หากใครเคยผ่านเส้นทางสายลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่ ช่วงขาขึ้นทางซ้ายมือ เราจะเห็นรูปปั้น “ครูบาศรีวิชัย” องค์สีทองอร่าม ประดิษฐานตะหง่านโด่ดเด่นเห็นชัด อยู่บนเนินสูง ส่วนตรงถนน จะมีซุ้มเล็ก ๆ คล้ายประตูเมือง ตั้งอยู่ที่เกาะกลาง และด้านข้างถนนด้วย เวลาที่ขับรถผ่านไปมา เราคนหนึ่ง ที่ต้องกดแตร เพื่อเป็นสัญญาณการนมัสการท่านอยู่ตลอด ในทริปวันนี้ เกิดความขัดข้องในเรื่องของการถ่ายภาพ ภาพนิ่งภายในบริเวณวัด ไม่ว่าจะเป็นวิหาร บรรยากาศการทำบุญ โรงทานต่าง ๆ เสียหายไปมาก เหลือดี ๆ ไม่กี่ใบ เอาเป็นว่ารอบหน้าจะไปเก็บภาพมาให้เพื่อน ๆ ได้ชมกันเนาะ สถานที่แห่งนี้คือ “วัดดอยติ” ตั้งอยู่ที่ อ.เมือง จ.ลำพูน หาคนหลงทางยากมากนะ เพราะอยู่ติดถนนหมายเลข 1 กันเลย... วันนี้เรากับแม่ ตั้งใจมาเที่ยวงานประจำปีที่นี่ ในช่วงเช้าโดยปกติ จะเป็นช่วงเวลาของการทำบุญไหว้พระ นมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบริเวณวัด ส่วนในช่วงบ่าย จะมีขบวนแห่ครัวทาน ที่สวยงามมาก ๆ ในภาพนี้ คือลานด้านบนหน้ารูปปั้น บริเวณนี้เป็นลานกว้างมาก ๆ ถือว่าเป็นจุดชมวิว 360 องศาเลยก็ว่าได้ หากใครเดินไหว ก็ค่อย ๆ เลาะบันไดขึ้นมาได้เลย แต่หากใครไม่ไหว ก็ขับรถไปจอดด้านบน แล้วเดินออกมาด้านหน้าอีกทีก็ได้ ด้วยความที่ไม่มีหลังคา ดังนั้นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การชมวิว ก็ต้องเป็นเช้าตรู่และยามเย็นนะ “งานประเพณีตีกลองบูชาไหว้สาครูบาเจ้าศรีวิชัย” จะจัดขึ้นทุกวันที่ 9-11 มิถุนายน ของทุกปี เพื่อรำลึกถึงคุณูประการ และคุณงามความดีของท่าน เวลาประมาณเกือบ 4 โมงเย็น ขบวนแห่ครัวทาน ก็จะทยอยออกจากจุดที่ตั้ง แล้วเดินมายังวัดดอยติแห่งนี้ ขบวนชาติพันธ์ต่าง ๆ จะมีเครื่องสักการะของตนตามแต่ธรรมเนียม ทั้งการแต่งองค์ทรงเครื่อง การจัดขบวน การตีกลอง ก็จะแตกต่างกันไป ที่เหมือนกันคือ หัวใจที่เคารพบูชา “ครูบาเจ้าศรีวิชัย” เชื่อว่าชาวเหนือทุกคน ย่อมรู้ซึ้งถึงคุณงามความดีของท่าน ไม่เคยเสื่อมคลาย เมื่อขบวนแห่เครื่องครัวทาน ทยอยเข้าบริเวณวัดกันหมดแล้ว การแสดงก็เริ่มขึ้น ช่างฟ้อนในชุดชาติพันธ์ ต่างก็ทำการแสดงในรูปแบบของตน ในความรู้สึกของเรา เป็นภาพที่ประทับใจอย่างมาก เพราะเราไม่ค่อยได้เห็นการแสดงแบบนี้บ่อยนัก ปกติจะเป็นช่างฟ้อนสาวสวย แต่พอมาเป็นผู้สูงวัย ที่ฟ้อนรำได้พร้อมเพรียงกัน กลับยิ้มให้กับภาพที่เห็นได้มากกว่า การแสดงของงาน จริง ๆ แล้วจะดำเนินไปเรื่อย ๆ จนค่ำมืด แสง สี เสียง จะอลังการงานสร้างมาก คือไปดูในยูทูปมาอะนะ แต่เสียดายที่เราไม่มีโอกาสได้เห็นภาพนั้น เพราะต้องเดินทางกลับลำปาง ค่ำมืดแล้วจะอันตราย ก็ทริปนี้มีแต่ผู้หญิงล้วน ๆ แถมยังสูงวัยกันซะด้วยสิ!! ดังนั้นเราบอกกับตัวเองว่า วันหนึ่งถ้ามีโอกาส เราจะกลับมา “วัดดอยติ” แห่งนี้อีกครั้งอย่างแน่นอน ฝากเพื่อน ๆ ผ่านไป ผ่านมา หาเวลาแวะเที่ยวชมกันด้วยนะ เค้าบอกต่อ ๆ กันมาว่า ที่นี่ขอพรแม่ตะเคียนด้านหลังวัด ท่านให้สมหวังมาเยอะแล้วด้วย (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ)