนฉันไปกันค่ะ แต่ฉันกลับมาที่ห้อง เพื่อนมาเล่าให้ฟังเปิดเพลงไทยด้วยนะคะคล้ายที่เมืองไทยเลยค่ะ วันที่สาม: พวกเราตื่นมารับประทานอาหารเช้ากันเหมือนเช่นเดิมค่ะ ต่อจากนั้นพวกเราเดินทางไปตลาดซาจ๊ะ เพื่อซื้อของฝากกลับประเทศไทย มีหลายอย่างเลยค่ะ ทั้งพวกกุญแจ เสื้อ กางเกง ผ้าไหม ผ้าพันคอ ที่ติดตู้เย็น และอื่นๆค่ะ ไม่แพงนะคะ ค่อนข้างถูก ก่อนกลับเรารับประทานอาหารกันที่ร้านอาหารเช่นเดิมค่ะ แล้วพี่ไกด์พาพวกเรามาส่งที่ด่านตรวจคนก่อนเข้าประเทศไทยเช่นเดิม และสุดท้ายนี้พวกเราเดินทางกลับบ้านกันอย่างโดยสวัสดิภาพค่ะ ทริปวันที่สามจบลงเพียงเท่านี้ หลังจากกลับมาจากประเทศกัมพูชา สนุกและได้ความรู้หลายอย่างเลยค่ะ เห็นวัฒนธรรมที่แตกต่างและภูมิลักษณ์ของประเทศเพื่อนบ้านของเรา เมืองเสียมเรียมเป็นเมืองที่เงียบสงบ และมีสถานที่ที่สำคัญหลายแห่งที่ทุกคนไม่ควรพลาดที่จะมาแวะชม ผู้คนที่นี่สำหรับฉัน ใจดี และคอยช่วยเหลือกันค่ะ ส่วนในด้านการใช้ภาษาไม่ค่อยได้ใช้เลยค่ะ เพราะเขาพูดภาษาไทยกันได้นิดหน่อย ส่วนมากเขาพูดภาษาของเขาเอง ส่วนในเรื่องที่พัก พวกเราเจอเรื่องที่ไม่คาดคิดค่ะ คือรู้สึกว่ามีคนมาเคาะห้องค่ะ เพื่อนเรา และเราก็โดนค่ะแต่พวกเราได้แจ้งทางโรงแรมแล้ว (ขออนุญาตไม่บอกชื่อโรงแรมนะคะ) ต้องระวังตรงนี้ควรล็อคห้องให้ดีนะคะเพราะเราอยู่ในต่างประเทศ และอีกเรื่องส่วนตัวฉันคือ ฉันแพ้อาหารบางอย่างจากที่นั่นค่ะแต่ไม่รู้ว่าแพ้อะไร แต่ฉันไม่เป็นอะไรมากค่ะ แค่มีผื่นขึ้นเต็มตัวเลยต้องเข้าโรงพยาบาล แค่ฉีดยาแล้วกลับมาพักผ่อนที่บ้านค่ะ แต่สำหรับทุกๆคน ถ้าจะรับประทานอะไรแนะนำให้ดูดีๆก่อนนะคะ เผื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นแบบเราค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ เราอยากแชร์ประสบการณ์ในต่างแดนครั้งแรกของเรา หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์และให้ความรู้ในบางเรื่องกับผู้อ่านไม่มากก็น้อย ขอบคุณมากค่ะ *ทริปนี้เราไปมาเมื่อมีนาคมปี2019 นะคะ Hello Writer: Diamond Cr pic; by me สามารถติดตามช่องทางการติดต่อเราได้ทาง Facebook: Sudarat Klankaew Instagram: k.sudaratt_ Twitter: ddiamonddz My YouTube channel: Diamonddiary channel