เมื่อคิดถึงทะเลเมืองหาดใหญ่ สงขลา ก็คงหนีไม่พ้น หาดสมิหลา แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองนี้ ซึ่งไม่ได้มีแค่ทะเลสวยเท่านั้น ยังมีเรื่องเล่าที่เป็นตำนานคู่เมืองที่เคยฟังมาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ ทั้งเรื่องเงือกทอง เรื่องเกาะหนูเกาะแมว จนเมื่อมีโอกาสมาเยือนเมืองที่น่าเที่ยวเช่นนี้ ก็ต้องไปเที่ยวชมสถานที่ในตำนานกันสักหน่อยค่ะ เราออกเดินทางโดยเครื่องบินไปลงที่สนามบินนานาชาติหาดใหญ่แล้วเช่ารถขับไปเที่ยวค่ะ ช่วงบ่ายแก่ ๆ เราก็มาถึง หาดสมิหลา ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่มีหาดทรายขาวสวยงามตามธรรมชาติอยู่คู่กับสงขลามายาวนานโดยชาวบ้านจะเรียกติดปากว่า "หาดทรายแก้ว" เพราะมีหาดทรายที่ขาวเนียนละเอียด และน้ำทะเลที่ใสราวกระจกสวยงามตามแบบฉบับทะเลใต้ มีโขดหินน้อยใหญ่สลับต้นสนเรียงตามตามชายหาดสายลมยามบ่ายก็พัดเย็นสบายสูดโอโซนได้เต็มปอดกันเลยทีเดียว มองออกไปกลางทะเลจะเห็นเกาะหนู เกาะแมว เรียงกันในลักษณะคล้ายแมวว่ายน้ำนำหน้าหนูเพื่อเข้าฝั่ง ซึ่งมีตำนานเรื่องหนูกับแมวที่โด่งดังไปทั่วประเทศเล่ากันว่า มีพ่อค้าชาวจีนเข้ามาขายของที่เมืองสงขลาเป็นคนรวยและมีลูกแก้ววิเศษที่ใครเกาะแล้วจะไม่จมน้ำ พอขายของหมดก็ล่องเรือกลับเมืองจีน พอดีไปพบหมากับแมวรู้สึกชอบก็เลยจับทั้งสองตัวขึ้นเรือสำเภาเพื่อเอาไปเลี้ยงที่เมืองจีน หมากับแมวพอขึ้นไปบนเรือก็พบกับหนูบ้านตัวใหญ่ ทั้งสามตัวก็ผูกมิตรกัน แต่พอล่องเรือไปนานๆก็ไม่ถึงเมืองจีนสักทีเริ่มเบื่อ จึงคิดหาแผนการที่จะหนีกลับสงขลา หมารู้ว่าพ่อค้าจีนมีดวงแก้ววิเศษอยู่ในเรือ ก็คิดแผนว่าจะขโมยดวงแก้วโดยให้หนูอมดวงแก้วไว้แล้วโดดน้ำเพื่อว่ายเข้าหาฝั่งด้วยกัน ตอนว่ายน้ำหนูคิดในใจว่าตนของดีอยู่กับตัว ถ้าขึ้นฝั่งได้หมากับแมวต้องแย่งไปแน่ ๆ ก็เลยว่ายน้ำหนีออกไป ส่วนแมวก็คิดได้ว่าของมีค่าอยู่กับหนูต้องว่ายน้ำไปหาหนูเพื่อจะเอาดวงแก้ววิเศษ หนูตกใจมากที่แมวว่ายน้ำตามมา จึงทำดวงแก้วหล่นออกจากปากแตกกลายเป็นหาดทรายแก้ว ทั้งหนูและแมวก็ว่ายน้ำไปไม่ถึงฝั่งหมดแรงตายกลายเป็นเกาะหนูเกาะแมวอย่าที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ ส่วนหมามีความแข็งแรงสามารถว่ายน้ำถึงฝั่ง แต่ความเหนื่อยจึงสิ้นใจตายกลายเป็นหิน เขาตังกวน นั่นเอง ที่หาดสมิหลาจึงมีรูปปั้นหนูและแมวอยู่บนหาดใต้ทิวสนที่มีนักท่องเที่ยวมานั่งพักผ่อนรับลมทะเลยามเย็น หาดทรายแก้วและท้องทะเลสะท้อนประกายระยิบระยับต้องแสงอาทิตย์อัสดงสวยงามสมคำร่ำลือจริงๆค่ะ วันรุ่งขึ้นเราไม่พลาดตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นที่หาดสมิหลาซึ่งมีทรายขาวเนียนละเอียดนุ่มเท้ามากๆเวลาเดิน แสงแรกของวันส่องกระทบกับรูปปั้นเงือกทองสีบอร์นรมดำที่ตั้งสวยสง่าอยู่บนโขดหินริมหาดปลายแหลมสมิหลาดึงดูดความสนใจให้นักท่องเที่ยวไปต่อคิวถ่ายรูปกันเป็นจำนวนมาก เป็นแลนด์มาร์คสำคัญสำหรับผู้มาเยือน รูปปั้นนี้สร้างขึ้นจากนิทานปรัมปราพื้นบ้านที่เล่าว่า วันดีคืนดีจะมีนางเงือกออกมานั่งหวีผมบนชายหาดด้วยหวีทองคำ วันหนึ่งบังเอิญมีชายชาวประมงเดินผ่านมาเจอ ทำให้นางเงือกตกใจ รีบหนีลงทะเลไปโดยลืมหวีทองคำไว้ ฝ่ายชาวประมงเห็นดังนั้นก็เก็บหวีทองคำไว้และเฝ้าคอยนางเงือกที่หาดนั้นเสมอ แต่นางเงือกก็ไม่เคยปรากฏกายให้เห็นอีกเลย ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นที่มาที่จะสร้างรูปปั้นนางเงือกในท่าที่กำลังหวีผม เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของเมืองสงขลามาเป็นเวลากว่า 50 ปี แม้เคยได้รับความเสียหายจากเหตุลอบวางระเบิดก็ได้รับการซ่อมแซมจนสวยงามดังเดิม หาดสมิหลาเป็นชายหาดที่มีความเงียบสงบ เป็นแลนด์มาร์คสำคัญอีกแห่งหนึ่งของสงขลา อยู่ท่ามกลางการรายล้อมของทิวสนที่พลิ้วไหวตามสายลมที่พัดผ่านตลอดเวลา น้ำทะเลใสสะอาด และหาดทรายขาวสวยงามสัมผัสนุ่ม โอบล้อมด้วยเกาะแก่งและภูเขาตามสภาพภูมิประเทศของภาคใต้ มีโขดหินและลานให้นั่งรับลมชมทะเลบริเวณชายหาดแบบสบายๆ มีบริการขี่ม้าชมวิวรอบหาด แถมในทุกๆสถานที่ก็มีเรื่องเล่าให้นึกถึงเป็นสเน่ห์ที่น่าจดจำไม่เหมือนใครอีกด้วยค่ะ ถ้ามีโอกาสได้มาเยือนแลนด์มาร์คแห่งนี้ก็ช่วยกันรักษาความสะอาดเพื่อให้มีชายหาดสวยๆอยู่คู่สงขลาไปนาน ๆ ค่ะพิกัด : สงขลา หาดสมิหลาเวลาให้บริการ : เปิดบริการตลอดเวลาภาพหน้าปกและรูปภาพประกอบทั้งหมดถ่ายภาพและจัดทำโดย Noonee ส่องที่เที่ยว พิกัดลับห้ามพลาด มุมถ่ายรูปสวยที่ทรูไอดีคอมมูนิตี้