หลังจากดูภาพข่าวแล้ว ก็ทดไว้ในใจว่า...ต้องมาชมสักครั้งแหละนะ ครั้งนี้ก็เลยต้องเข้ากรุงเพื่อมาชมกับตาพาชม Golden Boy ประติมากรรมสำริดกะไหล่ทองอายุนับพันปี จากสหรัฐอเมริกากลับคืนสู่ไทยความเดิมจากสื่อสำนักต่างๆ เกี่ยวกับ “Golden Boy” โกลเด้นบอย ถูกบันทึกว่าเป็นประติมากรรมสัมฤทธิ์รูปพระศิวะ (The standing shiva) เป็นประติมากรรมสำริดกะไหล่ทอง ที่ไทยได้รับคืนจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโปลิทัน (The MET) สหรัฐอเมริกา พร้อมกับ ประติมากรรมรูปสตรีพนมมือ (The Kneeling Female) เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 ประติมากรรมนี้สันนิษฐานว่าถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นรูปเคารพเพื่อบูชาในศาสนสถานประจำราชวงศ์ หรือเป็นรูปเคารพของบูรพกษัตริย์ในยุคนั้น อธิบายตามลักษณะคือ ประติมากรรมสำริดเทวรูปในท่ายืนสำริด กะไหล่ทอง ฝังเงิน เป็นประติมากรรมบุรุษเพศชาย (อ่านแล้วก็สงสัยว่ากะไหล่ทองคืออะไร ไปค้นมาสรุปได้ว่า เป็น เศษทองคำ ที่เหลือจากแต่งทองรูปพรรณซึ่งจะมีเปอร์เซ็นต์ทองเหลืออยู่น้อย และปนกับโลหะอื่น เช่น ทองคำ ทองแดง เงิน) ทำความเข้าใจกันเบื้องต้นแล้ว ไปชมของจริงกันค่ะเมื่อมาถึง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร กรุงเทพมหานคร เลี้ยวซ้ายไปซื้อตั๋วก่อน 30 บาท (เงินสดเท่านั้น) ถ้าถือเป้หรือกระเป๋าใบใหญ่ ต้องนำไปฝากก่อนนะคะ จุดฝากอยู่ขวามือข้างจุดจำหน่ายตั๋วค่ะ ควรพกร่มมาด้วยเพราะระหว่างอาคารต้องเดินตากแดด จากนั้นก็เดินตรงไปจากประตูทางเข้า ก่อนถึงตำหนักแดงจะมีจุดตรวจตั๋ว พี่เจ้าหน้าที่บอกว่า อาคารหลังคาสีแดงซ้ายมือ เดินตรงเข้าไปเลย วันที่มาเป็นวันเสาร์ มีนักท่องเที่ยวมาเรื่อยๆ ไม่หนาแน่นมากเหมือนตอนสัปดาห์แรกๆ เพราะนี่ก็ผ่านมาประมาณเกือบเดือน นับจากวันเริ่มจัดแสดง เข้ามาภายใน อาคารมหาสุรสิงหนาท ให้เดินขึ้นบันไดต่อไปที่ชั้น 2 ค่ะ ผู้สูงอายุและหญิงตั้งครรภ์สามารถใช้ลิฟท์ได้ เราก็ชมนิทรรศการถาวรประวัติศาสตร์-โบราณคดีก่อนพุทธศตวรรษที่ 18 ที่ห้อง 401-403 ไปก่อน ได้แก่ ห้องศิลปะเอเชีย ห้องก่อนประวัติศาสตร์ และห้องทวารวดี เพราะเส้นทางบังคับเดินอยู่แล้วก่อนจะไปถึง ไฮไลท์ของการจัดแสดง คือ Golden Boy ที่ห้อง 404 ห้องลพบุรี จะเป็นจุดที่ผู้คนอยู่กันคับคั่งและใช้เวลานานที่สุด เมื่อได้มาเห็นองค์จริงที่จัดแสดงอย่างโดดเด่นอยู่กลางห้อง บอกได้เลยว่ามีความสมบูรณ์แบบ สะท้อนถึงเทคนิควิธีการชั้นสูงในการหล่อโลหะ ความเจริญของยุคสมัย ความงดงามที่ถ่ายทอดมาจากฝีมือช่าง เป็นประติมากรรมทางพระพุทธศาสนาที่ถือได้ว่าอยู่ในช่วงเจริญรุ่งเรืองที่สุด คนที่สนใจเรื่องราวประวัติศาสตร์และศิลปะในยุคนี้ไม่ควรพลาดเลยค่ะ และจากที่สังเกตผู้ที่เข้ามาชมส่วนใหญ่ล้วนมาด้วยความตั้งใจและสนใจกันอยู่มาก ส่วนประติมากรรมรูปสตรีพนมมือ จะจัดแสดงอยู่ด้านขวามือของโกลเด้นบอยก่อนทางออก มีความงดงามไม่แพ้กันความสวยงามของประติมากรรม Golden Boy นั้น ถือว่ามีความสมบูรณ์และงดงามทั้งการปั้น การหล่อ และวัสดุหรือโลหะที่นำมาสร้าง ควรมาชมให้เห็นกับตากันสักครั้งค่ะถัดจากห้องลพบุรี ก็ลงมาที่ชั้นล่าง ชมห้องศิลปะศรีวิชัย สักการะองค์พระคเนศ 4 กร จากเกาะชวา ก่อนเดินทางกลับ หรือถ้ามีเวลาก็ชมนิทรรศการอื่นๆ ที่จัดแสดง ณ อาคารต่างๆ ได้ สำหรับคนที่ไม่เคยมา ถ้าชื่นชอบแล้วสามารถใช้เวลาได้ทั้งวันสำหรับที่นี่ เพราะขนาดทำเวลาอาคารเดียวยังหมดไป 2 ชั่วโมง กรมศิลปากรจัดแสดงประติมากรรมทั้ง 2 ชิ้นนี้ ให้ประชาชนได้เข้าชม มาตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2567 และยังไม่มีกำหนดวันสิ้นสุด คนที่สนใจตามมาชมกันได้ที่ห้องศิลปะลพบุรี (ห้อง 404) ชั้น 2 อาคารมหาสุรสิงหนาท ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และถ้าสนใจโบราณวัตถุเขมรโบราณอื่นๆ และอารยธรรมในยุคนี้ ก็มีการจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพิมาย ถ้ามีโอกาสก็ตามไปชมกันต่อได้ค่ะเวลาเปิด-ปิด : เปิดวันพุธ-วันอาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น./ ปิดวันจันทร์-อังคารและวันหยุดนักขัตฤกษ์ค่าเข้าชม : บัตรปลีกคนไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 200 บาทพิกัด: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร กรุงเทพมหานครภาพถ่ายโดยผู้เขียน#GoldenBoy #ประติมากรรมสำริดกะไหล่ทอง #พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร #โบราณคดี #ประติมากรรม #ประติมากรรมทางพระพุทธศาสนา #สองขาพาเที่ยวเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !