เที่ยวไกลบ้านมาหลายที่แล้ว ครั้งนี้ขอเสนอสถานที่เที่ยวบ้านตัวเองบ้างนะ...พนัสนิคม หนึ่งอำเภอในจังหวัดชลบุรี ที่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ทั้งแบบธรรมชาติ วัดวาอาราม รวมถึงโบราณสถานและแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์อีกหลายที่ หากถามเราว่า พนัสนิคม มีที่เที่ยวที่น่าสนใจตรงไหนบ้าง เราก็ตอบได้อย่างเต็มปากว่า ตัวเราเองยังไปไม่ทั่วพนัสเลย ไปเที่ยวไกลบ้านมาหลายที่แต่พอคนถามถึงท้องถิ่นตัวเองกลับเล่าให้ฟังไม่ถูก...เศร้าใจมาก เราจึงตั้งเป็นโปรเจกต์ในการท่องเที่ยวและนำเสนอเรื่องราว สถานที่น่าสนใจในอำเภอพนัสนิคม ชื่อว่า “พนัสเมืองพระรถ” ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 1 ขอนำเสนอสถานที่แรก “วัดอุทกเขปสีมาราม หรือ วัดน้ำ” เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นศิลปะแบบไทย บริเวณที่ติดกับอุโบสถมีชายน้ำเล็ก ๆ ซึ่งสมัยก่อนมีประเพณีตักบาตรโยนบัวกันด้วย บริเวณวัดสงบ ร่มรื่นเพราะมีต้นไม้เยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นต้นที่เราไม่ค่อยรู้จัก หรือไม่เคยได้ยินชื่อ ที่สังเกตเห็นได้ชัด คือ ในบริเวณที่มีการก่อสร้างจะมีการเว้นบริเวณต้นไม้ไว้โดยไม่ทำการตัดทิ้ง ทำให้วัดแห่งนี้ร่มรื่นและลมพัดเย็นสบายตลอดเวลา เหมาะแก่การมาปฏิบัติธรรมนอกจากนี้ยังมี “เรือนประทับ” สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสด็จมาบำเพ็ญพระราชกุศลบ่อยครั้ง และล่าสุดที่เห็นกันในหน้าเพจเฟซบุ๊คก็คือ ร้านกาแฟเรือนการเวก ที่ดัดแปลงมาจากเรือนไทยที่ตั้งอยู่หน้าเมรุ โดยแนวคิดคือ ทำให้ผู้คนได้ปลง ทุกคนเกิดมาล้วนต้องตาย ไม่พ้นต้องมาที่เมรุเผาศพกันทุกคนแถมมีสโลแกนเก๋ ๆ “ จิบกาแฟ...แลเมรุ” สามารถสั่งชา กาแฟได้เลย มีพนักงานจัดการชงให้สด ๆ เราสั่งชาเขียว สำหรับราคานั้นไม่มีกำหนดไว้ เป็นแนวคิดของท่านเจ้าอาวาสที่มิได้กำหนดราคาของเครื่องดื่ม แต่ขึ้นกับตามศรัทธาของผู้คนในการร่วมทำบุญ สามารถนำเงินใส่ตู้บริจาคตามกำลังศรัทธาได้เลย อีกทั้งยังมีคติธรรมมากมายติดอยู่ตามต้นไม้ ให้ผู้คนได้อ่านเพื่อสอนใจกันด้วย ออกจากวัดน้ำแล้ว เราไปต่อที่ “วัดโบสถ์” เนื่องจากอยู่ในโซนเส้นทางเดียวกัน ที่วัดโบสถ์มีโบราณสถานเก่าแก่ที่กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานคือ โบสถ์ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย แต่ยังคงได้รับการดูแลและบูรณะอย่างดี ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังอายุกว่าร้อยปี จากนั้นมีการสร้างโบสถ์หลังใหม่ขึ้นด้านหลังโบสถ์หลังเก่าประดิษฐานหลวงพ่อโตที่อัญเชิญมาจากอุโบสถหลังเก่าด้วย ถัดออกจากวัดโบสถ์เป็นแหล่งชุมชนวัดโบสถ์ มีร้านก๋วยเตี๋ยวขึ้นชื่อของคนที่นี่ คือ “ร้านก๋วยเตี๋ยวป้าเตียง” ก๋วยเตี๋ยวโบราณที่ขายมากว่า 50 ปี ที่สำคัญชามละ 5 บาทเท่านั้น หรือใครอยากสั่งพิเศษก็ ชามละ 10 บาท ก่อนทานให้ชิมก่อนนะ น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวจะค่อนข้างจืดสำหรับคนที่ทานรสจัด เพื่อให้เราได้ปรุงตามรสชาติที่ตัวเองชอบด้วย แต่หากไม่ปรุงก็สามารถทานได้อร่อยด้วย คุณป้าใจดีและอารมณ์ดีมาก เราไปครั้งแรกไม่รู้ร้าน เลยด้อม ๆ มอง ๆ แล้วคุณป้าเดินออกมาหน้าร้านพอดี ก็ร้องบอกว่า ใช่แล้ว !! นี่แหละลูก!! ร้านก๋วยเตี๋ยวป้าเตียงเอง นั่งเลย ๆ สั่งได้เลยลูก 5 บาทเท่านั้น!! เราก็จัดการสั่งเลย 3 ชาม อิ่มอร่อย มีก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ 10 บาท หมี่ขาว 10 บาท และก๋วยจั๊บ 10 บาท การเดินทางครั้งนี้ไม่ได้ไปไกล แต่ได้ความภูมิใจที่บ้านเรามีสิ่งดี ๆ มากมายให้คนรุ่นลูกหลานได้เห็น และช่วยกันอนุรักษ์ไว้สืบไป ทั้งเรื่องของศิลปวัฒนธรรม โบราณสถาน รวมถึงมิตรไมตรีของผู้คนแห่งนี้ด้วย... ครั้งหน้าจะพาไปที่ไหนรอติดตามด้วยนะคะ... ติดตามเพจ Times Travel เธอ ฉัน เรา เที่ยว YouTube: Nari’s Wander ภาพถ่ายทั้งหมดถ่ายโดยผู้เขียน