“เก็บเรื่องมาเล่า โดยหนุ่ม สุทน” ทักทายกันวันอังคารที่ 23 กรกฏาคม 2567 พาท่องเที่ยว "วนอุทยานเขานางพันธุรัต" ตำบลเขาใหญ่ อําเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี วนอุทยานเขานางพันธุรัต"วนอุทยานเขานางพันธุรัต" โดยจุดเริ่มต้นก่อนที่จะมาเป็น "เขานางยักษ์หรือเขานางพันธุรัต" ขอย้อนหลังไปในปี พ.ศ. 2539 ครั้งนั้นในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐาน ณ พระราชวังไกลกังวล อําเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต่อมาในวันที่ 18 กรกฏาคม 2539 เวลา 16.00 น. พระองค์ท่านก็เสด็จพระราชดำเนินด้วยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งเสด็จผ่านเทือกเขาลายเจ้าใหญ่ ทรงทอดพระเนตรเห็นเทือกเขาถูกทำลายจึงทรงถามหาข้อมูลแล้วทรงทราบว่าเป็นสัมปทานระเบิดเขาครั้งนั้นก็ทรงโปรดฯ ให้หยุดการระเบิดหินในเขาลูกนี้แล้วทรงโปรดฯ ให้พลโทนิพนธ์ ภารัญนิตย์ แม่ทัพภาคที่ 1 เข้ามาดำเนินการเพื่อฟื้นฟูแล้วก็รักษาสิ่งแวดล้อม แล้วต่อมาในปี พ.ศ. 2541 ทางป่าไม้เขตเพชรบุรีก็เข้ามาดำเนินงานต่อจนกระทั่งพื้นป่าไม้เขาลูกนี้เขียวขจีดูสะอาดตาน่าท่องเที่ยวมาก ๆ นี่คือจุดเริ่มต้นเพียงสั้น ๆ เท่านั้นที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ราษฎรมีความสุขในสภาพแวดล้อมที่ดีครับต้นไม้เขียวขจี ดูแล้วเย็นสบายตาน่ามองมาก ๆ ครับสำหรับตำนานที่เขาลูกนี้ไปเกี่ยวกับนางยักษ์หรือนางพันธุรัตนั้น เพราะเขาลูกนี้ทอดตัวยาวมองคล้าย ๆ ใส่หมวกกุ้ยโล้ยแล้วหันหัวไปทางทิศใต้ดูคล้าย ๆ รูปนางยักษ์นอนนั้นเองครับ ก็เลยไปสอดคล้องกับตำนานในวรรณคดีเรื่องพระสังข์ตอนที่ 3 และตอนที่ 4 ส่วนเรื่องท่องเที่ยวในเขต "วนอุทยานเขานางพันธุรัต" น่าสนใจจริง ๆ พอได้จอดรถแล้วก็เดินตามเส้นทางขึ้นเขานางยักษ์หรือนางพันธุรัตมีบันไดแบบชิล ๆ ผู้สูงอายุขึ้นได้แบบสโลว์ไลฟ์ ไปตามเส้นทางแนะนำได้เลยครับจุดที่ 1 ขอพร "ศาลนางพันธุรัต" เรื่องโชคลาภ หน้าที่การงาน แต่ห้ามขอเรื่องความรักจะไม่สมหวัง สำหรับศาลนางพันธุรัตแรกเริ่มมาจากความเชื่อของชาวบ้านในเทือกเขาแห่งนี้จะจุดฟืนแบบเผาไม้แล้วตั้งจิตอธิฐานขอพรในพื้นป่าไม้แห่งนี้กล่าวกันว่าก็ประสบผลสำเร็จนี่คือที่มาของ "ศาลนางพันธุรัต" ครับขอพรได้ครับ "ศาลเจ้าแม่นางพันธุรัต"เสร็จแล้วเดินขึ้นไปต่อจุดที่ 2 เป็น "จุดชมวิวทิวทัศน์" ถ่ายภาพได้สวยจริง ๆ แล้วก็เดินขึ้นไปต่อครับจุดชมวิวสวยงาม อากาศสดชื่นเย็นสบายมาก ๆ ครับจุดที่ 3 ชมช่อง "กระจกนางพันธุรัต" ถ่ายภาพได้ฟิลจริง ๆ บริเวณนี้มีหินเป็นเหมือนกระจกมีความเชื่อว่านางพันธุรัตจะใช้กระจกส่องดูใบหน้าและความเรียบร้อยของตัวเองก่อนที่จะไปเจอกับพระสังข์ตามวรรณคดีครับ จุดนี้ชมวิวทิวทัศน์ได้เช่นกันสวยงามครับกระจกนางพันธุรัตสำหรับในพื้นที่ "วนอุทยานเขานางพันธุรัต" ท่านใดสนใจจะพักแรมด้วยการกางเต็นท์ทางวนอุทยานก็มีสถานที่สำหรับกางเต็นท์สะดวกสบาย อากาศเย็นมาก ๆ ครับ เพราะบริเวณนี้เต็มไปด้วยป่าไม้ร่มรื่นเขียวขจีครับ มีลานกางเต็นท์สำหรับศึกษาธรรมชาติครับหากต้องการศึกษาเรื่องของซากหินดึกดำบรรพ์ที่เป็นฟอสซิลเพราะดังเดิมเทือกเขาแห่งนี้อยู่ในทะเลต่อมาระบบนิเวศเปลี่ยนไปพื้นดินแถบนี้เป็นที่อาศัยของผู้คนซึ่งได้พบร่องรอย 3 เส้นทางคือเป็นเส้นทางเกวียน ทางม้าและทางเดินของชาวบ้าน ดังนั้นถ้าจะศึกษาเรื่องราวสมัยทวารวดีแนะนำให้แวะก่อนที่จะเข้า "วนอุทยานเขานางพันธุรัต" เพราะบริเวณนี้มีการขุดพบร่องรอยของเมืองหรือท่าจอดเรือแล้วเชื่อมโยงกับเมืองคูบัวในเขตอำเภอเมืองจังหวัดราชบุรี สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นยุคสมัยเดียวกันกับเมืองศรีเทพแห่งลุ่มน้ำป่าสักจังหวัดเพชรบูรณ์ บอกตรง ๆใครชอบศึกษาเกี่ยวกับยุคสมัยทวารวดีก็ไปดูได้สำหรับข้อมูลในพื้นที่แห่งนี้ครับแวะไปชมได้ครับ ขอขอบคุณ นายพัฒนพันธ์ เจือจันทร์ หัวหน้าวนอุทยานเขานางพันธุรัตตำแหน่งนักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ ที่ได้บรรยายเรื่องราวความเป็นมาแบบลึกสุดจริงครับ หากท่านผู้อ่านสนใจเดินทางท่องเที่ยวชม "วนอุทยานเขานางพันธุรัต" สอบถามเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ 064-5598449 และครั้งนี้คณะสื่อมวลชนได้เดินทางโดยการนําของนางสาวสุภาพันธุ์ จันทร์งาม หัวหน้างานภาคกลาง 3 กองตลาดภาคกลางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท) ขอบคุณมาก ๆ ครับ "กินเที่ยวทั่วไทย เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ ถ้าอยากรู้ต้องออกเดินทางไป...กับ...ผมหนุ่ม-สุทน” ขอบคุณและสวัสดีครับไปกันได้ครับ "วนอุทยานเขานางพันธุรัต" เขียวขจี สบายกาย สบายใจ ชมธรรมชาติแสนสดชื่นครับพิกัด "วนอุทยานเขานางพันธุรัต" https://maps.app.goo.gl/22YUmkdZe2bchifk9เรื่องและภาพโดย : หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์แฟนเพจเฟซบุ๊ค : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/#ติดตามฟังเรื่องราวการเดินทางเที่ยวทั่วไทยทางคลื่นข่าว100.5fm ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น. #เที่ยวเพลิน #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #bigmaptravel เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !