มีวันหยุดเสาร์อาทิตย์ อยากไปเที่ยวพักผ่อนไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก หลายคนก็อาจจะนึกถึงเมืองใกล้ๆอย่างพัทยา หรือหัวหิน แต่เราอยากแนะนำเมืองรองอย่างอุทัยธานีกับชัยนาท ที่คุณสามารถเที่ยวได้ภายใน 2 วัน 1 คืนทริปนี้เราขับรถออกจากกรุงเทพวันอาทิตย์ตอน 7 โมงเช้า แวะกินข้าวแถวอ่างทอง รถไม่ค่อยติดเลย ถึงอุทัยธานีประมาณ10โมงนิดๆ เราก็ตีรถไปดูต้นไม้ยักษ์ (Giant Tree) ก่อนเลย ที่นี่มีลานจอดรถกว้าง มีจักรยานให้เช่า 10 บาท แต่ทางเดินไปดูต้นไม้ไม่ได้ไกลมาก ประมาณ 200 เมตร เราเลยเดินเท้าเข้าไป ทางเข้าปูด้วยปูนอย่างดี สองข้างทางมีร้านขายของฝาก ผลไม้ เสื้อผ้าของคนในพื้นที่ วันที่ไปเกือบๆเที่ยงแล้ว อากาศค่อนข้างร้อน แนะนำให้พกร่มหรือหมวกไปด้วยเวลาเปิด: เยี่ยมชมได้ตลอด แนะนำให้ไปตอนก่อน5โมงเย็น เพราะไกลจากตัวเมืองพิกัด: https://maps.app.goo.gl/wDMPKy2y6cjh1d5x6?g_st=icพอไปถึงที่ต้นไม้ยักษ์ คนค่อนข้างเยอะพอสมควร เราเลยหาจุดเหมาะๆไปถ่ายรูปซักหน่อย ต้นไม้ก็คือใหญ่จริง อายุ 400 ปี ตัวเราสูงได้แค่ส่วนรากของต้นไม้เท่านั้นเอง หลังจากถ่ายรูปจนหนำใจ เราก็ไปต่อที่ฝายกั้นน้ำปางสวรรค์ (Pang Sawan Weir) ที่จอดรถไม่ได้มีเป็นหลักแหล่ง เราจอดแปะๆตามข้างทาง วันที่ไปมีคนเยอะพอประมาณ เราถ่ายรูปจากข้างบน ไม่ได้ลงไปถ่ายที่ตัวฝายกั้นน้ำ ถ้าใครจะลงไปถ่ายข้างล่างแนะนำให้ใส่กางเกงขาสั้นกับรองเท้าที่เปียกน้ำได้มา บริเวณรอบๆก็ดูร่มรื่น มีศาลาให้นั่งพักไกลๆ เวลาเปิด: เปิด 24 ชั่วโมงพิกัด: https://maps.app.goo.gl/ntfhwNLNbv7UPx9Q6?g_st=icเสร็จจากฝายเราก็มาต่อที่หุบป่าตาด (Hup Pa Tat) ที่ๆได้ชื่อว่าเป็น Unseen ของจังหวัดอุทัยธานีเลย วันที่ไปคนเยอะเหมือนกัน ก่อนเข้าต้องไปซื้อบัตร สำหรับผู้ใหญ่ 20บาท เด็ก 10บาท เราจะได้ไฟฉายมาด้วย ทางเดินก็จะต้องผ่านถ้ำที่มืดมาก ข้างในมีค้างคาวด้วย ก็จะได้กลิ่นมูลค้างคาวบ้างเล็กน้อย เดินทะลุถ้ำออกมาเราก็จะเจอทางเดินบันไดยาวไปด้านล่าง ลงมาก็จะเจอต้นไม้ ใบใหญ่ๆ แปลกๆ เหมือนอยู่ในป่าดงดิบ ในหัวคือคิดถึงหนังเรื่องจูราสสิค พาร์คเลยทีเดียว เดินมาเรื่อยๆจะเจอจุดไฮไลท์ ที่มีลักษณะเป็นโถงถ้ำขนาดใหญ่ ที่จุดนี้เคยใช้เป็นที่ถ่ายทำเรื่องเจ้าแม่นาคีอีกด้วย พ้นโถงถ้ำนี้ออกไปก็จะเป็นทางเดินวนวงกลมไม่ใหญ่มากให้เราได้เดินดูต้นไม้รูปร่างแปลกๆ เสร็จแล้วเราก็เดินกลับออกมาทางเดิม คืนไฟฉายแล้วขับรถกลับเข้าตัวเมืองอุทัยธานีเวลาเปิด: 08.30-16.30น.พิกัด: https://maps.app.goo.gl/984Jd2dcVNLX8VKN8?g_st=icถึงตัวเมืองก็เป็นเวลาบ่ายกว่าๆก็แวะทานก๋วยเตี๋ยวไก่โบราณ ซักหน่อย ร้านที่ตั้งใจไปไม่เปิดวันอาทิตย์เลยได้แวะอีกร้านชื่อก๋วยเตี๋ยวไก่สูตรโบราณ มีไส้ด้วย รสชาติอร่อยใช้ได้เลย พิกัด: https://maps.app.goo.gl/984Jd2dcVNLX8VKN8?g_st=icเสร็จแล้วเราก็แวะเข้าที่พัก วันนี้เราพักที่เรือนคุณแม่โฮมสเตย์วันที่ไปมีเราเข้าพักอยู่ห้องเดียว ห้องที่เราเลือกคือเบอร์4 เป็นห้องใหญ่ที่อยู่ในสุด ห้องพักคืนละ 2,000บาท ที่นี่แม่บ้านจะอยู่ถึง2ทุ่มเท่านั้น ที่พักก็จะเป็นไม้ๆ โทนสีน้ำตาล ขาว ออกแนวญี่ปุ่นหน่อยๆ ในห้องพักมีแอร์ถึง2ตัว ห้องน้ำกว้างขวาง อุปกรณ์ในห้องน้ำครบครัน มีไดร์เป่าผม และสเปรย์ฉีดยุงให้ด้วย เปิดระเบียงออกไปจะเจอกับต้นกระท้อน ตรงกับชื่อเรือนพอดีตอนเย็นออกมาเดินเล่นนอกที่พัก เป็นวิวแม่น้ำ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นจังหวัดชัยนาท แถวนั้นก็คือเป็นโค้งแม่น้ำ ให้ความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย เราเดินเรื่อยๆ จนมาถึงร้านอาหารเย็นชื่อสมบัติ ชวนชิม ไม่ไกลจากที่พักมากนัก อ่านรีวิวมาส่วนใหญ่แนะนำให้ทานปลา ก็เลย เมนูที่สั่งคือ ปลาแรดราดพริก ปลาแดงทอดกระเทียม กับต้มยำ อร่อยใช้ได้เลย 3อย่างหมดไป6ร้อยกว่าบาท ถือว่าคุ้มทั้งรสชาติและปริมาณตอนเช้า อาหารเช้าเริ่ม 8โมงถึง10โมง ทางที่พักจะมีให้เลือก เป็นข้าวมันไก่ โจ๊ก และก๋วยจั๊บ เราเลือกข้าวมันไก่ กับโจ๊กมา คิดว่าที่พักน่าจะซื้อมาจากในตลาดนั่นแหละ รสชาติก็ทั่วไป แต่ในเซ็ทอาหารเช้าก็จะมีผลไม้ ปาท่องโก๋ และขนมหวานให้ด้วย พิกัดที่พัก: https://maps.app.goo.gl/Wz85yBGhLDwVkwKc9?g_st=icสายๆหน่อยเราไปหาร้านกาแฟกิน ร้าน Tone cafe ร้านนี้คนรีวิวเยอะ มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เราสั่งชาไทย กับกาแฟส้มมา ส่วนตัวรู้สึกว่าเครื่องดื่มรสชาติอ่อนไปนิด แต่ขนม Boo Bun ของทางร้านอร่อย มีหลายไส้ เช่นช็อกโกแลต ชาไทย คนซื้อกลับเยอะมากก เวลาเปิด: 8.30 -16.30น.พิกัด: https://maps.app.goo.gl/kLWkaSe4FrVrfC239?g_st=icที่จอดรถ:ข้างถนนใกล้ๆร้านแล้วเดินเอาถัดจากร้านกาแฟก็ไปแวะของฝากเป็นขนมปังไส้สังขยาที่ร้านไพรพรรณ จริงๆต้องโทรสั่งจอง แต่ว่าเราไม่รู้ โชคดีมีหลุดจองก็เลยสั่งมากล่องนึง 100บาท มี 10ลูก รสชาติอร่อยใช้ได้ เวลาเปิด: 07.30 - 16.00น.พิกัด:https://maps.app.goo.gl/GSBKggH4C6AgwGxT9?g_st=icที่จอดรถ: จอดข้างทางฝั่งตรงข้ามธนาคารกรุงไทยเสร็จจากที่นี่เราก็แวะไปอีกร้านชื่อ แม่ป๋วยลั้ง ที่นี่มีขนมขึ้นชื่ออีกอย่างนึงชื่อว่า ข้าวกุ้งกรอบ และ ข้าวตังหน้าต่างๆ อร่อย เหมาะซื้อเป็นของฝาก ราคาไม่แพง ที่นี่มีขายขนมปังสังขยาเหมือนกันแต่ตอนที่ไปขายหมดแล้ว เวลาเปิด: 05.30 - 18.00น.พิกัด: https://maps.app.goo.gl/7rdSoHGzL5VsU9eJ6?g_st=icหลังจากซื้อของเสร็จก็เดินทางออกจากตัวเมืองมายังวัดท่าซุง วัดที่ถ้าใครมาเที่ยวอุทัยธานีก็ต้องแวะมา ถ้าใครมาแนะนำให้เลี่ยงช่วง บ่ายโมงเพราะช่วงนี้จะมีการสวดมนต์ในวิหารแก้วให้มาอีกทีตอนบ่ายสอง ระหว่างที่รอให้ประตูวิหารเปิดก็ได้นั่งรถนำเที่ยว ไปกลับ10บาท เพื่อไปยังปราสาททองคำที่อยู่ลึกในโซนด้านใน จะขับรถมาเองก็ได้มีที่จอดเยอะมาก ด้านในปราสาทมีสองชั้น ค่าเข้าฟรี ข้างในสวยมาก จะมีโซนที่เป็นห้องกระจกและมีพระพุทธรูปวางเรียงหลายองค์ สวยมากๆแนะนำให้มาเลยหลังจากนั้นบ่ายสองประตูวิหารแก้วเปิดเราก็ได้เข้าไปด้านใน ด้านในจะตกแต่งด้วยโทนเงินๆ วิจิตรงดงามมาก สักการะพระพุทธชินราชจำลอง และหลวงพ่อฤาษีลิงดำเพื่อความเป็นสิริมงคลเวลาเปิด: 09.00 - 16.00น. ตอน 13.00-14.00น. วิหารแก้วปิดเพื่อสวดมนต์พิกัด: https://maps.app.goo.gl/7rdSoHGzL5VsU9eJ6?g_st=icหลังจากไหว้พระเรียบร้อยเราก็มาทานอาหารที่ร้าน sunset ที่จ.ชัยนาท อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ร้านนี้เป็นสาขาของร้านดังที่พัทยาอีกด้วยถัดจากกาแฟก่อนเข้ากรุงเทพก็ขอแวะสวนนกชัยนาทก่อนสำหรับรีวิวสวนนกชัยนาทตามไปดูได้ที่ https://intrend.trueid.net/post/391536 สรุปค่าใช้จ่ายสำหรับ2คนค่าที่พัก 2,000 บาทค่าอาหาร 2วันรวมกาแฟ ไม่เกิน 2,000 บาทค่าน้ำมันประมาณ 3,500บาทไปกลับค่าของฝากประมาณ 300-400บาท รูปภาพทั้งหมดถ่ายโดยนักเขียน ส่องที่เที่ยว พิกัดลับห้ามพลาด มุมถ่ายรูปสวยที่ทรูไอดีคอมมูนิตี้