ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา เราต้องพบกับความร้อนจนสามารถใช้คำว่า "เดือดร้อน" ได้เลย ทั้งสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นกว่าทุกๆ ปี บางที่ก็ลำบากเรื่องค่าไฟ บางคนก็เกิดโรคลมแดด (heatstroke) ฯลฯ การได้หาที่พัก คลายร้อนจึงเป็นอีกทางออกของพวกเรา ผู้เขียนเลยหาโอกาสเข้าป่าเพื่อคลายความร้อน ก่อนที่ฝนมาให้คลายร้อน โดยการเดินทางไปที่หมู่บ้านเกาะสะเดิ่ง ตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างทางไป ยังไม่ถึงที่หมายก็ได้สัมผัสริมน้ำโรคี่ข้างทางจึงลงไปทักทายสายน้ำก่อน พร้อมๆ กับได้ทำกิจกรรมร่วมกับชาวบ้านที่กำลังจะทำสะพานไม้ไผ่กันการผ่อนคลายที่ง่ายและประหยัดมากที่สุดสำหรับคนที่อยู่ต่างจังหวัด มีสายน้ำ ลำธารใกล้บ้านจึงถือว่าโชคดีมากที่สุด รู้สึกร้อนเมื่อไหร่ก็สามารถไปดับร้อนได้ง่ายๆ ใกล้บ้าน ดังนั้นการอาบน้ำหรือเล่นน้ำอย่างไรถึงจะได้บุญกลับไปด้วย มีโอกาสไปเล่นน้ำที่ริมน้ำโรคี่ สายน้ำหมู่บ้านเกาะสะเดิ่ง สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ที่มีความร่มรื่นเพราะมีต้นไม้รอบๆ ริมน้ำ ทำให้เกิดความผ่อนคลาย สบายตา สบายใจ และยังมีโอกาสได้ช่วยทำสะพานไม้ไผ่ง่ายๆ แบบวิธีบ้านๆ เพื่อใช้สัญจรข้ามฝั่งไปมา โดยจะขอมาเขียนวิธีการทำสะพานข้ามไม้ไผ่เผื่อสามารถไปปรับใช้กันได้ดังนี้1. นำหินมากองรวมกันให้ได้มากที่สุด เพื่อทำเป็นฐานรองรับลำไม้ไผ่ โดยเฉพาะฝั่งที่ไม่ได้ติดกับผืนดิน2. นำท่อนไม้ที่หาได้ในบริเวณนั้นมาเป็นแกนหรือฐานเป็นแนวสำหรับนำลำไม้ไผ่มาวาง เพื่อง่ายในการรับน้ำหนักรวมกัน3. นำท่อนไม้ที่แข็งแรงนำไปวางฝั่งที่ติดกับดิน (ไม่ต้องใช้หินเป็นฐาน) เป็นฐานไว้สำหรับวางลำไม้ไผ่เช่นกัน 4. นำลำไม้ไผ่ขนาดยาวสัก 5-6 ลำมาพาดระหว่าง 2 ฐานที่มีท่อนไม้วางอยู่ 5. ทำฐานรองรับน้ำหนักตรงกึ่งกลาง โดยใช้ 2 เสาจากลำไม้ไผ่ตัดเป็นรู สอดท่อนไม้รองรับน้ำหนัก และนำหินมากองตรงปลาย 2 เสา เพื่อเพิ่มความแข็งแรง และเจาะรู้เพื่อให้น้ำเข้าเพิ่มน้ำหนักอีกทาง 6. จากนั้นก็นำท่อนไม้เล็กๆ มาขัดเพื่อมัดกับลำไม้ไผ่ที่ใช้เป็นตัวสะพาน แต่ละช่วงเพิ่มความแข็งแรง และความเรียบร้อยถือเป็นภูมิปัญญาง่ายๆ ไม่ได้ใช้ค่าใช้จ่ายอะไรมากมาย มีความแข็งแรง และเป็นธรรมชาติมากๆ อย่างน้อยก็ใช้ในระยะ 1 ปี ใครที่มาเล่นน้ำ หรือสัญจรไปมาก็มีความสะดวกกว่าเดิม ไม่ต้องข้ามน้ำไปมาเหมือนเดิม จึงเป็นการมาเล่นน้ำที่ได้บุญไปในตัว เพราะได้ช่วยทำสะพาน ที่ถือว่าเป็นประโยชน์กับทุกคนอีกด้วย แต่ก็ใช้ว่าทุกๆ ที่ที่เราไปเล่นน้ำจะมีกิจกรรมดีๆ แบบนี้ให้ทำ เราก็สามารถทำความดีอย่างอื่นแทนได้ เช่น ไม่นำอะไรไปทิ้งให้กลายเป็นขยะในบริเวณน้ำ หรือนำขยะที่อยู่บริเวณริมน้ำนำไปทิ้งในที่เหมาะสมต่อไปก็ถือว่าได้บุญเช่นกัน การพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน การรู้จักบุญคุณของธรรมชาติที่เราได้อาศัยจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ไม่ทำร้ายด้วยการทำลายให้เสียธรรมชาติ เสียงบรรยากาศถือว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องทำ เพราะทุกอย่างที่เราทำล้วนมีผลย้อนกลับมาหาเราทั้งสิ้น อย่าคิดเพียงว่าให้พ้นจากมือเราไป เพราะคำว่า "เด็ดดอกไม้ สะเทือนถึงดวงดาว" ในกาลปัจจุบันมีผลที่รวดเร็วขึ้นกว่าเดิมจริงๆ สถานที่ตรงนี้จะเป็นอีกแลนมาร์กทางธรรมชาติของคนในพื้นที่ จะกลายเป็นอีกจุดที่สามารถพักถ่ายรูปได้ เพราะรอบๆ มีต้นไม้ตามริมน้ำ โขดหิน และมองเห็นเส้นทางไหลของน้ำที่คดเคี้ยวในระยะสายตาได้ด้วยเช่นกัน อีกทั้งกำลังจะมีการสร้างสะพานสำหรับรถจักรยานยนต์ผ่านได้และเป็นเส้นทางเดินเท้าที่จะช่วยในช่วงฤดูฝน โดยที่ชาวบ้านไม่ต้องลุยฝ่าสายน้ำเชี่ยวอีกต่อไป สามารถเดินทางได้อย่างไม่มีอุปสรรค จึงอยากมามีส่วนร่วมช่วยให้สะพานนี้สำเร็จด้วยเช่นกัน เล่นน้ำแล้ว อย่าลืมติดบุญกลับบ้านด้วยเสมอๆ เพื่อประโยชน์ของพวกเรา และของโลกด้วยเช่นกันพิกัด : Wat Ko Sadoengทุกภาพประกอบโดยผู้เขียนอยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !