รีเซต

8 ที่เที่ยว ตามรอย สถานที่ในตำนานที่มีอยู่จริง ลึกลับแต่สวยอลัง ต้องตามไปค้นหา

8 ที่เที่ยว ตามรอย สถานที่ในตำนานที่มีอยู่จริง ลึกลับแต่สวยอลัง ต้องตามไปค้นหา
SummerB
4 ธันวาคม 2564 ( 14:54 )
3.8K

        ตั้งแต่เด็กจนโต เรามักจะได้ยิน นิทาน หรือ ตำนาน จากประเทศต่างๆ ซึ่งจะมีเนื้อหาและความเชื่อที่แตกต่างกันออกไป ท่ามกลางความตื่นเต้น เรามักจะเกิดความสงสัยว่าเหตุการณ์และสถานที่ที่กล่าวถึงในตำนานนั้นมีจริงหรือไม่ วันนี้เราจะพาทุกคนไปแกะรอย 8 สถานที่ในตำนานที่มีอยู่จริง จากทั่วโลก ไปดูกันว่าจะเหมือนหรือต่างจากที่เราจินตนาการไว้มากแค่ไหน

 

แกะรอย สถานที่ในตำนานที่มีอยู่จริง

สวยแปลก น่าค้นหา

 

1. เขาโอลิมปัส Mount Olympus

กรีซ

 

 

        เชื่อว่าทุกคนคงรู้จัก เขาโอลิมปัส (Mount Olympus) กับตำนานเทพกรีกโรมันกันบ้างไม่มากก็น้อย ตามตำนานแล้วที่นี่คือที่อยู่อาศัยของเหล่าทวยเทพทั้ง 12 พระองค์ โดยมี ซุส (Zues) เป็นราชาผู้ปกครองเขาโอลิมปัส นอกจากซุสแล้ว ก็ยังมี เทพโพไซดอน (Poseidon) เทพเจ้าแห่งท้องทะเล เทพีอธีนา (Athena) เทพีแห่งสติปัญญา อพอลโล (Apollo) เทพแห่งดวงอาทิตย์ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งในความเป็นจริงนั้น เขาโอลิมปัส เป็นส่วนหนึ่งของ เทือกเขาโอลิมปัส (Olympus Range) และเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดใน ประเทศกรีซ ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้ๆ กับ ทะเลอีเจียน (Aegean Sea) มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ล้อมรอบไปด้วยป่าเขาอันเงียบสงบ และเป็นที่อยู่อาศัยของนกพันธุ์หายากที่ใกล้สูญพันธุ์หลายชนิด ถือเป็นพิกัดสายลุยที่คนรักธรรมชาติห้ามพลาด

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/YxRpNuWpFAHKihKHA 

==========

 

2. ซากปรักหักพังของกรุงทรอย Ruins of Troy

ตุรกี

 

 

       หลังจากที่มีการหยิบยกเรื่องราวของ กรุงทอย (Troy) ใน มหากาพย์อีเลียด (Iliad) ของ โฮเมอร์ (Homer) กวีเอกชื่อดังชาวกรีกมาสร้างเป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2004 เรื่องราวของกรุงทอยก็กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น เกิดเป็นข้อถกเถียงว่าเมืองแห่งนี้มีจริงหรือไม่ ซึ่งก็ได้มีการค้นพบซากปรักหักพังของอารยธรรมโบราณอายุกว่า 8,000 ปีอยู่ตรงชายฝั่งทะเลอีเจียนในเมือง Hisarlik ประเทศตุรกี ซึ่งมีการสันนิษฐานว่านี่คือ ซากปรักหักพังของกรุงทอย (Ruins of Troy) นั่นเองค่ะ เมืองแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO และมีการสร้างม้าไม้จำลองขึ้นมาเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ไปเข้าชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอีกด้วย

 

ม้า กรุงทรอย ที่เที่ยวตุรกี

Nejdet Duzen / Shutterstock.com

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/JEkMrkocg2t844UD7 

==========

 

3. เกาะ Cyclopean ในตำนาน Odyssey

อิตาลี

 

      มหากาพย์โอดิสซีย์ (Odyssey) คือมหากาพย์ชื่อดังอีกเรื่องหนึ่งของโฮเมอร์ ที่บอกเล่าถึงการผจญภัยของโอดิสซีย์ระหว่างการเดินทางกลับบ้านที่ อิธาคา (Ithaca) หลังจบศึกที่กรุงทรอย ซึ่ง เกาะ Cyclopean (Cyclopean Isles) ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่โอดิสซีย์เคยไปเยือน เราสามารถไปผจญภัยตามรอยโอดิสซีย์ได้ที่เกาะ Cyclopean ตรงบริเวณเมืองซิซิลี (Sicily) ประเทศอิตาลี และชมซากของวิหารโบราณที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้ากรีกที่ยังคงหลงเหลืออยู่บนเกาะ

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/n28EdwxqQJGWRXzG9 

==========

 

4. บ้านเกิด King Arthur

อังกฤษ

 

 

         ตามรอยบ้านเกิด กษัตริย์อาเธอร์ (King Arthur) กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ในตำนานของบริเตนเมื่อปลายศตวรรษที่ 5-6 ที่ ทินทาเจล (Tintagel) แคว้นคอร์นวอล (Cornwall) ประเทศอังกฤษ ตามตำนานกล่าวไว้ว่าที่นี่คือบ้านเกิดของกษัตริย์อาร์เธอร์ แม้ปัจจุบันจะเหลือเพียงซากปรักหักพังของปราสาท แต่เพราะทิวทัศน์ที่งดงามของหน้าผาตรงชายฝั่งทะเลจึงทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาชมและถ่ายรูปกับ รูปปั้นสำริดของกษัตริย์อาร์เธอร์ นอกจากนี้ยังมีร้านขายของที่ระลึกและคาเฟ่อีกด้วย

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ ทินทาเจล ที่เที่ยวอังกฤษ เมืองเกิด King Arthur วีรชนผู้ยิ่งใหญ่แห่งเกาะบริเตน

 

Gary Perkin / Shutterstock.com

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/zFQM2UMREZJTVwW19 

==========

 

5. ปราสาทแดร็กคูล่า Dracula Castle

โรมาเนีย

 

 

        คงไม่มีใครไม่รู้จักตำนานของ เคาท์แดร็กคูล่า (Count Dracula) ที่เล่าขานกันมาหลายชั่วอายุคน ซึ่งเรื่องราวที่เหมือนจะได้รับความนิยมมากที่สุดก็เป็นของ Bram Stoker นักเขียนชาวไอริชที่บอกเล่าเรื่องราวของแดร็กคูล่าโดยหยิบยกเอา ปราสาทบราน (Bran Castle) เป็นสถานที่หลักของเรื่อง ในความเป็นปราสาทบรานสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1212 โดย Vlad Tepes ผู้ปกครองแคว้น Wallachian และเป็นวีรบุรุษที่ชาวโรมาเนียยกย่องเป็นอย่างมาก ปัจจุบันปราสาทบรานก็ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเข้าชมไม่ขาดสาย สร้างรายได้ให้กับประเทศโรมาเนียได้เป็นอย่างดี

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/a6qDAJz9SWrciNzGA 

==========

 

6. เอล โดราโด El Dorado

โคลอมเบีย

 

 

        เอล โดราโด (El Dorado) คือเมืองแห่งความมั่งคั่งในตำนานที่มีการค้าหามาตลอดตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 เชื่อว่าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยทองคำ และสมบัติมากมาย หลอกล่อให้ผู้คนที่พยายามแสวงหาอำนาจเข้าไปค้นหา แต่ก็ต้องเสียชีวิตลงระหว่างการเดินทาง และก็ไม่มีใครหาเมืองนี้เจอจนกระทั่งปัจจุบัน แต่ก็มีการสันนิษฐานว่าเมืองแห่งนี้เคยตั้งอยู่ตรง ทะเลสาบ Guatavita (Lake Guatavita) ทะเลสาบสีมรกต ล้อมรอบด้วยป่าเขาที่ประเทศโคลอมเบียค่ะ

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/eT13zbum7ZPA7iBG7 

==========

 

7. แชงกรีล่า Shangri-La

จีน

 

 

     แชงกรีล่า (Shangri-La) เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นยูโทเปียในตำนานตามนวนิยายเรื่อง The Lost Horizon ของ James Hilton นักเขียนชาวอังกฤษชื่อดังที่บรรยายให้เมืองนี้เป็นเมืองแห่งความสุขและความเป็นอมตะ โดยมีการสันนิษฐานว่าเมืองที่กล่าวถึงนั้นก็คือ เมืองจงเตี้ยน (Zhongdian) หรือ แชงกรีล่า ที่ มณฑลยูนนาน ประเทศจีน นั่นเองค่ะ เมื่อได้เห็นทัศนียภาพของเทือกเขาหิมาลัยและสถาปัตยกรรมบ้านเมืองที่งดงามราวเมืองสวรรค์ก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงกลายเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากจะไปเยือนนัก

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/qZPhN2LXi4efVcrp9 

==========

 

8. ชายหาดมิโฮะ Miho no Matsubara ตำนานแห่งฮาโกโรโมะ

ญี่ปุ่น

 

 

        ชายหาดมิโฮะ (Miho no Matsubara) คือสถานที่ใน ตำนานฮาโกโรโมะ หรือ เสื้อคลุมขนนก ที่ถูกค้นพบโดยชาวประมงผู้หนึ่งที่ออกไปหาปลาที่ชายหาดแห่งนี้ นาทีนั้นเองที่นางฟ้าปรากฏตัวขึ้นและขอเสื้อคลุมขนนกคืน ไม่อย่างนั้นนางจะไม่สามารถกลับขึ้นไปบนสวรรค์ได้ ก่อนที่จะคืน ชาวประมงก็ให้นางฟ้าร่ายรำพร้อมกับสวมเสื้อขนนก ก่อนจะบินขึ้นกลับสวรรค์ไป การร่ายรำอันงดงามของนางได้ตราตรึงในใจของชาวประมงเป็นอย่างมาก และเกิดเป็นตำนานที่เล่าขานต่อๆ กันมา ปัจจุบันชายหาดมิโฮะตั้งอยู่ใน จังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka) ประเทศญี่ปุ่น สามารถชมวิวของ ภูเขาไฟฟูจิ (Mount Fuji) ที่ตั้งตะหง่านอยู่ไกลๆ ส่วนด้านหลังก็เป็นป่าสนสวยงาม เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ห่างไกลจากความวุ่นวายแห่งหนึ่งเลยค่ะ

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/S915ZtZrqqGjg7Nd7 

 

ตามติดเทรนด์เที่ยว อัพเดทที่พักสวย
แชร์ทริปสุดชิล โพสต์ภาพสุดปัง ของคุณได้แล้วที่ แอปทรูไอดี
คลิกเลย >> TrueID Travel Community <<