วันที่สองของการเดินทาง บ่อน้ำร้อน หลังจากที่เราออกมาจากถ้ำตะโคะบิ๊ มาได้แล้ว เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น คือ พี่หัวหน้าทีมที่พามาเที่ยวนั้น ได้มีความคิดที่อยากจะให้พวกเราร่วมเดินทางไปบ่อน้ำร้อน กันต่อ ซึ่งเดินทางด้วยการเดินด้วยเท้า เป็น ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร (ใครยังไม่ได้อ่าน ถ้ำตะโคะบิ๊ กดอ่านได้ที่นี่เลยครับ) ในตอนแรก ผมคิดว่าพี่เขาจะล้อเล่น เพราะลำพังแค่ออกมาจากถ้ำแล้วนั้น ก็เหนื่อยมาก และต้องเดินไปที่บ่อน้ำพุร้อนอีกประมาณ 5 กิโลเมตร แล้ว นึกภาพไม่ออกเลย 555 แต่สักครั้งในชีวิตแล้ว ผมไม่ยอมแพ้ จึงไปต่อ พอออกมาจากถ้ำตะโคะบิ๊แล้ว เราก็ได้นั่งพักกันก่อน จากนั้นจึงเริ่มภารกิจการเดินทางไป บ่อน้ำร้อน จุดสกัด(ชั่วคราว) อุ้มผาง โดยการนำทางของพี่เจ้าหน้าที่คนเดิมของเราจาก วนอุทยานถ้ำตะโคะบิ๊ นั่นเอง และการเดินด้วยเท้านั้นต้องบอกก่อนครับว่า ต้องเหนื่อยแน่นอน เพราะทางที่เดินนั้นมักจะเป็นภูเขา ที่ชาวบ้านทำทางเป็นถนนลูกรังเอาไว้สัญจรเวลาไปทำไร่นั่นเอง แน่นอนครับว่าด้วยความที่เป็น ถนนลูกรัง แล้วนั้น ฝุ่นจะต้องเยอะมากแน่นอนถ้าใครมา แนะนำให้เอาผิดปิดจมูกมาด้วยครับ หลังจากเดินมาได้สักพัก ด้วยความที่ผมไม่ได้เตรียมตัวที่จะมาเดินตั้งแต่แรก ผมจึงไม่ได้วางแผนเอาอุปกรณ์เดินป่ามา ผมจึงเหนื่อยง่ายมาก ๆ เพราะหลังจากเดินตามทางภูเขามาแล้ว ก็จะเจอป่าอีก ซึ่งเราหยุดพักประมาณ 5 นาที จากนั้นจึงเดินทางต่อ ตรงจุดนี้จะเหนื่อยมากครับ ต่อจากนี้เดินทางไม่นานก็ถึงริมลำธารน้ำ ที่หลาย ๆ คนใช้ เป็นเส้นทางเพื่อล่องแก่ง ไปยังน้ำตกทีลอซู ผมจึงตื่นเต้นมาก ๆ เพราะจะต้องข้ามฝั่งไปอีกฝั่ง โดยใช้แพไม้ไผ่ของชาวบ้านที่นี่ ลุ้นมาก ๆ กลัวจะตกน้ำ 555 พอมาถึงอีกฝั่งแล้วผมจึงตรงไปที่บ่อน้ำร้อนก่อนเพื่อพักผ่อนเท้าของผมที่เดินมาจนระบม จุดนี้ผมรู้สึกสบายและผ่อนคลายมาก และด้วยความที่เราเข้าถ้ำมาตั้งแต่เช้าจึงยังไม่ได้ทานข้าวกลางวัน เพระตั้งใจจะมาทานกันที่นี่ ผมจึงนั่งแช่เท้าได้ไม่นานนัก จึงลุกขึ้นจากบ่อ แล้วไปเตรียมทานอาหารกลางวันกัน ที่นี่ชาวบ้านได้มีซุ้มขายของ เช่น อาหารสำเร็จรูปและอีกมากมาย โดยสิ่งที่ผมชอบมากที่สุด คือ น้ำผึ้งผสมมะนาว ซึ่งผมพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่ายังไม่เคยดื่มที่ไหนแล้วอร่อยเท่าที่นี่มาก่อน แนะนำให้ลองดื่มกันครับ ไม่ผิดหวังแน่นอน และพอทานอาหารกันเสร็จแล้ว จึงเดินสำรวจกันสักหน่อย ทันใดนั้นเองก็มีเรือยางล่องแก่งมาให้ผมเห็น ซึ่งน่าสนใจมาก ถ้ามีโอกาสก็อยากจะล่องแก่งไปน้ำตกทีลอซูกันดูบ้าง ไม่นานนักเราก็ต้องลาชาวบ้านที่นี่ เพราะต้องกลับไปที่ถ้ำแล้วไปพักกันที่ เรือนธรรมชาติ รีสอร์ท กัน แต่การเดินทางกลับไปนั้น เหนื่อยมากกว่าตอนมาอีกครับ เพราะเราอิ่มจากกันทานอาหารมาแล้วจึงทำให้จุกท้องผมจึงต้องนั่งพักหลายจุดมาก แต่ก็ไม่ยอมแพ้ จนเดินไปถึงจุดนัดพบ ที่เราได้เรียกรถของเจ้าหน้าที่ให้มารับเรา (ตอนนั้นเจ้าหน้าที่มาทำธุระพอดีจึงได้มีโอกาสนั่งรถของเจ้าหน้าที่ ปกติไม่มีนะครับ) พอเราถึงที่ถ้ำกันแล้วจึงเก็บอุปกรณ์ เตรียมไปพักที่ เรือนธรรมชาติ รีสอร์ท กัน ซึ่งคืนนี้เราจะไปกางเต็นท์กันที่นั้น แต่จริง ๆ แล้วที่นี่มีที่พักให้บริการนะครับ แต่ผม สายเต็นท์ ครับ จึงมาพักกันที่นี่ เดี๋ยวเราจะมาพูดถึงเรือนธรรมชาติ ในครั้งหน้ากันครับ ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่านและอย่าลืมไปพักผ่อนร่างกายกันบ้างนะครับ... สำหรับ VDO จะมาเร็ว ๆ นี้ สามารถรับชมได้ที่นี่ Nut The Journey ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าอาหาร - น้ำ 200 บาท ค่ารถไป เรือนธรรมชาติ รีสอร์ท (เหมา 500 บาท หาร 5 คน) ตกคนละ 100 บาท เส้นทางการเดินทาง วนอุทยานถ้ำตะโคะบิ๊ -- บ่อน้ำร้อน จุดสกัดชั่วคราว บ่อน้ำร้อน จุดสกัดชั่วคราว -- วนอุทยานถ้ำตะโคะบิ๊ วนอุทยานถ้ำตะโคะบิ๊ -- เรือนธรรมชาติ รีสอร์ท ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fanpage : Nut The Journey YouTube channel : Nut The Journey ภาพทั้งหมดโดย : โดยผู้เขียน เรื่องโดย : โดยผู้เขียน (Nut The Journey)