ผมว่าหลายคนที่อายุเกือบ 30 ปี หรือมากกว่านี้ คงไม่เคยมีใครลืมเลือนเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งใหญ่ของประเทศไทยที่เกิดขึ้นบนชายฝั่งอันดามัน เมื่อ วันที่ 26 ธันวาคม 2547 เพราะเหตุการณ์ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 5000 คนและ บาดเจ็บ กว่า 8000 คนเลยทีเดียวผมเคยอาศัยอยู่ภาคกลางของประเทศไทยในช่วง เกิดเหตุการณ์สึนามิ ตอนนั้นเรียนอยู่ชั้นประถม และอยู่ในวัยที่รับรู้และจดจำข่าวสารได้ดี จากการนั่งดูทีวีก็สลดและสะเทือนใจเป็นอย่างมาก จนราวประมาณปี 2550 ผมได้ย้ายมาอยู่ที่จังหวัดกระบี่และได้มาเยือนอนุสรณ์สึนามิ เนื่องจากมีญาติอยู่ที่บ้านน้ำเค็ม อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา เป็นช่วงเวลาประมาณ 2-3 ปีหลังเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติครั้งนั้นผมยังจำภาพที่ผมนั่งรถและมาเยือนที่แห่งนี้ได้ดี 2-3 ปีหลังจากผ่านเหตุการณ์ ภาพที่เห็นคือ มีเศษซากปรักหักพังมากมายที่ยังไม่ได้เคลียร์ออก มีเรือประมงหลายลำที่ขึ้นมาอยู่บนฝั่งหลายเมตร ที่ไม่สามารถย้ายออกได้ เลยต้องปล่อยทิ้งไว้ ได้ฟังญาติเล่าว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์มีศพของผู้เสียชีวิตมากมายบนถนน เนื่องจากกระแสน้ำม้วนวน คนที่เสียชีวิต เกิดจากการโดนกระแทกบ้าง สำลักน้ำบ้าง เหตุการณ์วันนั้นเกิดอย่างรวดเร็วและไม่มีวันลืมผมได้กลับมาที่ อนุสรณ์สึนามิบ้านน้ำเค็ม หลังจากผ่านครบรอบ 18 ปีไม่นาน พบว่าหลายอย่างมีลักษณะเปลี่ยนไป เรือหรือเศษซากไม่เหลืออยู่แล้ว แต่สิ่งที่ยังตั้งเด่นอยู่เหมือนเดิมคือ อนุสรณ์หรือกำแพงอุโมงค์ทรงโค้ง เป็นเกลียวคลื่น ที่อีกฝั่งเป็นป้ายชื่อจารึกผู้สูญเสีย ที่ยังมีคนมาไว้อาลัย อยู่เสมอเหตุการณ์สึนามิที่รุนแรงที่สุดในประเทศไทย เกิดที่บ้านน้ำเค็มแห่งนี้ เปรียบเทียบให้เห็นภาพ เหตุการณ์ในประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตไทยและต่างชาติรวมประมาณ 5400 คน เสียชีวิตที่พังงา 4000 คน และที่บ้านน้ำเค็มประมาณ 1400 คน จากที่ผมมองทะเลไกลออกไป วันนี้ผมไม่แปลกใจเลยทำไมเหตุการณ์ถึงรุนแรง เพราะทะเลแห่งนี้สวย นักท่องเที่ยวมากันมากมาย และผมไม่เห็นเกาะ ที่เป็นแนวป้องกันคลื่น ในบริเวณนี้เลยแต่ก่อนนั้นผมไปเที่ยวทะเลฝั่งอันดามัน ผมมักจะกลัวเกิดเหตุการณ์สึนามิอยู่ตลอด ปัจจุบันไม่กลัวแล้ว เนื่องจากเรารู้แล้วว่าสึนามิคืออะไร และมีระบบป้องกันที่ดี ต่างจากเมื่อก่อนที่ หลายคนไม่รู้จัก เมื่อน้ำลดลงไป ผู้คนต่างหยิบกล้องมาถ่าย เหตุการณ์จึงรุนแรง ผมว่าเป็นเรื่องสำคัญมากที่เราควรพาลูกหลานของเรา คนที่เกิดหลังจากเหตุการณ์สึนามิ ให้มาเรียนรู้ที่อนุสรณ์นี้หรือพิพิธภัณฑ์บ้านน้ำเค็ม เพราะเมื่อเวลาผ่านไป 50 ปี 100 ปี คนก็จะลืมเลือน กลายเป็นแค่เรื่องเล่า เมื่อเกิดเหตุการณ์อีกครั้งคงไม่ต่างจากนี้ที่ชายหาดบ้านน้ำเค็มแห่งนี้ มีความสวยงามเป็นอย่างมาก อยากให้ท่านผู้อ่านได้มาเยี่ยม มาพักผ่อน และร่วม รำลึกเหตุการณ์ สึนามิ เพื่อเก็บไว้เป็นสิ่งเตือนใจ ว่าธรรมชาตินั้น คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเรา พิกัด : ตำบลบางม่วง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงาhttps://goo.gl/maps/NMBPaDXwfo3jFLMF8Keyword: #ชายหาด #สวนอนุสรณ์ #อนุสรณ์ # สวนอนุสรณ์สึนามิ #สึนามิ #บ้านน้ำเค็ม #ตะกั่วป่า #พังงา #Tsumani #ครบรอบเหตุการณ์สึนามิ #ภัยพิบัติ #ภัยพิบัติทางธรรมชาติ #เที่ยวพังงาเครดิตภาพภาพหน้าปก โดยผู้เขียน / Canvaภาพประกอบทั้งหมด ผู้เขียนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !