สวัสดีค่ะวันนี้โบว์ก็จะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี ที่หลายๆต้องมาซักครั้ง นั่นก็คือ เหมืองผีหลอก หรือเรียกอีกชื่อที่เราคุ้นเคยว่า "เหมืองปิล๊อก" นั่นเอง จริงๆชื่อดั้งเดิมคือชาวบ้านเรียกหมู่บ้านนี้ว่า "เหมืองผีหลอก" เพราะจากประวัติสถานที่มีคนเสียชีวตจำนวนมากที่นี่ แต่หลังจากที่ชาวพม่าเริ่มเข้ามาอาศัยในหมู่บ้านแห่งนี้ ชื่อเรียกก็ได้เพี้ยนไปจากเดิม กลายมาเป็น "เหมืองปิล๊อก" ในปัจจุบันนั่นเอง ต้องบอกก่อนเลยว่าโบว์ได้มาเที่ยวที่จังหวัดกาญจนบุรีเป็นรอบที่ 3 แล้ว และรอบนี้ก็คือรอบที่ประทับใจ และได้รับประสบการณ์ใหม่ๆที่ไม่คิดว่าจะได้จากจังหวัดกาญจนบุรี ถึงแม้ว่าโบว์จะมีเวลาในการเดินทางมาพักผ่อนเพียงแค่ 2 วัน คือวันเสาร์และวันอาทิตย์แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับการผจญภัยและหาประสบการณ์ใหม่อยู่แล้ว หากเพื่อนๆที่กำลังจะออกเดินทางแต่ยังกลัวว่ามีเวลาน้อย หรือกลัวอุปสรรคต่างๆ ลองมาอ่านบทความนี้ดูนะคะ เผื่อจะทำให้เปลี่ยนใจ เตรียมกระเป๋าแล้วออกเดินทางกันเลยค่ะ เราขึ้นรถจากสถานีขนส่งสายใต้ใหม่เพื่อไปที่ สถานีขนส่งกาญจนบุรี โดยเราจะต้องมาขึ้นรถตั้งแต่เวลาตี 5:30 น. เพราะระยะทางกว่าจะไปถึงหมู่บ้านอีต่องนั้นไกลเหลือเกิน เราจึงต้องทำเวลาเพื่อให้เราจะได้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น เรามาถึงสถานีขนส่งกาญจนบุรีเวลา 7:40 น. ไปหาอะไรกินรองท้องแล้วนั่งรถกันต่อ คราวนี้เราไปขึ้นรถเมล์ที่เขียนว่าไป "กาญจนบุรี-สังขระ" เพื่อที่เราจะเดินทางไปลงที่ ทองผาภูมิ เราจะได้ขึ้นรถตอน 8:45 น. และเราถึงทองผาภูมิเวลา 11:55 น. เราจะต้องนั่งรถจากตลาดทองผาภูมิ เพื่อขึ้นไปยังหมู่บ้านอีต่องอีกครั้ง คนขับรถแนะนำให้เราไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อตุนไว้ก่อน เผื่อหิวระหว่างทาง รถจะออกจากตลาดทองผาภูมิในตอน 12:30 น. เมื่อถึงเวลานัด คนขับรถก็ออกรถทันที เพื่อนต้องมาให้ตรงเวลานัดกันนะคะ เพราะถ้าพลาดแล้วละก็ จะหารถขึ้นเขายากนะคะ รักษาเวลาด้วย เราใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงนิดจากตลาดถึงหมู่บ้าน โดยถึงเวลา 14:20 น. เก็บสำภาระของเราเข้าที่พักแล้วออกไปสำรวจพื้นที่กัน เราออกมาจากที่พักและสำรวจสถานที่หมู่บ้านโดยรอบ อากาศเริ่มเย็นลงแล้ว เราได้คุยกับชาวบ้านตอนซื้อของ คุณป้าบอกว่า "นี่ยังไม่หนาวเลยนะ เดือนธันวาคมนู่นแหละของจริง" ป้าบอก แต่ส่วนตัวเรานั้น แค่นี้ก็หนาวแล้ว ถ้าเทียบกับอากาศหนาวที่กรุงเทพ เราออกเดินสำรวจมาซักพักก็เจอรถนำเที่ยว คุณลุงคนขับรถตะโกนมาว่า "ไปดูพระอาทิตย์ตกครับ ขึ้นมาได้เลย" เราได้ยินแบบนั้นก็รอช้าทำไมละคะ? กระโดดขึ้นรถไปเลย คุณลุงส่งเราที่เนินเขาช้างศึก ตอนนั้นเวลา5โมงเย็น พระอาทิตย์สวยมาก มากถึงมากที่สุด ถึงจะถ่ายรูปไว้ได้ แต่เมมโมรี่ที่ดีที่สุดก็คือความทรงจำจากการได้เห็น ภาพภูเขาที่รายล้อมตัวตอนนี้ กับแสงสีส้มที่สะท้อนดวงอาทิตย์จากด้านหลังของเขาหลายๆลูกนั้นงดงามมาก เรายืนมองดูพระอาทิตย์จนลับขอบฟ้าไปโดยลืมตัวว่าคุณลุงรอเราอยู่ พอคิดได้ก็รีบกลับไปที่รถเลย คุณลุงบอกว่า"รออยู่แล้วไม่เป็นไรครับ" ประโยคนั้นทำเอาเราเขินนิดๆ รถส่งเราที่ตลาด เราไปหาอะไรกินรองท้องแล้วก็กลับไปพักผ่่อน ที่พักคือเงียบมาก เพราะทางหมู่บ้านมีการบอกไว้ล่วงหน้าแล้วว่าถ้าดึกเกินไปจะต้องมีการลงโทษตามสมควรและทุกคนก็ทำตามอย่างดีเยี่ยม ทำให้การพักผ่อนในวันนี้เป็นไปด้วยดี เช้าวันอาทิตย์ เราตื่นตั้งแต่ตี5 เพื่อออกมาสูดอากาศเย็นๆ และเตรียมตัวเพื่อกลับกรุงเทพ รถโดยสารจะจอดรอเราที่ปากทางของที่พัก รถออกเวลา 6:30 น. ดังนั้นเราจึงยังมีเวลาพอที่จะเดินสูดอากาศตอนเช้าในหมู่บ้านอีกหน่อย ยังคงมีหมอกเล็กน้อย เพราะข้างๆที่พักเรามีลำธารไหลผ่าน ทำให้อากาศยิ่งเย็นเข้าไปใหญ่ เดินไปเดินมาซักพัก ก็ถึงเวลาขึ้นรถแล้ว ใช้เวลานั่งรถจากหมู่บ้านถึงตลาด 2 ชั่วโมงเหมือนเดิมแต่ความรู้สึกคือเหมือนจะเร็วกว่าเดิม อาจจะเป็นเพราะยังไม่อยากกลับกรุงเทพด้วย พอถึงตลาดเราก็ขึ้นรถตู้ไปที่บขส.กาญจนบุรี แล้วก็กลับกรุงเทพ จบทริปแล้วนะคะ กับการเที่ยวปิล๊อกในเวลา 2 วัน 1 คืน จริงๆเราสามารถเที่ยวได้หมดแหละค่ะ ถ้ากายพร้อมใจพร้อม ค่าใช้จ่าย -รถตู้จากกทม.- บขส.กาญจนบุรี คนละ 100 บาท -ค่ารถจากบขส.กาญจนบุรี - ทองผาภูมิ คนละ 110 บาท -ค่ารถจากทองผาภูมิ - ตลาดทองผาภูมิ คนละ 20 บาท -ค่ารถสีเหลืองจากตลาด - หมู่บ้านอีต่อง คนละ 70 บาท -ค่ารถนำเที่ยวขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตก คนละ 50 บาท -ที่พักราคา 1000 บาท ชื่อว่า ''ปิล๊อกไมนิ่ง โฮมสเตย์" "ในส่วนที่เหลือเป็นค่ากิน และค่าใช้จ่ายต่างๆของแต่ละคนนะคะ" การเดินทางครั้งนี้ทำให้ได้รู้อะไรหลายๆอย่าง จริงๆไม่ว่าที่เที่ยวจะใกล้หรือไกล ถ้าเราตั้งใจที่จะไปยังไงแล้วหากไม่ได้อะไรติดตัวกลับ เราก็ยังได้ประสบการณ์และความทรงจำกับชีวิตเสมอ หากมีโอกาสเพื่อนๆก็ลองออกไปเที่ยวที่ปิล๊อกดูนะคะ สำหรับการรีวิวการเที่ยวในครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกนะคะ หากมีข้อผิดพลาดก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ 2/12/2562 “ภาพถ่ายทุกภาพถ่ายโดยผู้เขียนทั้งหมดค่ะ”