ทะเลหน้าร้อนปีนี้ ตั้งใจจะพักผ่อนกึ่ง ๆ ถ่ายรูปเล่นในเกาะไหนสักแห่งแถวทะเลชายฝั่งภาคตะวันออก ความโลภมากก็อยากเที่ยวทั้งที่แบบมีวัด มีวัง มีหาด เดินทางง่าย ไม่ต้องข้ามน้ำข้ามทะเลนาน ๆ เกาะสีชังจึงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ตั้งใจว่าสักวันจะต้องไปให้ได้ ยิ่งอ่านรีวิวดูรูปประกอบแล้วรู้สึกว่า ไม่ไปคงไม่ได้ซะแล้ว เราเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็ไม่อะไรมาก ไปถึงแถวท่าเรือเกาะลอย อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ก็เอารถไปจอดไว้แถว ๆ โรงเจ เสร็จแล้วก็ลากกระเป๋าไปซื้อตั๋วที่ท่าเรือ ค่าตั๋ว 50 บาท โชคดีไม่ต้องรอซื้อแล้วก็ลงไปรอในเรือได้เลย ในเรือมีชูชีพสีส้ม ๆ ให้บริการด้วย เราไปเอาชูชีพมาแล้วมานั่งชมวิวข้างหน้าต่าง สักพักคนก็เริ่มทะยอยลงเรือ พอถึงเวลาเรือก็ออกจากท่า จากท่าเรือไปเกาะใช้เวลาประมาณ 45 นาที นั่งโงกหลับไปสักครู่ใหญ่ๆ ก็ถึงท่าเรือ แถวๆ ท่าเรือมีบริการรถสกายแลบ และมอเตอร์ไซต์ให้เช่า เราทำการบ้านเรื่องที่เที่ยวพอสมควรก็เลยไม่มีปัญหาเรื่องนี้ โทรหารีสอร์ทที่เราจะไปพักคืนนี้พร้อมแจ้งความประสงค์ว่าเราต้องการเช่ามอเตอร์ไซด์ ทางที่พักก็บอกจุดนัดหมาย สักครู่ก็มีคนมารับพร้อมกับมอบกุญแจรถมอเตอร์ไซด์ให้เราขับตามไป สำหรับค่าเช่ามอเตอร์ไซด์ 300 บาท รวมน้ำมัน เรามาถึงเกาะสีชังราว ๆ เที่ยง อากาศระอุได้ใจมาก ๆ พอหลังจากเช็คอินอะไรเรียบร้อยก็ออกไปหาของกินง่าย ๆ แล้วกลับมานอนตากแอร์ในห้องจนประมาณบ่ายสาม ก็ค่อยขับรถออกไปเลียบรอบ ๆ เกาะป้ายแรกก็คือขับไปทางทิศเหนือของเกาะก่อน จุดที่ไปถึงคือ มณฑปรอยพระพุทธบาท ทางขึ้นค่อนข้างชันแต่ก็โอเคนะคะ ขับมอเตอร์ไซด์ขึ้นไปสบาย ๆ ตอนแรกว่าจะแวะไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่ก่อนแต่ดูคนเยอะและวุ่นวาย ก็เลยเปลี่ยนแผนขับเลยขึ้นไปมณฑป ไหว้พระและชมวิว ด้านบนคนไม่ค่อยเยอะ ประมาณว่าไหว้พระได้สงบ ๆ สบาย ๆ ไหว้พระเสร็จเราก็ขับลงมา เลียบถนนไปเรื่อย ๆ จนขับเข้าไปเขตพิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐาน เพื่อไปถ่ายรูปสะพานอัษฎางค์ อันเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเกาะ เห็นมิวสิควิดีโอและละครหลายเรื่องมาถ่ายทำที่นี่ ก็หมายใจไว้นานแล้วว่าจะต้องมาจุดนี้ให้ได้ อยากชมว่าของจริงจะสวยงามแค่ไหน ปรากฎว่าเมื่อมาถึงสะพานอัษฏางค์มีน้อง ๆ กลุ่มใหญ่กำลังถ่ายรูปกันสนุก จนคนกลุ่มน้อยอย่างเรารู้สึกเกรงใจหากจะเดินขอเข้าไปถ่ายรูปบ้าง นั่งรออย่างเกรงใจอยู่นานก็ดูเหมือนว่าน้อง ๆ เค้าจะยังถ่ายไม่เสร็จ สุดท้ายมนุษย์ป้ารอไม่ไหวก็เลยต้องขอทางเดินไปถ่ายรูปกลางสะพานให้มันจบ ๆ ไปซะ จากนั้นก็เดินสำรวจพื้นที่รอบ ๆ อ้อ ที่นี่เขาไม่ให้เอารถเข้ามาขับเด้อ ต้องจอดรถมอเตอร์ไซด์ฝากไว้ที่ รปภ. แล้วก็เดินเข้ามาเอา เสียดายว่าถ้าที่นี่อากาศเย็นสักหน่อย คงจะโรแมนติกไม่น้อย พออากาศร้อนแล้วเลยบิ้วอารมณ์ไม่ขึ้นจริงๆ ชมพื้นที่รอบ ๆ และถ่ายรูปพิพิธภัณฑ์จนเป็นที่พอใจแล้ว ก็ขับรถไปด้านฝั่งทิศตะวันตกเพื่อชมพระอาทิตย์ตกดินที่หาดถ้ำเขาพัง ขับไปขับมาก็จะงง ๆ หน่อย ๆ พอขับรถมาถึงหาดถ้ำเขาพังก็เลยเข้าใจแล้วว่าคนอื่น ๆ เขาไปไหนกันหมด ปรากฎว่าเขามารวมกันอยู่ที่นี่เพื่อนเล่นน้ำนี่เอง เรามาถ่ายรูปเก็บบรรยากาศสบายใจแล้วก็ขับรถไปกินลมแถวช่องเขาขาดกะเก็บแสงเย็นด้วย เหมือนเราจะไปไม่ถูกที่ หรือสับสนกับสถานที่ก็ไม่รู้ แต่ดูบรรยากาศแล้ว เหมือนจะเป็นสถานที่คนมานั่งเกินเบียร์ตกปลา ก็เลยเผ่นกลับไปที่หาดถ้ำพังดีกว่า เล่นน้ำสบายใจแล้วก็เลยกลับมาที่พัก อาบน้ำแล้วออกมาเดินเล่นหาของกินบริเวณหน้ารีสอร์ท ที่มีร้านรวงเปิดเป็นระยะ ๆ เราเลือกกินอาหารง่ายๆ เพราะไม่อยากเสียเวลากับมื้อเย็นจนเกินไป เสร็จแล้วก็ไปศาลเข้าพ่อเขาใหญ่ที่เห็นว่าช่วงกลางวันคนเยอะ พอไปถึงที่ศาลปรากฎว่าไม่เจอใครเลย ส่วนของรถกระเช้าที่มีบริการช่วงเย็นก็ปิด ก็เลยเดินจงกรมขึ้นไปเรื่อย ๆ ยิ่งสูง ยิ่งเหนื่อย ความดันขึ้น วัยทองกำลังจะมา แต่วิวก็สวยขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนกัน เมื่อไปถึงยอดเขา อากาศดีผิดกับตอนกลางวันมาก ๆ ทั้งลมเย็นพัดโชยมาเป็นระยะ ๆ บวกกับอากาศกลางคืนที่ค่อนข้างเย็นสบาย ทีแรกคิดว่าภายในศาลจะปิดหมดแล้ว แต่ปรากฎว่ายังเปิดอยู่ ก็เลยได้เข้าไปไหว้แต่ละจุดแบบไม่มีคนรบกวนเลย รู้สึกว่าศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ที่นี่ ศักดิ์สิทธิ์และสงบมาก ๆ ในยามค่ำคืน จนรู้สึกว่าอยากนอนที่ศาลเจ้าซะด้วยซ้ำ ไหว้พระ และเทวดา ขอพรเรียบร้อยก็ออกมาชมวิวในตอนกลางคืน ชมจนสบายใจแล้วก็กลับลงมาเข้าที่พัก เช้าอากาศไม่ร้อนมากหลังจากกินอาหารเช้าของโรงแรมแล้ว เราก็เดินจากที่พักไปพิพิธภัณฑ์เพื่อเก็บรูปอีกรอบ แล้วก็มาเก็บของเตรียมเดินทางกลับ ความเห็นส่วนตัวสำหรับการไปเกาะสีชังจะพบว่า คนที่อยากเล่นน้ำ หวังจะเห็นหาดทรายสีขาวสวยงามกว้าง ๆ จะผิดหวังสักหน่อยนะคะ หาดที่สีชังไม่ได้ใหญ่มาก หาดที่อยู่ในเขตพิพิธภัณฑ์ก็ไม่ใช่หาดทรายที่น่าเล่นน้ำแต่ประการใด อารมณ์เดินชมทะเลสวย ๆ พอได้ พื้นที่รอบ ๆ เกาะไม่ค่อยสะอาด ยิ่งตรงหน้าผาแถวช่องเขาขาดที่มีคนไปตกปลากัน มีขยะที่เราเหล่านักท่องเที่ยวได้ช่วยกันเอาไปทิ้งไว้เป็นภาระให้กับคนที่สีชัง สีชังมีหมาจรเยอะมาก (รึตอนนี้ไม่มีแล้วก็ไม่รู้) สีชังร้อน ร้อน และร้อน พักที่ไหนควรเลือกที่มีห้องแอร์จะดีที่สุด ที่พักที่สีชังราคาหลักพันต้น ๆ จะแค่พอพักได้ ถ้าอยากได้ที่พักที่สวยหน่อยดีหน่อย ราคาต้องเกิน 1,500 ขึ้นไปหล่ะค่ะ ที่พักบางที่ดูในรูปแล้วสวย ไปเจอของจริงแล้วจะพบว่ามันช่างห่างไกลผู้คน เสมือนถูกปล่อยเกาะ แต่ถ้าคนชอบความเป็นส่วนตัวมาก ๆ ก็อาจจะชอบก็ได้ ข้อบกพร่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ทั้งหมดของสีชังก็ยังไม่ได้ทำลายเสน่ห์ของเกาะ ที่มีความสงบ มีความโรแมนติกในตัวเอง เหมือนเมืองท่องเที่ยวที่ก็ยังมีความเป็นเมืองสโลว์ไลฟ์ที่ควรค่าแก่การไปเที่ยวสักครั้ง เรื่องและภาพ โดยผู้เขียน