เรียกว่าไปเที่ยวแบบ 100% ก็คงไม่ได้ เพราะทริปนี้ไปทำงานด้วย เลยถือโอกาสได้เที่ยว เก็บภาพพิกัดแหล่งท่องเที่ยว และอาหารของ เมือง Ho Chi Minh City ประเทศเวียดนามมาฝากกันค่ะเราเดินทางไปช่วงปลายปี 2565 เป็นช่วงที่เวียดนามเปิดประเทศแล้ว จึงไม่ต้องกักตัว จากประเทศไทย เดินทางโดยเครื่องบินใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง ถึงสนามบินโฮจิมินห์ [ท่าอากาศยานนานาชาติเตินเซินเญิ้ต] ผ่าน ตม. ตามปกติ เราจะเดินทางไปยังที่พักของเรากันก่อน ที่นี่มีรถโดยสารสาธารณะหลายรูปแบบ เช่น Uber, GrabCar, รถเมล์ พนักงานขับรถจะมารอเรียกนักท่องเที่ยวอยู่หน้าทางออกสนามบินเลย*ขอเตือนนะคะว่าในการเดินทางโดยแท็กซี่ ควรแจ้งคนขับให้กดมิเตอร์เพื่อคิดราคาตามระยะทางจริง เนื่องจากเงินเวียดนามเป็นแบงค์สีคล้ายๆกัน เราจะ งง มาก เราต้องเป็นคนนับเงินจ่ายเอง ห้ามให้คนขับนำเงินเราไปนับเด็ดขาด ให้เตรียมแลกแบงค์ย่อยไว้ใช้ เพราะบางครั้งแท็กซี่จะอ้างว่าไม่มีเงินทอน (เนื่องจากทริปนี้เรามีประสบการณ์โดนแท็กซี่โกงค่ะ)ที่พักของเรา คือ โรงแรมเรอแนสซองซ์ ริเวอร์ไซด์ ไซ่ง่อน (Renaissance Riverside Hotel Saigon) บริการดีมาก วิวสวยติดแม่น้ำ ใจกลางแหล่งท่องเที่ยว มีฟิตเนส สระว่ายน้ำ นวดฯที่แรกที่เราไปก็คือ The Cafe Apartment เป็นเหมือนแลนด์มาร์คของที่นี่เลย มีทั้งหมด 9 ชั้น แต่ละชั้นก็จะมีทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหารแต่ละชั้นตกแต่งต่างกันไป คูลๆ แนววินเทจหน่อย ดื่มด่ำบรรยากาศได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว แต่ละชั้นมีอาหารแตกต่างสัญชาติกันไป เผื่อใครไม่ทานอาหารเวียดนามสั่งเป็นอาหารฟิวชั่นก็ได้ (แต่อาหารไทยหาทานค่อนข้างยากค่ะ)โบสถ์นอร์ธเธอดาม (Notre Dame Cathedral)เป็นโบสถ์คาทอลิกเก่าแก่ ด้านหน้าวิหารมีรูปปั้นพระแม่มารีสีขาว สูงและสวยมาก โดดเด่นที่โบสถ์เป็นสีชมพู ตั้งเด่นใจกลางเมือง เพื่อนชาวเวียดนามแนะนำว่าที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องมาชมความงามให้ได้ ศาลาว่าการเมืองโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City Hall)เป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญของเมืองโฮจิมินห์ แต่เขายังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมด้านในนะคะ เพราะเป็นที่ทำการของรัฐบาล แต่สามารถถ่ายรูปด้านหน้าอาคารได้ มี "อนุสาวรีย์ลุงโฮ" ตั้งตระหง่านเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่น คนมาถ่ายรูปกันตรงนี้เยอะมาก ด้านหน้าเป็นลานกิจกรรมกว้างมาก ตกเย็นจะมีวัยรุ่นมาชวนกันทำกิจกรรม ร้อง เล่น เต้น กีฬา มีคนสูงอายุมาเดินออกกำลังกาย พ่อแม่ที่พาลูกๆมาเดินเล่น เต็มลานเลยค่ะ ตอนกลางคืน บริเวณนี้จะประดับไฟสวยงาม ใครไปก็ย่าลืมถ่ายรูปคู่กับลุงโฮกันนะคะห้างสรรพสินค้าที่นี่เขาก็มีนะคะ ตั้งอยู่ในห้าง Vincom Center เรียกว่าเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่ทันสมัยใจกลางนครโฮจิมินห์ มีของใช้ เสื้อผ้าแบรนด์ชั้นนำ มีร้านคล้าย watson บ้านเรา แถมยังมีร้านอาหารไทยด้วย จริงๆมีอีกที่หนึ่งที่เราแนะนำว่าใครไปต้องห้ามพลาด ก็คือ โรงละครโอเปร่า Saigon Opera House (Ho Chi Minh Municipal Theater) เป็นโรงละครขนาดใหญ่ของนครโฮจิมินห์ วันที่เราไปเหมือนเขาปิดปรับปรุงอะไรสักอย่าง เสียดายมากค่ะ มาดูส่วนของอาหารกันบ้าง พิซซ่าสไตล์เวียดนาม: เป็นอาหารแนวสตรีตฟู้ด เห็นได้ทั่วเมือง เป็นรถเข็นคันเล็กๆจอดขายข้างทาง ตัวพิซซ่าจะใช้แผ่นใบเมี่ยงญวนมาปิ้งบนเตาไฟ ใส่ไข ใส่หอมเจียว กุ้งแห้ง ข้าวโพด หมูสับ ละก็ไข่นกกะทา คลุกให้เข้ากัน แล้วปิ้งจนแป้งสุกเปลี่ยนสี เราซื้อที่ลานกิจกรรมหน้าศาลาว่าการเมืองโฮจิมินห์ ต้องกินตอนร้อนๆนะคะ แป้งจะกรอบ ถ้าทิ้งไว้นานเหมือนแป้งมันจะแข็ง เมนูนี้เป็นสิ่งที่เราชอบที่สุดของทริปนี้เลยค่ะเพราะรสชาติคล้ายอาหารบ้านเราเฝอเวียดนาม (Phở Tai) : เฝอ เป็นร้านที่เห็นได้ทั่วเวียดนามเลยเลยค่ะ เป็นอาหารประจำชาติ เฝอเนื้อวัวดั้งเดิมเป็นสิ่งที่คนเวียดนามแนะนำว่าต้องลองทานให้ได้ เส้นจะเหมือนขนมจีน แต่จะนุ่มๆเหนียวๆกว่า น้ำซุปแบบใสๆ ชามใหญ่และให้เนื้อเยอะมาก จะโรยต้นหอม ปรุงรสด้วยมะนาว ซอยฮอยซิน ซอสพริก หรือกะปิ แกล้มกับผักดิบอย่างเช่น โหระพา ถั่วงอก แต่ความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ค่อยถูกปากเราเท่าไหร่ค่ะ อาจเป็นเพราะเราชอบทานอาหารรสจัด แซ่บๆ ด้วยแหละ เฝอเนื้อค่อนข้างเหนียว กับซุปที่มีกลิ่นเนื้อแรงไปหน่อย รสชาติจืด เครื่องปรุงเขาไม่ได้มีเหมือนก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา ทั้งนี้ทั้งนั้น สูตรแต่ละร้านอาจพิเศษแตกต่างกันไป และอาจจะถูกปากเพื่อนๆนะคะ ใครไปเวียดนามก็ลองทานดูค่ะเมนูนี้เราไม่แน่ใจว่ามันคือก๋วยเตี๋ยวหรือว่าเฝอ แต่เพื่อนเวียดนามที่พาไปบอกว่าคือเฝอ เราได้ทานคืนก่อนจะกลับไทย เป็นเฝอที่สีสันจัดจ้าน รสชาติคล้ายก๋วยเตี๋ยวหมูมะนาวต้มยำบ้านเรา อันนี้คือดีมาก เราชอบ แหนมเนือง (Nem Nuong) : อันนี้ถ้าใครเคยกินแหนมเนืองที่ไทย รสชาติคล้ายๆกันเลย มีความเป็นต้นตำรับ เป็นอาหารเวียดนามที่คุ้นปากคนไทยที่สุด จิ้มกับน้ำจิ้มรสหวาน เปรี้ยว สามารถใส่พริกโขลกเพิ่มความเผ็ดได้ก่อนจะค่ำเรานั่งเล่นที่ลานกิจกรรม และเดินเล่นเลาะแม่น้ำแถวนั้น ตอนกลางคืนที่เวียดนามเป็นอะไรที่สวยมาก สวยมากจริงๆ มีแสงไฟ ป้ายไฟจากร้านค้า ไฟประดับตกแต่งเยอะแยะไปหมด ตึกสูงตระหง่านเต็มเมือง รถที่วิ่งบนถนนดูชุลมุนไปหมด เสียงแตรบีบอย่างต่อเนื่อง ไปแรกๆจะไม่คุ้นกับเสียงแตร จะรำคาญหน่อยๆ เดี๋ยวก็ชินค่ะ ตอนเย็นบรรยากาศดีมาก ใครมีโอกาสได้มา ก็อย่าลืมเก็บรูปสวยๆมาอวดกันบ้างนะคะ เรื่องต้องรู้ สำหรับใครที่จะมาเวียดนาม จากประสบการณ์ของผู้เขียน : ห้ามสะพายเป้ไว้ด้านหลัง เพราะคนที่นี่เยอะมาก เสี่ยงต่อการโดนลักขโมยหากไม่ใช้มือถือ ให้เก็บใส่กระเป๋าเท่านั้น หรือสะพายเป้ไว้ด้านหน้าเหมือนเราค่ะอย่านำเงินออกมานับทีละเยอะๆ ป้องกันมิจฉาชีพวิ่งราวร้านค้า/ร้านอาหาร ที่ไม่มีป้ายราคาแจ้งชัดเจน โปรดเลี่ยงทันที เพราะบางครั้งอาจจะมาบอกราคาทีหลัง แล้วชาร์ตเราสูงมาก อย่าใส่เครื่องประดับ สร้างคอ ข้อมือ ของมีค่าต่างๆ เมื่อออกไปที่สาธารณะเราแนะนำให้เดินทางโดย Grab เพราะจะมีค่าเดินทางระบุไว้ในแอปชัดเจน ไม่โดนโกงแน่นอน หากมีคนมาเสนอถ่ายรูปให้เราแบบมัดมือชก ให้ปฏิเสธทันที เพราะเขาจะคิดเงินเราทีหลัง หากเป็นไปได้ให้ลองพูดภาษาเวียดนามเวลาซื้อของ เพราะถ้าคนขายเห็นว่าเป็นคนต่างชาติ จะชาร์ตราคาเราสูงมาก 2 - 3 เท่า (อย่างเราคือ ถ้าอยากซื้อของฝากหรืออะไรก็ตาม ให้เพื่อนสาวเวียดนามเป็นคนสั่งของ ส่วนเราจ่ายเงินค่ะ) เครดิตภาพปก :ออกแบบภาพปก และ ภาพประกอบภาพปกทั้งหมด โดย จอปอเบียร์ [แก้ไขผ่าน] CANVAเครดิตภาพประกอบบทความ :ภาพประกอบบทความทั้งหมด โดย จอปอเบียร์เรียบเรียงโดยโดย จอปอเบียร์อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !