Unseen เที่ยวมาเลเซีย เกาะโบเฮย์ ดูลัง Bohey Dulang ดำน้ำดูปะการัง เหนือปากปล่องภูเขาไฟโบราณ
ถ้าคุณเป็นคนที่หลงรักทะเล พอๆ กับการเดินป่าและดำน้ำชมปะการังในโลกใต้สมุทร เราอยากชวนมาปักหมุดที่ เกาะโบเฮย์ ดูลัง Bohey Dulang เกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดของ รัฐซาบาห์ (Sabah) ประเทศมาเลเซีย มาสัมผัสแสงแดดที่ส่องสะท้อนระยิบระยับกับผืนทะเล ดำน้ำดูปะการัง เหนือปากปล่องภูเขาไฟโบราณ ณ เกาะสวรรค์กลางทะเลแห่งนี้ไปพร้อมกันค่ะ
Unseen มาเลเซีย สวรรค์กลางทะเล ที่
เกาะโบเฮย์ ดูลัง Bohey Dulang
รู้จัก เกาะโบเฮย์ ดูลัง
เกาะโบเฮย์ ดูลัง (Bohay Dulang Island) คือ 1 ใน 8 เกาะน้อยใหญ่ ได้แก่ Pulau Bodgaya, Bohey dulang, Tetagan, Selakan, Sebangkat, Maiga, Sibuan และ Mantabuan ภายในอาณาเขตอุทยานแห่งชาติทางทะเล Tun Sakaran Marine Park (TSMP) ค่ะ ที่มีพื้นที่รวมกว่า 340 ตารางกิโลเมตร โดย โบเฮย์ ดูลัง มีเนื้อที่บนเกาะประมาณ 313 เฮกตาร์ หรือราว 3.13 ตารางกิโลเมตร และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเกาะ Pulau Bodgaya
ภาพจาก : malaysia.travel
และยิ่งอันซีนขึ้นไปอีก เมื่อหมู่เกาะแห่งนี้ ในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของปากปล่องภูเขาไฟโบราณที่ดับสนิทไปแล้ว และถูกน้ำทะเลท่วมจน กลายสภาพเป็นเกาะที่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ และปัจจุบันได้กลายเป็น ลากูน หรือทะเลสาบที่มีความลึกถึง 25 เมตร ส่วนขอบปล่องภูเขาไฟที่เคยปะทุไปเมื่อ 2.5 ล้านปีก่อน ได้กลายเป็นแนวปะการังที่มีความสมบูรณ์และสวยงามตรึงตา ถัดออกมาเป็นแนวร่องน้ำขนาดเล็ก ทำหน้าที่แยกเกาะเกาะโบเฮย์ ดูลัง ออกจากเกาะ Pulau Bodgaya ที่อยู่ใกล้ๆ กัน ทะเลรอบๆ ของเกาะโบเฮย์ ดูลัง จึงมีแนวปะการังหลากสีสันอยู่มากมาย ทำให้ที่นี่กลายเป็น 1 ในสวรรค์ของนักดำน้ำเลยทีเดียว
ภาพจาก : malaysia.travel
ตำนานนางฟ้า Bohey Dulang
เจ้าหญิงผู้สาบสูญที่ได้รับพรจากจิตวิญญาณแห่งท้องทะเล
บนเกาะโบเฮย์ ดูลัง มีเรื่องราวที่เป็นตำนานเล่าต่อๆ กันมาว่า มีเจ้าหญิงแห่งเกาะ Bum Bum นามว่า Salamia ได้ถูกครอบครัวพามาซ่อนตัวไว้บนเกาะ Bohey Dulang เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกคลุมถุงชนให้แต่งงานกับสุลต่านแห่งเกาะทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์
แต่อยู่มาวันหนึ่ง เจ้าหญิงได้หายตัวไปและไม่มีใครหาเจออีกเลย ผู้คนจึงเชื่อว่าเจ้าหญิงได้รับพรจากจิตวิญญาณแห่งหมู่เกาะและท้องทะเลให้กลายเป็น “นางฟ้า” ซึ่งในช่วงคืนพระจันทร์เต็มดวง มักมีผู้พบเห็นหญิงสาวแสนสวยปรากฎตัวเดินเล่นบริเวณริมชายหาด พร้อมกับส่งเสียงขับกล่อมบทเพลงพื้นเมืองอย่างมีความสุข
ที่เที่ยวเกาะโบเฮย์ ดูลัง และกิจกรรมต้องห้ามพลาด
ดำน้ำชมปะการัง สัมผัสโลกใต้ท้องทะเล
แนวปะการังรอบๆ ปากปล่องภูเขาไฟ ยังเป็นหนึ่งในพิกัดของโลกใต้สมุทรที่นักดำน้ำห้ามพลาดเป็นอันขาดเลยค่ะ ถ้าได้มาเที่ยวเกาะโบเฮย์ ดูลัง เพราะลึกลงไปใต้ผิวน้ำสีมรกตแห่งนี้ เต็มไปด้วยแนวปะการังหลากสีสัน และเหล่าปลาตัวน้อยใหญ่ที่คอยมาว่ายวนใกล้ๆ ให้นักดำน้ำได้ทักทายกันอย่างใกล้ชิด หากโชคดีมีแต้มบุญพอ นักดำน้ำอาจจะได้สบตากับเจ้าเต่าตัวโต ซึ่งมีให้พบเห็นบ่อยๆ อยู่เกือบ 10 สายพันธุ์ หลังโขดหินก้อนใดก้อนหนึ่งก็ได้
Hiking ไปจุดชมวิวสุดอลังการ
นอกจากวิวสวยๆ ของผืนทราย และทะเลสีฟ้าใสแล้ว พื้นที่บริเวณทิศใต้ของเกาะโบเฮย์ ดูลัง เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามา Hiking ได้อีกด้วยค่ะ ถ้าคุณเป็นคนรักการเดินป่าพอๆ กับทะเล กิจกรรมนี้ต้องโดนใจแน่ๆ
เราจะได้เดินไปตามเส้นทางธรรมชาติ ซึ่งมีความหลากหลายทางกายภาพ ระยะทางประมาณ 600 เมตร ขึ้นไปยัง จุดชมวิวสูงสุดของเกาะ ที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 353 เมตร เพื่อชื่นชมผืนทะเลที่อยู่เบื้องล่างอันงดงาม
ไฮไลท์ของจุดชมวิวนี้ คือ ต่อให้มาเที่ยวซ้ำครั้งหน้า ก็ยังจะได้ภาพความประทับใจของน้ำทะเลสีฟ้าซึ่งไม่เคยซ้ำเฉดกลับไปอวดเพื่อนๆ อย่างแน่นอน ความสวยงามของธรรมชาติที่คาดเดาไม่ได้ในแต่ละช่วงเวลานี้ ดึงดูดให้ผู้รักการเดินป่าและท้องทะเลจำนวนมาก เติมชื่อของ โบเฮย์ ดูลัง ลงในพิกัด 1 ในทริป Unseen in Malaysia ที่ต้องมาเห็นด้วยตาตนเองให้ได้สักครั้ง!
ชมฟาร์มหอยมือเสือ
อีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวบนเกาะโบเฮย์ ดูลัง ที่ควรแวะไปชม (หากมีเวลาเหลือจากการเดินลงมาจากจุดชมวิวบนยอดเขา) คือ ฟาร์มหอยมือเสือ ที่นี่เป็นทั้งศูนย์วิจัยและเพาะพันธุ์หอยมือเสือ ซึ่งมีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์เข้าไปทุกที นักท่องเที่ยวจึงมีโอกาสได้เยี่ยมชมบ่ออนุบาลหอยมือเสือตัวจิ๋ว ที่มีมากถึง 7 สายพันธุ์จากทั้งหมดในโลกที่มีอยู่ 9 สายพันธุ์ และยังได้ชมฟาร์มสาหร่ายทะเลไปพร้อมๆ กันอีกด้วย
สวรรค์ของนักดูนก
นอกจากพืชพรรณละลานตา และวิวอลังการแบบพาโนรามาบนจุดชมวิวหนึ่งเดียวบนเกาะแห่งนี้แล้ว โบเฮย์ ดูลัง ยังได้รับการประกาศให้เป็น เขตรักษาพันธุ์นก ในปี ค.ศ.1933 อีกด้วยค่ะ เนื่องจากมีการสำรวจพบนกหายากหลากหลายสายพันธุ์จำนวนมาก เช่น นกเงือกลายพร้อย นกกระทา นกฮูก นกเขาผลไม้ นกปากซ่อม นกพิราบโลหะ และนกแสกหน้าดิน จึงไม่แปลกที่เหล่า Bird Lovers จะยกให้เกาะแห่งนี้เป็น “สวรรค์ของนักดูนก” อีกแห่งหนึ่งของโลก
สัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่น
ภาพจาก : malaysia.travel
นอกจากการท่องเที่ยวธรรมชาติอันน่าประทับใจแล้ว ใกล้ๆ กับหมู่เกาะรอบๆ ปากปล่องภูเขาไฟโบราณ ยังเป็นที่อยู่อาศัยของ ยิปซีทะเล (Sea Gypsies) ซึ่งส่วนใหญ่เป็น ชาว Bajan Laut ที่มีวิถีชีวิตผูกพันกับท้องทะเลมายาวนานหลายชั่วอายุคนนั่นเอง
ชาว Bajan Laut มากกว่า 2,000 คน ส่วนมากปลูกบ้านไม้อยู่บนผืนทะเลรอบๆ พื้นที่อุทยานแห่งชาติทางทะเล และมีบางส่วนกินนอนทำประมงเลี้ยงชีพอยู่บนเรือไม้ ทั้งหมดอยู่อาศัยกับธรรมชาติ ไร้ไฟฟ้า ไร้น้ำประปา วิถีชีวิตของชาวบ้านจึงเป็นการพายเรือขึ้นเกาะไปแสวงหาแหล่งน้ำจืดจากลำธารบนภูเขา และปรุงอาหารบนบ้านไม้ที่คล้ายกับ “กระเตงกลางทะเล” ใครอยากแวะไปทักทาย สัมผัสกับวิถีชีวิตและลองพูดคุยกับชาวเลแห่งรัฐซาบาห์ ก็สามารถแจ้งไกด์ให้พาขับเรือมาเยี่ยมเยียนพวกเขากันได้
ภาพจาก : malaysia.travel
แม้ว่าบนเกาะโบเฮย์ ดูลัง จะไม่อนุญาตให้พักค้างแรม และไม่มีที่พักของอุทยานฯ ให้บริการ แต่นักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสความระยิบระยับราวคริสตัลของท้องทะเลอย่างใกล้ชิด ก็สามารถเลือกเข้าพักในรีสอร์ท หรือโฮมสเตย์บนเกาะใกล้ๆ อย่าง Pom Pom และ Mataking ได้ค่ะ หรือคู่รักที่มีแพลนมาฮันนีมูนในอ้อมกอดของอุทยานแห่งชาติซาบาห์ หรือหากใครซื้อแพ็กเกจ One Day Trip จากที่พักบนเกาะ Semporna ก็ใช้เวลาเดินทางโดยเรือสปีดโบ๊ทมายัง เกาะโบเฮย์ ดูลัง เพียงแค่ 35-40 นาทีเท่านั้น
ข้อควรรู้ ก่อนลงเรือ ดำน้ำ และเดินเท้าขึ้นไปชมความงามของลากูนเหนือปากปล่องภูเขาไฟโบราณ
- เตรียมร่างกายให้พร้อม ควรยืดกล้ามเนื้อก่อนเดินขึ้นเขา เพราะเส้นทางยาวกว่า 600 เมตรบนทางขึ้น และทางลงที่ยาว 700 เมตร ซึ่งแยกออกมาอีกทางจากทางขึ้น เต็มไปด้วยทางดิน หิน รากไม้ และบันไดสูงชัน หากไม่ยืดกล้ามเนื้อให้ดี อาจมีโอกาสเป็นตะคริวหรือบาดเจ็บระหว่างชื่นชมธรรมชาติได้
- ควรสวมรองเท้าหุ้มส้น รองเท้ารัดส้น หรือรองเท้าสำหรับเดินป่า ไม่ควรใส่รองเท้าแตะที่ขาดง่ายและลื่นล้มง่ายขึ้นมาบนจุดชมวิว เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุอันตรายระหว่างทาง
- หากมีฝนตกหนัก ทริปเดินป่าอาจถูกยกเลิกได้ตลอดเวลา
- ไม่ควรเดินออกจากเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เพราะอาจพลัดหลงและเกิดอันตรายได้
- ขณะนั่งเรือควรเก็บอุปกรณ์ถ่ายภาพและสัมภาระไว้ในกระเป๋ากันน้ำ เนื่องจากมีโอกาสที่จะถูกละอองน้ำทะเลกระเซ็นเข้ามาในเรือได้ตลอดเวลา
- เตรียมอุปกรณ์กันแดดส่วนตัว เช่น โลชันกันแดด SPF 50+ หมวกปีกกว้าง แว่นตากันแดด ปลอกแขน เสื้อกันรังสี UV หรือร่ม มาให้พร้อม เพราะตลอดทริป Island Hopping จะต้องอยู่กับแสงแดดตลอดเวลา
- สำหรับผู้ที่ซื้อทริปดำน้ำไว้ด้วย ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเดินป่าบนเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เกาะโบเฮย์ ดูลัง คือ ช่วงเช้า เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนมากจะเลือกเดินขึ้นเกาะกันตอนบ่าย จึงทำให้การเดินบนเส้นทางที่แคบและสูงชันยิ่งลำบากมากขึ้น
วิธีเดินทางมายัง Bohey Dulang
การเดินทางด้วยเรือสปีดโบ๊ทจะใช้เวลาไม่นานมาก ขึ้นอยู่กับต้นทางว่าเดินทางมาจากเกาะใด เช่น หากมาจากเกาะ Semporna ต้องใช้เวลาประมาณ 35-40 นาที แต่สำหรับเกาะ Pom Pom และ Mataking ที่ตั้งอยู่ใกล้กว่า จะใช้เวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้นค่ะ
การเยี่ยมชมเกาะ Bohey Dulang : นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมเกาะได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 16.00 น.
ค่าใช้จ่ายในการมาเที่ยวเกาะ Bohey Dulang
ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวส่วนมากจะแตกต่างไปตามแพ็กเกจที่เลือก โดยส่วนมากค่าธรรมเนียมขึ้นเกาะ ซึ่งอุทยานฯ เป็นผู้เก็บค่าเข้าชมจะถูกรวมไว้กับแพ็กเกจ Island Hopping แล้วค่ะ โดยค่าธรรมเนียมฯ จะมีอัตราแตกต่างกัน คือ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 10 RM ส่วนชาวมาเลเซียจะเก็บค่าเข้าชนเกาะเพียง 3 RM เท่านั้น