“เก็บเรื่องมาเล่า โดยหนุ่ม สุทน” ทักทายกันวันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 พาท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเพื่อการเรียนรู้ที่ "วัดอ่างศิลา" หรือดั้งเดิมเป็นชุมชนชาวประมงบ้านอ่างหิน ตำบลอ่างศิลา อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี วัดอ่างศิลา เริ่มกันที่ประวัติของ "วัดอ่างศิลา" สร้างขึ้นมาสมัยอาณาจักรแผ่นดินกรุงศรีอยุธยาเมื่อครั้งเป็นราชธานีตรงกับสมัยสมเด็จพระเพทราชาหรือยุคตอนปลายแผ่นดินสมเด็จพระเพทราชา "วัดอ่างศิลา" เดิมมี 2 วัด คือวัดอ่างศิลานอกและวัดอ่างศิลาใน ต่อมาในปี พ.ศ. 2459 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 6 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ก็รวมให้เป็นวัดเดียวกันเพื่อความสามัคคีในชุมชนแล้วใช้ชื่อว่า "วัดอ่างศิลา" วัดอ่างศิลา สวยงามเงียบสงบดีครับ สำหรับวัดอ่างศิลามีองค์พระพุทธรูปที่ชาวอ่างศิลาเชื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์คือ "หลวงปู่หิน" เป็นพระพุทธรูปแกะสลักด้วยหินทรายขาวแต่ที่สำคัญองค์ท่านลอยน้ำมาติดอยู่ริมทะเลที่หมู่บ้านชาวประมงอ่างหินหรืออ่างศิลาทุกวันนี้ สำหรับองค์พระพุทธรูปที่เรียกว่า "หลวงปู่หิน" มีข้อสันนิษฐานที่เล่าขานสืบต่อมาหลายชั่วอายุคนว่าเมื่อสมัยนั้นน่าจะมีการแกะสลักองค์พระพุทธรูปแล้วตั้งจิตอธิษฐานอัญเชิญพระพุทธรูปลงแพไม้ไผ่แล้วลอยน้ำมาในทะเลดังนั้นเชื่อว่าแพไม้ก็ถูกเคลื่อนลมพัดแรง ๆ แพไม้ไผ่ก็จมลงน้ำทะเลส่วนองค์พระพุทธรูปก็ลอยน้ำมาติดริมทะเลพอชาวบ้านอ่างหินพบก็อัญเชิญขึ้นประดิษฐานหน้าโบสถ์วัดอ่างศิลา ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านเข้ามากราบบูชาขอพรแล้วปิดทององค์ท่านเรียกว่ามีทองปิดเต็มองค์ส่วนการขอพรคือเรื่องโชคลาภ เรื่องทำธุรกิจการค้าหรือสอบผ่านเข้ารับราชการ เป็นต้น ส่วนใหญ่จะได้สมความปรารถนา สมหวังดั่งใจกันถ้วนทั่วครับ กราบขอพร "หลวงปู่หิน" ได้ครับ สำหรับเรื่องราวของ "หลวงปู่หิน" มีเล่าต่อพอองค์หลวงปู่หินมีทองปิดเต็มองค์ทางวัดให้ลอกเอาทองออกแล้วลงรักษ์ปิดทองใหม่แต่ชาวบ้านไม่เชื่อคิดว่าองค์หลวงปู่หินหายไปโดยชาวบ้านให้เหตุผลว่าองค์หลวงปู่หินดั้งเดิมพระพักตร์ท่านดูยิ้มให้ผู้ที่เข้าบูชาแต่เมื่อลงรักษ์ปิดทองใหม่แล้วพระพักตร์ท่านเปลี่ยนไปนี่คือส่วนหนึ่งที่ยังคงติดอยู่ในใจของชาวอ่างศิลา อย่างไรก็ตาม "องค์หลวงปู่หิน" ประดิษฐานอยู่หน้าโบสถ์เช่นเดิมส่วนโบสถ์มีการบูรณะใหม่หลายครั้งโดยเฉพาะในสมัยปลายรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นที่นิยมกันคือหลังคาโบสถ์ไม่มีช่อฟ้าใบระกาหางหงส์แต่บริเวณหน้าบันมีเครื่องเคลื่อนแบบศิลปะจีนส่วนภายในโบสถ์แนะนำให้เข้าชมภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นภาพที่มีสีสันสวยงามสันนิษฐานคงมีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 เป็นเรื่องราวสมัยพุทธกาลสุดยอดมาก ส่วนองค์พระประธานมีพุทธลักษณะงดงามมากเช่นกันครับ ศาลาประดิษฐาน "องค์หลวงปู่หินจำลอง" เสร็จแล้วไปที่ศาลาประดิษฐาน "องค์หลวงปู่หินจำลอง" เพื่อให้ชาวประชาชนได้ปิดทองและบูชาขอพรกันได้ครับ แล้วก็ไปต่อที่ "โบสถ์มหาอุตม์" เป็นโบสถ์เก่าแก่ตั้งแต่ครั้งสร้างวัดนี้แล้วทางกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานควรค่าแก่อนุรักษ์สำหรับด้านหน้าโบสถ์มหาอุตม์มีเจดีย์ 3 เจดีย์คือเจดีย์เล็ก เจดีย์กลางน่าสนใจจริง ๆ เพราะฐานล่างเจดีย์มียักษ์แคะค้ำจุนเจดีย์ไว้เชื่อว่าน่าจะได้รับอิทธิพลจากสมัยขอม ส่วนฐานที่ 2 มีพญาครุฑค้ำจุนพระพุทธศาสนาน่าจะมาจากศาสนาพราหมณ์-ฮินดู กราบบูชาขอพรกันได้ครับ เสร็จแล้วเข้าภายในโบสถ์มหาอุตม์บูชาขอพรองค์พระประธานเก่าแก่คู่กับโบสถ์มหาอุตม์มาตั้งแต่ครั้งแผ่นดินกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีและสุดท้ายคือ "วิหารพระนอน" หรือ พระพุทธไสยายน์ กราบขอพรกันได้ครับ กราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดได้ครับ น่าสนใจมาก ๆ ครับ สำหรับ "วัดอ่างศิลา" ตำบลอ่างศิลา อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เป็นวัดสงบเงียบเหมาะแก่การไหว้พระขอพร รวมทั้งศึกษาเรื่องราวต่าง ๆ ของวัดอ่างศิลาที่อยู่คู่กับชุมชนชาวประมงบ้านอ่างหินที่มีเนินหินขนาดใหญ่ริมทะเลซึ่งแต่เดิมเรียก "บ้านอ่างหิน" แล้วต่อมาจึงเป็นมาเรียก "อ่างศิลา" แทนครับ "กินเที่ยวทั่วไทย เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ ถ้าอยากรู้ต้องออกเดินทางไป...กับ...ผมหนุ่ม-สุทน” แล้วฝากติดตามฟังรายการ "กินเที่ยวทั่วไทยไปกับพี่หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์" ทางคลื่นข่าว fm 100.5 mhz ฟังเรื่องเล่าประวัติศาสตร์ วิถีชุมชน วัฒนธรรมและอาหารถิ่นของชุมชนได้ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น. ขอบคุณและสวัสดีครับ ไปกันได้ครับ "วัดอ่างศิลา" กราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นสิริมงคลได้ตัวเองและครอบครัว พิกัด "วัดอ่างศิลา" https://maps.app.goo.gl/pGmNtXUznYdNStRM7 เรื่องและภาพโดย : หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์ แฟนเพจเฟซบุ๊ค : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/ #ติดตามฟังเรื่องราวการเดินทางเที่ยวทั่วไทยทางคลื่นข่าว100.5fm ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น. #ติดต่อวิทยากรด้านการท่องเที่ยวได้ที่ได้ที่แฟนเพจเฟซบุ๊ค #เที่ยวเพลิน #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #bigmaptravel อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !