การเดินทาง เริ่มต้นเดินทางกันเลยครับ วันนี้ผู้เขียนจะพาขึ้นไปทัวร์ทางตอนเหนือสุดของประเทศอินเดียกันเลยทีเดียว ไปกันเป็นกลุ่มเพื่อน ชาย 2 หญิง 4 และมีเพื่อนแขกผู้ชายที่เป็นเจ้าถิ่นที่นั่นอีก 1 คน พวกเราทั้งหมด ล้วนเป็นนักศึกษาไทย ที่มาเรียนในอินเดีย จุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งนี้จึงเริ่มต้นที่อินเดียล่ะครับ แต่ถ้าท่านผู้อ่านต้องการบินมาจากไทย ก็สามารถบินมาได้โดยพักเครื่องที่นิวเดลีก่อน หลังจากนั้นก็บินตรงสู่สนามบินศรีนาการ์ได้เลยครับ ส่วนพวกเราเราเริ่มเดินทาง จากสถานีรถไฟ Howrah Junction ที่เมือง kolkakta อินเดีย ไปเมือง New Delhi ใช้เวลา 2 วันเต็มบนรถไฟ โดยปกติแล้วรถไฟสายนี้จะวิ่งอยู่ราว ๆ 27 ชั่วโมง แต่เรื่องรถไฟดีเลย์เป็นเรืองปกติของที่นี่อยู่แล้ว ซึ่งพวกเราคุ้นชินเป็นอย่างดี หลังจากนั่งรถไฟด้วยระยะเวลายาวนาน เราก็ต่อรถ Tourist bus ไปยังรัฐ Jammu and Kashmir ในระยะเวลาอีก 18 – 20 ชั่วโมง เรียกว่าเดินทางแบบใช้ระยะทางยาวนานมาก แล้วในที่สุดเราก็มาถึงที่หมายแรกของเราแก็คือ Dal Lake ข้อมูลทั่วไป Dal Lake เป็นทะเลสาบใน Srinagar เมืองหลวงฤดูร้อนของ Jammu and Kashmir ประเทศอินเดีย เป็นทะเลสาบในเมืองซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ในอาณาเขตของจัมมูและแคชเมียร์ เป็นส่วนสำคัญของการท่องเที่ยว และการพักผ่อนหย่อนใจในแคชเมียร์ และมีชื่อว่า "ทะเลสาบแห่งดอกไม้ "หรือ "อัญมณีในมงกุฎแห่งแคชเมียร์" หรือ "อัญมณีของศรีนาการ์" ทะเลสาบแห่งนี้ยังเป็นแหล่งสำคัญสำหรับการดำเนินการเชิงพานิชญ์ในการเก็บเกี่ยวพืชและการประมง ทะเลสาบครอบคลุมพื้นที่ 18 ตารางกิโลเมตร และเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ชุ่มน้ำตามธรรมชาติซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 21.1 ตารางกิโลเมตร รวมถึงสวนลอยน้ำ สวนลอยน้ำที่รู้จักกันในชื่อ "ราด" ใน แคชเมียร์ เบ่งบานด้วยดอกบัวในช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม อาหาร ที่พัก “บ้านเรือ” เป็นสิ่งที่ดึงดูดใจและน่าประทับใจในแคชเมียร์มาเนิ่นนาน โดยมีบริการบ้านลอยน้ำให้นักท่องเที่ยวพัก น่าสนใจที่รู้ว่า “บ้านเรือ” คือ สิ่งที่หลงเหลือมาจากยุคล่าอาณานิคมของอังกฤษ หากย้อนอดีตกลับไปเมื่อร้อยกว่าปีก่อน ด้วยเหตุที่ศรีนาคาเป็นเมืองที่มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี และมีภูมิประเทศที่เป็นธรรมชาติที่สวยงาม คล้ายคลึงกับเมืองสวย ๆ ในยุโรป เมื่ออังกฤษเข้าปกครองอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีพื้นที่ส่วนใหญ่แห้งแล้งและอากาศร้อนมาก ถึงมากที่สุด คนอังกฤษในพื้นที่อื่นของอินเดีย มักจะหนีอากาศร้อนมาพักผ่อนกันที่เมืองนี้มากมาย ทางการอินเดียในตอนนั้น ไม่อนุญาตให้คนต่างชาติซื้อที่ดินปลูกบ้านกันที่นี่ ชาวอังกฤษจึงได้สร้างบ้านเป็นเรือลอยน้ำที่สุดแสนหรูหรา ที่มีทุกอย่างภายในเหมือนบ้านหลังหนึ่ง โดยไม่ต้องลงหลักปักเสาเข็มให้ผิดกติกา ใช้วิธีลอยเรือในลำน้ำ เพื่อการพักผ่อน นอนเอกเขนกจิบชายามบ่ายอยู่ในน้ำรอบ ๆ ทะเลสาบเมื่อหมดยุคล่าอาณานิคม บ้านเรือก็ยังคงอยู่ และได้ถูกดัดแปลงมาเป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว จนกลายเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของแคชเมียร์ และสวยมากจนพวกเราหลายคนทำตาลุกวาว กับความหรูหราที่ลอยน้ำที่ได้เห็นนี่หละครับ ส่วนราคานั้นก็มีให้ท่านผู้อ่านเลือกได้ตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักหมื่นแล้วแต่ความสะดวกของท่านเลย แต่ถ้าหากบ้านเรือเต็มหมดทุกที่ ก็มีโรงแรมให้ท่านเลือกพักได้มากมายหลายราคาเช่นกัน อาหารที่นี่ก็จะมีร้านอยู่บนเรือ หรือบนฝั่งก็มีหลายร้าน อาหารหลากหลาย รสชาติจะคล้ายกันกับอาหารอินเดียปกติ แต่จะต่างกันที่กลิ่นของเครื่องเทศที่นี่ จะไม่รุนแรงเท่ากับอาหารอินเดียปกติเท่านั้นเอง ผู้เขียนแนะนำให้ท่านกินปลาเทราซ์ สด ๆ ที่จับได้จากทะเลสาบแห่งนี้โดยมีให้เลือกหลายเมนู ทั้งบร์บีคิว แกงกะหรี่ เป็นต้น แต่ถ้าท่านต้องการทานอาหารสัญชาติอื่น ที่นี่ก็มีให้เลือกหลากหลายเช่นกัน ทะเลสาบแห่งนี้มีเสน่ห์และความคลาสสิคในตัวเอง เพราะมีบ้านเรือตั้งเรียงรายอยู่โดยรอบ อีกทั้งเป็นชุมชนที่มีความเรียบง่าย และงดงามทั้งกลางวัน และกลางคืน ทะเลสาบกว้างใหญ่แห่งนี้ได้รับการโอบล้อมด้วยภูเขาสูง และอยู่ใจกลางเมืองศรีนาการ์ . มีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย สุขสงบ บรรยากาศสดชื่นเป็นอย่างมาก ล่องเรือหารัก เปลี่ยนมาชมวิว ร่องเรือชิคาราในทะเลสาบการนั่งเรือชิคาราเที่ยวควรต่อรองให้เรียบร้อย ไม่งั้นจะจ่ายแพงมาก บรรยากาศช่วงค่ำ ๆ ดีมาก ควรไปประมาณ 5-6 โมงเย็นที่พระอาทิตย์กำลังตก ถ่ายรูปสวยมาก แต่เรือที่มาขายของ Hard sell มากต้องต่อรองราคาดี ๆ นะครับ แม้จะมาในเดือนเมษา แต่อากาศที่นี่กำลังดี สงบ เงียบ เป็นธรรมชาติ หนาวนิดๆ ไม่ถึงกับทรมาน คนอัธยาศัยดีและไม่น่ากลัว ดาลเลคเป็นทะเลสาบที่มีเสน่ห์ มีสวนลอย ตลาดน้ำตอนเช้า การเดินเล่นรอบ ๆ ทะเลสาบทำให้ได้สัมผัสชีวิตผู้คน น่ารักมาก การทำกสิกรรมของผู้คนที่อาศัยอยู่ในนั้น เครดิตภาพทั้งหมดโดยผู้เขียน Pramet Klangmuenwai