หมู่บ้านนาสะอุ้ง ถือเป็นอีกหนึ่งในหมู่บ้านที่ทุรกันดาร ตั้งอยู่ อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ และสิ่งที่ทำให้ยากต่อการเข้าถึงคือการเดินทาง เมื่อเราเดินทางไปถึงหน้าทางเข้าเราได้พบกับ “พ่อหนาน” ซึ่งเป็นทั้งครูและหนึ่งในแกนนำหลักของหมู่บ้าน พ่อหนานคือชายวัย 30 – 40 ปี ที่หัวมีไฟหนึ่งดวงคาดอยู่ และมอเตอร์ไซค์คู่ใจที่ไม่มีไฟหน้ารถ เนื่องจากเราไปถึงดวงอาทิตย์ก็ลาลับขอบฟ้าไปสักพักแล้ว ทำให้รอบข้างมืดสนิท เพราะตลอดระยะทางไม่มีการติดตั้งไฟเลยแม้แต่ดวงเดียว สิ่งที่เรามีตอนนี้ก็เพียงไฟจากหน้ารถไทรทันที่เราอาศัยนั่งมาจากกรุงเทพเท่านั้น ส่วนพ่อหนานก็ขับรถซิ่งจนแทบตามไม่ติดกันเลยทีเดียว เส้นทางในความมืดที่มองแทบจะไม่เห็นนั้น เรารับรู้ได้เพียงความขรุขระของถนนเนื่องจากหัวที่ชนเข้ากับกระจกรถและคนที่นั่งข้าง ๆ เราไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าอีกไกลแค่ไหนกว่าจะถึงที่หมาย เนื่องจากเส้นทางนี้แอปพลิเคชั่นยอดฮิตที่ใช้ดู GPS ก็ไม่ปรากฏอะไรที่เป็นประโยชน์กับเราเลย เวลาได้ล่วงเลยมาสักพัก และแล้ว...เราก็เห็นแสงไฟจากบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านพร้อมเสียงเพลงสรรเสริญพระเจ้าของศาสนาคริสต์ เนื่องด้วยวันที่เราเดินทางมานั้นใกล้วันคริสมาสแล้ว คริสต์จักรในหมู่บ้านนี้จึงผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันจัดงานในแต่ละวัน และวันนี้คือวันของบ้านที่เราได้ยิน นอกจากเสียงร้องเพลงและแสงไฟจากที่จัดงานแล้ว บริเวณแถบนั้นกลับมืดสนิท ไม่มีแสงไฟ โรงเรียนเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน คือ ที่อยู่อาศัยของเราในคืนนี้ หลังจากจัดอุปกรณ์ต่าง ๆ ก็ถึงเวลาที่ชาวคณะจะต้องโทรกลับไปหาที่บ้านแล้วน่ะสิ และเมื่อเราหยิบโทรศัพท์สิ่งที่พบคือ …ไม่มีสัญญาณ ไม่ต้องห่วง เป็นทุกเครือข่ายค่ะ พูดเลย และถ้าหากเราอยากจะใช้โทรศัพท์จริง ๆ ต้องทำยังไงกันคะ? ตอบให้ก็ได้...เดินขึ้นไปนู่นค่ะ บนเขาสูง ๆ นะคะ แล้วจะเจอสัญญาณเอง ฮ่า ๆ ๆ และใช่ค่ะ พวกเราก็เดินกันไปเรื่อย ๆ เพื่อหาสัญญาณ เมื่อเราทำธุระเสร็จ พ่อหนานก็เรียกเราไปหาข้าวกิน ณ สถานที่จัดงาน ทุกคนในหมู่บ้านยิ้มแย้ม เป็นมิตร ต้อนรับพวกเราอย่างดี แต่จุดประสงค์ของพวกเราไม่ใช่ข้าวจานเดียวที่ได้รับแน่นอน เพราะพวกเราได้เตรียมวัตถุดิบสำหรับทำหมูกระทะกันมาแล้วนั่นเอง!! อากาศหนาว ๆ ก็ต้องกินหมูกระทะสิ ถึงจะฟิน หลังจากกินข้าวกันเสร็จเราก็ไปยืมเตาย่างหมูจากบ้านผู้ใหญ่ และจัดการเตรียมวัตถุดิบต่าง ๆ ให้เรียบร้อย และแน่นอน หน้าที่หั่นผัก ทำน้ำซุป ก็ต้องเป็นฝีมือ #ผู้ชาย อยู่แล้วจ้า ผู้หญิงอย่างเรา ๆ ก็ล้างจาน ช่วยชิมกันไป พ่อหนานเล่าถึงปัญหาต่าง ๆ ที่เจอในหมู่บ้าน หลัก ๆ ก็คือเรื่องของไม่มีสัญญาณมือถือ เวลาจะใช้ทีก็ขึ้นเขาไปหาสัญญาณกัน หรือแม้แต่เรื่องการเรียนของน้อง ๆ ซึ่งถ้าอย่างน้อยที่โรงเรียนมีสัญญาณอินเทอร์เน็ตเข้าถึงบ้าง ก็จะได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งปัญหาเหล่านี้เราก็รับทราบตั้งแต่เดินทางมาแล้ว และนอกจากนี้ยังมีปัญหาอื่น ๆ ที่บรรยายได้ไม่หมด พูดได้แค่เพียงว่า หมู่บ้านแห่งนี้ยังต้องการความช่วยเหลือจากทุกคนอีกมากพอดู หลังจากได้พูดคุย ทำความรู้จัก ร่วมรับประทานอาหารและสังสรรค์กันเรียบร้อย เวลาก็ล่วงเลยไปเกือบเที่ยงคืนและงานเลี้ยงในคืนนี้คงต้องจบลง พรุ่งนี้เช้าพ่อหนานนัดชาวคณะไปดูพระอาทิตย์ขึ้น พ่อหนานการันตีความสวยงามมาเลยนะ ฉะนั้นเราคงต้องรีบออมแรงไว้เพราะไม่รู้ว่าเราจะพบเจออะไรในวันรุ่งขึ้น ...ก่อนดวงตะวันจะขึ้นมาทักทายพวกเราชาวคณะก็พร้อมออกเดินทาง คราวนี้พ่อหนานนั่งรถไปกับเราด้วย พ่อหนานทำหน้าที่ไกด์บอกเส้นทางและด้วยอุณหภูมิที่ลดลงทำให้เกิดไอขึ้นและเมื่อบวกกับความมืดมิดที่ปกคลุมอยู่ด้านนอกทำให้แทบจะมองไม่เห็นเส้นทางกันเลย ขับมาอย่างยากลำบากสักพักหนึ่ง พ่อหนานก็บอกข่าวดีกับเราว่าได้เดินทางมาถึงสถานที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว... สถานที่แห่งนี้เป็นภูเขาสูง มองไปเห็นบ้านเมืองของผู้คน สังเกตได้จากไฟต่าง ๆ ที่ยังคงสว่างไสวต่างจากที่ที่เราอยู่นักเหมือนอยู่กันคนละโลกเลย รอไม่นานเจ้าไข่แดง หรือดวงอาทิตย์ของเราก็แสดงตัวให้เราได้ยลโฉม ตั้งแต่วินาทีที่แสงเริ่มทอประกายพวกเราต่างตื่นเต้นและถ่ายรูปกันมือเป็นระวิง ราวกับว่ากลัวว่าวินาทีนี้จะหายไปจากความทรงจำ พ่อหนานก็ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเรา เป็นทั้งคนหน้ากล้องและคนหลังกล้อง แต่เมื่อแสงที่เริ่มสว่างจนเกินไปภารกิจครั้งนี้ของเราก็จบลงพร้อมทั้งเวลา ณ หมู่บ้านแห่งนี้ก็ใกล้จบลงเช่นกัน ก่อนกลับพวกเราได้ไปที่โบสถ์อีกหนึ่งแห่งในหมู่บ้าน ได้ร่วมร้องเพลง และอธิฐาน ทุกคนในหมู่บ้านร่วมอธิฐานให้เราชาวคณะ สิ่งนี้เป็นการเติมกำลังใจให้พวกเราต่อสู้กับสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามา หลังจากนั้น เราได้นำขนมมาแจกให้น้อง ๆ ในหมู่บ้าน ทุกคนแลดูมีความสุขกับขนมที่อยู่ในมือ นั่นแหละคือความสุขของพวกเรา หลังจากบทความนี้ออกไป เราไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น อาจจะมีคนใจดีไปช่วยเหลือพ่อหนานและคนในหมู่บ้านมากขึ้น หรือ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย แต่อย่างน้อย เราก็อยากให้ทุกคนยิ้มไปกับเรา กับหมู่บ้านเล็ก ๆ แต่เป็นสถานที่ที่มิตรภาพนั้นยิ่งใหญ่เกินบรรยาย