หนึ่งในภารกิจการพิชิตยอดภูเขา ภูกระดึงคือเป้าหมายของนักเดินทางหลายคน (แต่มีหลายคนแอบบอกกับเราว่า ชาตินี้ไม่ไปแน่นอน) คำว่ายากไม่มีอยู่ในความคิด เพราะมันยิ่งกว่ายาก เมื่อย เหนื่อย และท้อ และคำถามที่มักจะได้ยิน เพื่อน ๆ ในกลุ่มพูดคุยเวลาเดินทางจะมีคำถามว่า “มากันทำไมนี่?”เราจึงพยายามค้นหาคำตอบจากหมู่เพื่อนนักเดินทาง ที่ไปครั้งแล้วครั้งเล่า ว่ามาทำไม ก็ทางมันโหดดี เหนื่อยดี แต่สนุกดี ได้รสชาติของชีวิต ครั้งนี้ก็เช่นกัน เราก็ยังมาซ้ำ ซึ่งห่างจากครั้งแรกหลายปี จนคิดว่าจะไม่มาอีกแล้ว เพราะที่นี่มีเสน่ห์ดึงดูด มาภูกระดึงเราต้องนึกถึงใบเมเปิลสิคะ ใบไม้ที่หายากในเมืองไทย แต่เมืองนอกนั้น แค่ข้างถนนก็เจอแล้ว ดังนั้น มันท้าทายพวกเราสายเขา มาแล้วต้องเจอ ฟังข่าวให้ดี ๆ ใบไม้เปลี่ยนสีเมื่อไหร่ มาโลด ขึ้นมาก็เจอเลยแบบนี้ ดีงาม และที่ขาดไม่ได้ สายตามล่าพระอาทิตย์ หลายคนเคยบอกว่า พระอาทิตย์ก็ดวงเดียวกันนั่นแหละ ไม่เห็นจะแตกต่างเลย ดูบ้านเราสวยกว่าอีก ไม่ต้องเดินให้เหนื่อย แต่ความชอบของคนนั้นต่างกัน พระอาทิตย์ดวงเดียว แต่สามารถทำให้ชีวิตเราเจอปัญหาอุปสรรคตั้งหลากหลาย แล้วเราเอาชนะอุปสรรคปัญหานั้นอย่างไรต่างหาก จนเรามาเจอ พระอาทิตย์ดวงเดิมนี่แหละ แต่สวยกว่าตรงคุณค่าระหว่างทาง และสถานที่ที่เราเจอ ร่ายมายาว เพราะ ไฮไลท์ ของการชมพระอาทิตย์ขึ้น ที่ภูกระดึง ต้องที่นี่เลย “ผานกแอ่น” จากความเมื่อยล้าเดินขึ้นมา เช้าตีห้าต้องตื่น เพื่อนจึงยอมแพ้ไปหลายคน เหลือเราสามคนเพื่อนตาย เดินตามกันไปกับเจ้าหน้าที่นำทาง เตรียมไฟฉายไปนะ ขาไปมืดจ้า แต่ขากลับตะวันจ้าแล้ว กอดคอเดินตามกันมาวันนี้คนเยอะหน่อย หามุมส่วนตัวกันเลย นั่งกันเงียบกริบอย่างใจจดใจจ่อ มีลุ้นตลอดว่าจะมาเป็นไข่แดง หรือแค่แสงรำไร ขาตั้งกล้อง และกล้องโปรรุ่นต่าง ๆ หมายมั่นต้องได้ภาพสวย และแล้วตะวันก็มาให้เห็นสมใจ ถึงจะไม่สวยเท่าใคร แต่มันสวยกินใจพวกเราละ คุ้มเหนื่อย คุ้มหนาว การเฝ้ารอเงียบ ๆ เมื่อฟ้าสว่าง อ้าว คนเยอะนี่นา ต่างถ่ายรูปเก็บภาพซึ่งมันไม่สามารถหาดูได้ง่าย ๆ แบบนี้ เสร็จภารกิจก็มี กาแฟ โอวัลติน ซื้อหารองท้องกันได้เลยนะ จะได้มีแรงขากลับกัน ผานกแอ่น อยู่ห่างจากลานกางเต็นท์วังกวาง 2 กิโลนิด ๆ ไปกลับก็ 4 กิโลเมตร เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดของอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย ไปทั้งทีต้องไปให้ถึงนะ แล้วจะมาเล่าจุดชมวิวต่อ ๆ ไปอีกนะคะ