สถานี ‘วัดมังกร’ เป็นชื่อสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ที่พวกเราได้ยินกันมาพักใหญ่แล้ว ซึ่งถือเป็นสถานีรถไฟใต้ดินแห่งล่าสุด ที่นำคนจากทั่วสารทิศ เข้าไปได้ไกลถึงใจกลางเมืองด้วยความสะดวกและรวดเร็ว อีกทั้งยังมีรูปลักษณ์สถานีที่เป็นเอกลักษณ์-สะอาดสะอ้าน เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของคนในปัจจุบัน เพราะถือว่าเป็นความตื่นเต้นเล็ก ๆ ที่เราจำได้เห็นหน้าตาของวัดมังกรเป็นครั้งแรก ผ่านความเจริญที่มาตามเส้นรถไฟใต้ดิน ที่นอกจากจะทำให้เราได้รูปถ่ายสวย ๆ แล้ว ก็ยังทำให้ผู้เยี่ยมชมได้ทำบุญไปในตัวด้วย ที่สำคัญ วัดมังกร หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ ยังเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของผู้คนมากมาย ทั้งคนจีนและคนไทย ที่ได้มีมาเนิ่นนาน หลายคนเชื่อในเรื่องของการไปขอพรแก้ปีชง หรือการแก้ดวงที่นี่ เพื่อให้เป็นสิริมงคลในปีนั้น ๆ สืบต่อไป ซึ่งความเชื่อเหล่านี้เรามองว่ามันเป็นสิ่งที่สั่งสมมาตามกาลเวลา จึงทำให้เรารู้สึกได้ว่า วัดมีความเก่าแก่และมีรายละเอียดมากมายสลักอยู่ ในขณะเดียวกันก็มีความทันสมัย เพราะผสมผสานไปด้วยฟิลเตอร์ของคนรุ่นใหม่เช่นเดียวกัน โดยจุดนี้เองที่เรามองว่ามันน่าสนใจ แปลกใหม่ และให้อารมณ์ที่แตกต่างอย่างเด่นชัด ความโดดเด่นที่สวยงามตามสไตล์วัดจีน มีครบอยู่ในวัดมังกรกมลาวาศ เรามองว่าสิ่งที่นิยามของวัดจีนในประเทศไทยมี หรือภาพจำที่ติดตาทุกคน ว่าความเป็นวัดจีนจะต้องมีโครงสร้างอย่างไร มีบรรยากาศแบบไหน ที่วัดมังกรก็มีเช่นกัน แต่เราขอนิยามให้เป็นการมีที่โดดเด่นกว่าที่ไหน ๆ ด้วยความเป็นต่อขององค์ประกอบดังนี้ 1. มีสถานที่โปร่ง ภายในวัดแม้จะเต็มไปด้วยควันธูป แต่ก็กระจายหายไปได้เร็ว เพราะบริเวณกลางลานวัด เป็นสถานที่เปิดโปร่ง มองเห็นชั้นฟ้าได้อย่างแจ่มชั้น ทำให้อากาศไหลเวียนผ่าน ไม่อับจนทำให้แสบตา และแม้คนเยอะก็ไม่ได้ทำให้คับแคบ ซึ่งเรามองว่าดีทั้งในแง่ของการออกแบบและในแง่ของการใช้สอยได้จริง เพราะเมื่อคนไม่แออัด ควันธูปก็ไม่ก่อให้เกิดความรำคาญ และยากที่จะเกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งยังทำให้ผู้คนมองเห็นตัวโบสถ์ได้อย่างเด่นชัด กลายเป็นโลเคชั่นสวย ๆ ที่ตัดผ่านท้องฟ้า สะท้อนผ่านสายตาของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี 2. พิธีกรรม เราเป็นคนนึงที่มีเชื้อสายตีน จึงได้ไปวัดจีนค่อนข้างบ่อย และที่นี่ก็เป็นอีกที่ ๆ เรามองว่าในแง่พิธีกรรมก็ไม่ได้ขาดพร่อง กลับจะครบถ้วนเสียด้วยซ้ำ เพราะในการไปสักการะ ด้านในจะเต็มไปด้วยกระดาษเงิน-ทอง ส้ม และสัญลักษณ์ต่าง ๆ มากมายที่คนจีนมักจะสื่อเป็นของมงคลในการเส้นไหว้ให้กับเทพเจ้า ประจวบเหมาะกับวันที่เราไปเป็นช่วงปีใหม่ ทางวัดจึงจัดให้มีการสวดให้พรแบบจีน การสวดจึงเป็นภาษาจีนทั้งหมด ซึ่งเราเข้าใจว่าความหมายอาจไม่ได้แตกต่างจากการอวยพรเป็นภาษาบาลี แต่เนื่องจากความเชื่อและคำสอนที่แตกไปตามนิกาย จึงทำให้อาจจะมีส่วนแตกต่างกันเล็กน้อย เป็นภาพที่สวยงามมากเลยทีเดียว 3. สถาปัตยกรรม เอาจริง ๆ อย่างที่เราทราบดีอยู่แล้ว ว่าสถาปัตยกรรมทางด้านศาสนสถาน มีความงามแตกต่างกันไปตามแต่ความเชื่อ และมุมมองส่วนบุคคล ซึ่งเราเองก็มองว่าที่นี่สวยงามตามสไตล์จีน อาจจะแปลกตาสำหรับเด็กรุ่นใหม่ และมีโครงสร้างบางประการที่ไม่เหมือนกับวัดของไทย ซึ่งถ้าจะให้พูดแยกรายละเอียด คงต้องแงะรอยเอาจากความเชื่อ สภาพอากาศ และสิ่งแวดล้อมหลาย ๆ อย่างที่มาจากวัฒนธรรมจีน แต่ถ้าเอาตามภาษาบ้าน ๆ ผู้เขียนก็ไม่ได้มีความรู้ในการวิเคราะห์อะไรมาก บอกได้เพียงแต่งาม สวย ประทับใจ 4. ตัวแทนจากเทพเจ้า เมื่อเดินเข้าไปในโบสถ์ หรือในศาลเจ้า เราจะเห็นได้ว่ามียักษ์ 4 ตนยืนเฝ้าประตูด้านหน้า คล้าย ๆ กบะเป็นฑูตเฝ้าหน้าประตูสวรรค์เหมือนกับของไทย ซึ่งทางจีนก็มีความเชื่อเหมือนกัน แต่ละตนจะมีชื่อเรียกคนละแบบ และถืออาวุธคนละอย่าง ซึ่งประกอบไปด้วย เจดีย์ พิณณ์ แผนที่ และดาบ เป็นสิ่งที่เราเห็นตอนเข้าไปแล้วตกใจมาก แล้วก็ประทับใจจนต้องร้องว่า “ว้าว” เพราะเป็นสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมาย และปั้นออกมาได้งามตามแบบฉบับจีนดีจริง ๆ ความโดดเด่นเหล่านี้เอง ที่กลายเป็นองค์ประกอบให้ที่แห่งนี้ เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของคนรุ่นใหม่ ที่นอกจากจะได้ทำบุญแล้ว ก็ยังได้พบเจอกับบรรยากาศที่แปลกตา เพราะเราเห็นในวัดมีคนจำนวนเยอะเลย ที่เป็นเด็กวัยรุ่น เข้ามาทั้งถ่ายรูปและทำบุญไปในตัว เราอาจเรียกได้ว่านี่เป็นการเที่ยวแบบมัลติที่ผสมผสานไลฟ์สไตล์และความเชื่อไว้ด้วยกัน อย่างไรก็ดี ถ้าหากใครที่ยังไม่ได้มีโอกาสไปเที่ยว วัดมังกรกมลาวาส เราอยากเชิญชวนให้ทุกคนได้ลองไปดูสักครั้ง แล้วจะประทับใจชนิด Move on ไม่ได้แบบเรานี่แหละ ความเชื่อ ความสวยงาม และสถาปัตยกรรมที่ลงตัว ทำให้เรารู้สึกชอบที่นี่ และอยากจะกลับไปเที่ยวอีกบ่อย ๆ หรืออาจจะเป็นเพราะ เราเองก็เป็นคนรุ่นใหม่คนหนึ่ง ที่มองว่าสถานที่แห่งนี้เป็นแลนด์มาร์กอันอุดมไปด้วยองค์ประกอบหลากหลาย เป็นไลฟ์สไตล์และเป็นสิ่งที่เรานับถือ ผูกติดไว้ในสถานที่เดียวกัน สวัสดี เรื่องโดย : Lady Lolita (เลดี้ โลลิต้า) วัดมังกรกมลาวาส วัดเล่งเน่ยยี่ ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการเข้าชม วัน-เวลา เปิดทำการ : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6 โมงเช้า - 6 โมงเย็น