.... ปีใหม่นี้มีที่เที่ยวกันหรือยังคะ..... สวัสดีค่ะทุกคน เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เรามีโอกาสได้ไปเยือนดอยปู่หมื่น อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่มา เดี๋ยวขอเล่าย้อนก่อนนะคะ ว่าทริปนี้เกิดจากอะไร แล้วทำไมถึงเลือกไปดอยปู่หมื่น.... ทริปนี้เป็นอะไรที่ปุบปับมาก ๆ เลยค่ะ อยู่ ๆ เราก็นึกอยากพักผ่อนขึ้นมา อยากไปเที่ยวนั่นล่ะ ก็เลยนึกถึงเชียงใหม่ขึ้นมา เนื่องจากไปง่ายและเราก็ไม่มีรถส่วนตัว แต่อย่างที่รู้กัน เมื่อนึกถึงเชียงใหม่ ทุกคนจะนึกถึงแหล่งท่องเที่ยวตามสมัยนิยมที่เคยได้ยินชื่อกันบ่อย ๆ แต่อยู่ ๆ เราก็นึกอยากจะไปในที่ที่คนไม่ค่อยไปกัน เพียงเพราะอยากเปิดประสบการณ์ในที่ใหม่ ๆ เราค้นหาสถานที่ในกูเกิลไปเรื่อย ๆ และการค้นหาจบลงที่ "ดอยปู่หมื่น" ด้วยคำเคลมที่ว่า "ต้องตั้งใจมา" เราจึงตัดสินใจว่า ที่นี่ล่ะ....ที่ฉันจะไป โดยเราได้หลอกล่อเพื่อนร่วมทริปมาได้ 1 คน และทำการจองที่พักเพียง 4 วันก่อนวันเข้าพัก โชคดีที่ที่พักไม่เต็ม...... เราจะขอเล่าเรื่องราวของดอยปู่หมื่นแบบคร่าว ๆ ให้ทุกคนอ่านกันก่อน ดอยปู่หมื่นเป็นดอยเล็กๆ สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาน 1,400 เมตร ก็คือสูงนั่นล่ะ เวลาหมอกลงจะเห็นทะเลหมอกสวยงามมากไม่แพ้แหล่งชื่อดังเลยค่ะ อยู่ในเขตอำเภอแม่อาย ซึ่งเป็นอำเภอที่อยู่เหนือสุดของจังหวัดเชียงใหม่ ติดชายแดนไทย-พม่าค่ะ มาถึงตอนนี้ ทุกคนน่าจะสงสัยนะคะว่า ทำไมดอยนี้ถึงชื่อว่าดอยปู่หมื่น เราก็สงสัยเหมือนกันค่ะ เราจึงได้ไปหาข้อมูลและทำการถามกับผู้นำชุมชนโดยตรง ได้ความตรงกันว่า แรกเริ่มผู้บุกเบิกดอยนี้ชื่อว่า ปู่หมื่นหรือนายแตงเต้า เป็นผู้นำชุมชนรุ่นแรก ชาวบ้านจึงได้เรียกดอยนี้ต่อ ๆ กันมาว่า "ดอยปู่หมื่น" และผู้นำชุมชนรุ่นถัดมาก็จะเป็นเชื้อสายของปู่หมื่น สืบทอดการดูแลดอยนี้กันต่อมาเรื่อย ๆ จากรุ่นสู่รุ่น ชาวบ้านที่อาศัยอยู่เป็นชาวเขาเชื้อสายลาหู่ อพยพมาจากประเทศตอนเหนือ มีอาชีพเลี้ยงสัตว์ ปลูกชาและกาแฟ รวมไปถึงเค้ามีการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์จากชาและกาแฟด้วยวิธีแบบดั้งเดิมค่ะ โดยชาที่ปลูกเป็นชาอัสสัม ซึ่งเป็นชาอินเดียที่จะปลูกร่วมกับได้รับการแนะนำและพระราชทานมาจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ให้ชาวบ้านหันมาปลูกชาแทนการปลูกฝิ่น ส่วนกาแฟที่ปลูกเป็นกาแฟพันธุ์อาราบิก้า ทั้งสองสิ่งนี้เป็นรายได้หลักเลี้ยงคนในชุมชนมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พอหอมปากหอมคอไปแล้วนะคะกับเรื่องราวของดอยปู่หมื่น ตอนนี้เพื่อน ๆ ก็น่าจะรู้จักดอยปู่หมื่นกันบ้างแล้ว เดี๋ยวเราจะเล่าเรื่องราวที่เราได้ไปเจอมา ตั้งแต่ตัวเมืองเชียงใหม่จนสู่ยอดดอยผ้าห่มปกเลยค่ะ แต่เอ๊ะ...เมื่อกี้พูดถึงดอยปู่หมื่น แล้วไปโผล่ดอยผ้าห่มปกได้ยังไงนะ มาดูกันค่ะ จากตัวเมืองเชียงใหม่ เราใช้บริการรถแดงจากขนส่งช้างเผือก ใช้เวลา 3 ชั่วโมง มาลงที่ตัวอำเภอฝาง ค่อนข้างนานพอสมควร เนื่องด้วยระยะทางประมาน 150 กม. และเป็นทางบนดอย!! เรากับเพื่อนลงรถแดงที่หน้าโลตัสอำเภอฝาง หลังจากนั้นจะมีรถจากชุมชนมารับและพาเราไปสู่อำเภอแม่อาย ก่อนขึ้นสู่ดอยปู่หมื่น แอบบอกเพิ่มเติมนะคะ ว่าดอยนี้จะไม่อนุญาตให้นำรถส่วนตัวขึ้นมา เนื่องจากทางชันและต้องชำนาญทางพอสมควร การที่ไม่อนุญาตให้นำรถขึ้นมานั้นเป็นการอนุรักษ์วิถีชีวิตและธรรมชาติด้วยค่ะ สัตว์ป่าไม่แตกตื่น ชาวบ้านมีรายได้จากการนำรถลงมารับนักท่องเที่ยว เราว่าเป็นเรื่องดีเลยทีเดียว เมื่อรถจากชุมชนมารับเรา เค้าก็จะพาเราขับขึ้นไปตามหุบเขาแคบ ๆ ทางลาดยางสลับกับทางลูกรังที่เราว่าขับยากพอสมควร รถใช้เกียร์ต่ำ ค่อย ๆ ขับขึ้นเขาไปอย่างปลอดภัย พวกเรานั่งกระบะหลัง ลมเย็นปะทะตัวเป็นระยะ ๆ สักพักรถก็พาเรามาสู่โฮมสเตย์ ผ่านบ้านของชาวลาหู่หลายหลังคาเรือน ได้เห็นโรงตากชาและไร่ชา ที่พักบนดอยปู่หมื่นเป็นลักษณะของโฮมสเตย์ เป็นบ้านของชาวบ้านที่เราเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ด้วย เค้าอยู่ยังไง เค้ากินอะไร เราก็กินกับเค้าด้วย และมีอีกที่ที่เปิดสำหรับบริการนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ มีสิ่งอำนวยความสะดวก สร้างทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยวมากขึ้น ชื่อว่า A ma te le homestay & farmstay เป็นที่พักของผู้นำชุมชนเอง มีลักษณะเหมือนบ้าน แบ่งเป็น 5 ห้องพัก แบบบ้าน ๆ ซึ่งแต่ละห้องจะมีห้องน้ำส่วนตัว ที่พักแห่งนี้ตั้งอยู่บนสุดของดอย มองลงมาจะเห็นหลังคาของหมู่บ้านชาวลาหู่ และเห็นตัวอำเภอแม่อาย พวกเราจองที่นี่ไปค่ะ ทางโฮมสเตย์ก็จะมีแพคเกจให้เลือกตามความสนใจของเรา โดยเราเลือกแพคเกจ "เดินป่า เก็บชา ล่าหมอก แบบ 3 วัน 2 คืน" แพคเกจนี้จะอาศัยความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขานิดนึงค่ะ รายละเอียดก็คือ เราจะได้เดินป่าโดยเดินทางดอยปู่หมื่น สู่...ยอดดอยผ้าห่มปก ที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติผ้าห่มปก ซึ่งเราก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าสามารถเดินไปได้ เราก็แปลกใจนิด ๆ ไกลจัง แต่ก็น่าสนุกดี และได้ลองเก็บยอดชาอัสสัมด้วยค่ะ นอกจากนั้นเรายังได้ทำกับข้าว แล้วล้อมวงกินข้าวกันพร้อมกันกับนักท่องเที่ยวที่มาพักพร้อมกัน ได้ลองกินใบชาสด ๆ ที่อยู่ในยำปลากระป๋อง พวกเราสนิทกันไวเหมือนรู้จักกันมาเป็นสิบ ๆ ปี น่าประหลาดใจเหมือนกัน แต่ก็คงเพราะเป็นคนที่มีความสนใจคล้าย ๆ กัน มาอยู่ด้วยกัน เลยสนิทกันไว ในส่วนของการเดินป่า จะมีไกด์ท้องถิ่นเดินนำทางค่ะ เป็นเหมือนพรานให้เรา พร้อมกับน้องหมาของพรานอีก 2 ตัว ทางที่เราเดินเป็นเขาและป่ารกค่ะ จากเขาลูกที่หนึ่ง.... สู่ลูกที่สอง..... สู่ลูกที่สาม..... ไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก (แต่เหนื่อยจริง ๆ) เส้นทางที่เราเดินน่าจะเป็นเส้นชาวบ้านใช้เดินลัดป่าและหาของป่าค่ะ ระยะแรกนายพรานพาเราเดินเข้าสู่กิ่วลม ระยะทางประมาน 4 กิโลเมตร เพื่อพักทานข้าวกลางวันที่ทางโฮมสเตย์ห่อมาให้ หลังจากนั้นเราเดินระยะสองสู่ยอดดอยผ้าห่มปกค่ะ เป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่อุทยานจัดไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เดินศึกษาธรรมชาติ ระยะทางไปกลับประมาณ 7 กิโลเมตร ยอมรับว่าเราเหนื่อยกันมาก ๆ แต่พอได้ไปถึงยอดเขา เราหายเหนื่อยเลย มันสวยและมันสูงมากๆ ถึงเราจะไม่เห็นหมอก เพราะเราไปถึงยอดตอนสี่โมงเย็น แต่มองเห็นยอดดอยอ่างขาง มองเห็นเทือกเขาฝั่งพม่า ทัศนียภาพสดใสมาก ๆ มองเห็นไปไกลสุดลูกหูลูกตา หลังจากดื่มด่ำกับวิวจนพอใจแล้ว เราก็เดินกลับถึงกิ่วลมประมาณหกโมงเย็น ซึ่งมืดเกินไปที่เราจะเดินกลับดอยปู่หมื่นด้วยเส้นทางเดิม เราจึงวานรถจากโฮมสเตย์ขึ้นมารับที่กิ่วลม วันนั้นเราเดินป่ารวมระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร!!! ใครที่จองแพคเกจนี้ อย่างที่เราบอกต้องมีความมั่นใจในกล้ามขาและระบบหายใจนิดนึงค่ะ ไม่งั้นอาจจะหอบได้ นับเป็นวันที่เราสนุกปนเหนื่อย และได้รับประสบการณ์ที่ดีค่ะ การใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ในระยะเวลา 3 วัน 2 คืน อาจจะดูสั้นและเหนื่อย แต่เรากลับมีความสุขมาก ๆ กับการปล่อยชีวิตให้อยู่กับใจเราจริง ๆ Social Media ไม่สำคัญเลย ความสุขหาได้จากสิ่งรอบตัว ป่า ภูเขา และหมูกระทะ เป็นความสุขที่หาไม่ได้จากสังคมในเมือง ชาวบ้านอยู่กันแบบพึ่งพาอาศัยกันจริง ๆ ผู้นำชุมชนพึ่งพาชาวบ้าน ชาวบ้านพึ่งพาผู้นำชุมชน ทำเอาเราอยากลาออกจากการเป็นตัวเอง แล้วย้ายไปอยู่บนดอยเลยค่ะ ความสุข = หมูกระทะ และ ป่าเขาสองภาพสุดท้ายแอบแถมภาพที่เราวาด ที่ได้แรงบันดาลใจจากการไปที่นี่มาให้ชมกันค่ะ ติดต่อโฮมสเตย์ A ma te le สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และจองห้องพัก ได้ที่เฟซบุ๊ก"ดอยปู่หมื่น ลาหู่ โฮมสเตย์" ค่ะ https://web.facebook.com/DoiPumeunLahuHomeStay (เครดิตภาพจาก นักเขียน, A ma tele homestay ) วันลาเหลือใช่ไหมหรืออยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !