ถึงจะยังไม่หนาวเท่าไหร่แต่ก็เริ่มๆ จะหนาวแล้ว และหลายๆ คนคงกำลังมองหาที่เที่ยวรับหน้าหนาวเพื่อจัดทริปเที่ยว เราจึงอยากมาแชร์แพลนทริปเที่ยวเขาค้อ โดยเป็นการโร้ดทริป ขับรถเที่ยวแบบสนุกๆ แต่ปลอดภัย ละเน้นกิน ชิล เที่ยวแบบเน้นถ่ายรูป จะมีทริคเที่ยวหรือที่เที่ยวอะไรบ้างนั้นมาชมกันเลย ต้องบอกก่อนว่าทริปนี้จะไม่ได้ขับรถยาวๆ จากกรุงเทพ จริงๆ แล้วเริ่มจากสุพรรณบุรีและไปแวะเที่ยวพิจิตรและพิษณุโลกก่อน ดังนั้นก่อนเดินทางก็ได้มีการนำรถไปตรวจสภาพ ตรวจความพร้อม ให้ช่างประเมินว่าสามารถขับรถขึ้นเขาและเดินทางยาวๆ ได้ชัวร์ไหมก่อน และในบทความนี้เราจะตัดช่วงพิจิตรและพิษณุโลกออกเพื่อพามุ่งไปเขาค้อเลย เส้นทางที่ไปในมุมคนนั่งก็รู้สึกว่าถนนดีอยู่นะ จะมีบางช่วงที่มีหลุมบ้างแต่ก็ถือว่าเป็นถนนที่ดีอยู่ แต่เมื่อเข้าเส้นทางเขาค้อ จะมีโค้งเยอะ มีทั้งโค้งตัวยู โค้งคดเคี้ยวไปมาหรือที่บางคนเรียกว่าถนนงูค่อนข้างเยอะ มีทางลาดชันเยอะเป็นปกติของทางไปเขา ใครเมารถง่ายแนะนำพกยาดม ยาแก้อาเจียน หรือลูกอมรสเปรี้ยวไป จะช่วยให้ดีขึ้นได้ และเมื่อถึงเขาค้อพิกัดแรกที่เราไปคือ Takmoh ตั๊กม้อ โรงเตี้ยมสุดขอบฟ้า Takmoh ตั๊กม้อคอฟฟี่ หรือโรงเตี้ยมสุดขอบฟ้า เป็นร้านอาหารและคาเฟ่สไตล์จีนที่บรรยากาศดีมาก สำหรับเรื่องราคาของเครื่องดื่มก็ดูจะราคาสูงกว่าคาเฟ่ทั่วไป แต่ก็เข้าใจได้เพราะเขาไม่ได้ขายแค่รสชาติแต่ขายบรรยากาศด้วยอะนะ กาแฟอร่อยนะ และมีระดับบคั่วเข้ม คั่วกลางให้เลือก อีกหนึ่งเมนูที่เราสั่งคือชาพีชโซดา ไม่แย่แต่ก็ไม่ใช่พีชแบบที่คิดคุ้นชิน ปกติดื่มพีชแบบผงชงเลยไม่คุ้นรสชาติพีชของที่นี่เท่าไร หลังจากพักรถพักคนได้พักใหญ่ ก็ได้เวลาไปเช็กอินที่พักก่อน ซึ่งเราพักที่ Holy loft ที่พักราคาเบาๆ แต่ใกล้ที่เที่ยวดัง แต่สำหรับที่พัก ไม่มีรูปมาใหม่เนื่องจากมัวแต่ถ่ายคลิปจนลืมถ่ายรูป ดูรีวิวที่พัก แบบคลิปคลิกเลย ตกเย็นเราก็ไป Pino Latte พิโน่ลาเต้ อยากได้ฟีลดินเนอร์กับวิวพระอาทิตย์ตกเย็น ที่นี่บรรยากาศดีมากจริงๆ ถ่ายรูปสวยมาก พิโน่ลาเต้นั้นจะเป็นทั้งคาเฟ่ ร้านอาหารและที่พัก โซนต่างๆ ของเขาจะแยกแบบชัดเจน ฝั่งหนึ่งเป็นคาเฟ่ สามารถสั่งเครื่องดื่ม และเบเกอร์รี่ รวมไปถึงพิซซ่า ส่วนอีกฝั่งจะเป็นร้านอาหารที่มีทั้งข้าว สปาเกตตี้ และชาบู แต่ถ้าให้พูดตรงๆ คือราคาแรงอยู่นะ จริงๆ เราตั้งใจจะพาแม่ไปเลี้ยงชาบูกับบรรยากาศเย็นๆ มองแสงสีทอง แต่ราคาชาบูหลักพัน ไม่ใช่พันต้นๆ ด้วยนะเธอ คนที่มักจะเข้าครัวทำปิ้งย่างหรือลวกจิ้มเองตลอดเพราะอยากประหยัดแบบเราคือยกธงขาว และบอกแม่ว่าสั่งเป็นอาหารจานเดียวแทนเนอะ แต่เรื่องบรรยากาศคือดีจริง หลังจากอิ่มแล้วก็ไปต่อที่ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เราอยากไปเช้านะแต่แม่อยากไปถ่ายแสงไฟ ความตามใจแม่เพราะแม่เป็นคนเหนื่อยขับรถก็เลยโอเคไปตอนเย็น บรรยากาศตอนเย็นก็สวยไปอีกแบบ แต่ขากลับมันค่อนข้างมืดนะ แทบจะไม่มีไฟ บางช่วงก็มีแค่ไฟหน้ารถ อย่างไรก็ตามใครจะไปช่วงเย็นก็เน้นเป็นคนขับรถเก่งหรือมั่นใจในการขับรถขึ้นเขาลงดอยก็จะเซฟกว่า ดูคลิป วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ยามเย็น คลิก Day 2 เที่ยวเขาค้อและขับรถกลับ วันนี้เราเช็กเอาน์ที่พักราวๆ หกโมงเช้า แล้วไปที่ จุดชมวิวกังหันลม เป็นที่เที่ยวที่มาที่เดียวแต่ได้พิกัดถ่ายรูปสวยอื่นๆ อีก อากาศเย็นสบายลมพัดแรงมาก แต่น่าเสียดายที่วันที่เราไปนั้นไม่มีพิกัดไหนเลยที่มีหมอก ผู้คนมักคิดว่ามาหน้าหนาวจะต้องเจอหมอกแน่ๆ แต่จริงๆ แล้วหน้าหนาวก็ยังอาจจะเจอหรือไม่เจอหมอก แต่ถ้าจะเอาช่วงเวลาที่โอกาสเจอหมอกสูงมากล่ะก็ต้องเป็นช่วงฝนตก ถ้าเย็นหรือคืนนั้นฝนตก เช้าวันถัดมาจะพบหมอกแน่ๆ ไม่เจอหมอกก็ไม่เป็นไร เราไปฟินกับการถ่ายรูปแบบดอกไม้แทนก็ได้นะ ที่จุดชมวิวกังหันลมนี้จะมีรถบริการรับส่งสำหรับพาเที่ยวชมจุดอื่นๆ และสำหรับสาวๆ ที่อยากถ่ายรูปกับดอกไม้ ซื้อตั๋วขึ้นรถ 60 บาท/ต่อคน/ต่อรอบ ไปยังไร่มอลลี่วิว ซึ่งมีค่าเข้าอยู่ที่คนล่ะ 10 บาท และอีกหนึ่งไร่คือ ไร่เจอชัย ค่าเข้าคนล่ะ 20 บาท เท่านี้คุณก็จะได้ถ่ายรูปกับดอกไม้สวยๆ ได้แล้วค่ะ จากนั้นก็ไปหาคาเฟ่นั่งจิบกาแฟ ซึ่งก็ได้เป็นที่ 180 All day All season คาเฟ่และที่พัก กาแฟดีและราคาเบากว่าที่คาดไว้มาก เดิมทีตั้งใจจะไปต่อกันค่ะ แม้ว่าตอนเช้าจะอากาศเย็นแต่สายๆ ดันแดดร้อน เลยตัดสินใจกลับเลย จากเพชรบูรณ์มาสุพรรณบุรี เร็วสุดจะใช้เวลา 5 ชั่วโมง ขากลับจะขับรถยาวเลยเลยคิดว่ากลับเลยน่าจะดีกว่า จึงเป็นอันจบทริปไว้แค่นี้ สรุปค่าใช้จ่ายในการขับรถเที่ยว: 2 คน/ 2 วัน 1. ค่าน้ำมันประมาณ 1,700 บาท ( ขาไปจากพิษณุโลกเติม 1 ครั้ง และกลับสุพรรณเดิมอีกหนึ่งครั้ง ) 2. ค่าที่พัก 825 บาท 3. ค่ากินรวมแล้ว 2 คน ประมาณ 1,560 บาท แบ่งเป็น แวะเซเว่นระหว่างทาง ประมาณ 300 บาท เฉพาะกาแฟ (ระหว่างทาง) ประมาณ 150 บาท ค่ากินที่ตั๊กม้อ: เครื่องดื่ม 2 แก้ว 210 บาท ค่ากินที่พิโน่ลาเต้: กาแฟ และอาหาร 2 ที่ประมาณ 600 บาท คาเฟ่ 180 สั่งเครื่องดื่ม 2 แก้ว+เบเกอร์รี่ ประมาณ 300 บาท 3. ค่าเข้าชมสถานที่และอื่นๆ ประมาณ 250 บาท รวมค่าใช้จ่าย ประมาณ 4,335 บาท ( เริ่มจากพิษณุโลกไป เขาค้อ และกลับถึงสุพรรณบุรี : 2 คน ) สุดท้ายนี้หากใครชอบบทความนี้ก็สามารถแชร์ออกไปได้เลย และถ้าอยากติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเรานั้นก็สามารถติดตามกันได้ที่ twitter ที่ Artinime หรือ Facebook เพจ แบกกล้องชิลเที่ยวไปเรื่อย ได้เลยค่ะ https://x.com/supamas_kpr/status/1861999257353670940 เรียบเรียงเนื้อหาและถ่ายภาพโดย หญิงเถื่อน อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !