รีเซต

8 เมืองไร้รถยนต์ ต้อนรับ วัน Car Free Day อากาศดี เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

8 เมืองไร้รถยนต์ ต้อนรับ วัน Car Free Day อากาศดี เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
SummerB
22 กันยายน 2564 ( 13:00 )
1.8K

       เคยสงสัยบ้างมั้ยว่าบนโลกนี้จะมีสักกี่เมืองกันที่สามารถใช้ชีวิตอยู่โดยไม่มีรถยนต์ขับ และพวกเขาเดินทางกันได้อย่างไร? วันนี้เราจะพาทุกคนไปชม 8 เมืองไร้รถยนต์ ต้อนรับ วัน Car Free Day ซึ่งตรงกับวันที่ 22 กันยายน ของทุกปี เชื่อว่าเมืองเหล่านี้จะต้องเมืองในอุดมคติที่ใครๆ ก็อยากใช้ชีวิตอยู่ในเมืองสวย อากาศดี และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแน่นอน

เที่ยวแบบรักโลกที่ เมืองไร้รถยนต์ ใน วัน Car Free Day

 

1. Venice

Italy

 

 

       ถ้าพูดถึงเมืองไร้รถยนต์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกก็คงต้องเป็น เวนิส (Venice) อย่างไม่ต้องสงสัย เนื่องจากตั้งอยู่ในบริเวณของ ทะเลอาเดรียติก (Adriatic Sea) ที่นี่จึงถูกขนานนามว่าเป็น “ราชินีแห่งทะเลอาเดรียติก” (The Queen of the Adriatic) หรือ “เมืองแห่งสายน้ำ” (The City of Water) เพราะในเมืองมีคูคลองมากมายถึง 150 สาย และเดินทางสันจรด้วยเรือเป็นหลัก จึงไม่แปลกใจเลยหากเราจะไม่เห็นรถยนต์สักคนนึงในเมืองนี้ นอกเหนือจากนั้นแล้ว ที่นี่ยังมีศิลปะและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตึกอาคารสีสันสดใสตัดกับน้ำทะเลสีฟ้า เทศกาลเวนิสคาร์นิวัล (Venice Carnival) หรือ เรือกอนโดลา (Gondola) สัญลักษณ์ของเวนิสที่ใครๆ ก็อยากลองไปล่องเรือชมเมืองทรงเสน่ห์แห่งนี้สักครั้งในชีวิต

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/59uu1hbmaSUxXjKJ8 

==========

 

2. Hydra

Greece

 

 

       เกาะไฮดร้า (Hydra) ตั้งอยู่ระหว่าง อ่าวซาโรนิค (Saronic Gulfs) และ อ่าวอาร์โกลิค (Argolic Gulf) ใน ทะเลอีเจียน (Aegean Sea) ประเทศกรีซ ถ้ามองจากผิวเผินอาจจะคิดว่าเมืองแห่งนี้ไม่ได้ต่างอะไรจากเมืองอื่นๆ ในกรีซที่มักจะปลูกอาคารบ้านเรือนริมทะเลอย่างที่เราเห็นโดยทั่วไป แต่สิ่งที่ทำให้ไฮดร้าแตกต่างจากเมืองอื่นๆ คือ เราจะไม่เห็นอาคารสูงๆ ในเมืองเลย เพราะจะทำให้บดบังทัศนียภาพอันงดงามของเมือง และด้วยถนนหนทางที่ค่อนข้างคับแคบ จึงทำให้ที่นี่ไม่มีรถยนต์ขับเลยสักคันค่ะ เรียกว่าเป็นการลดทั้งมลภาวะทางอากาศและเสียงไปได้มากเลยทีเดียว

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/bby3nu4q2LL33nKo8 

==========

 

3. Giethoorn

Netherlands

 

Hung Chung Chih / Shutterstock.com

 

      แม้ กีธูร์น (Giethoorn) จะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในจังหวัดโอเฟอไรส์เซิล (Overijssel) ประเทศเนเธอร์แลนด์ แต่ก็มากล้นไปด้วยเสน่ห์ของหมู่บ้านอันเงียบสงบท่ามกลางสายน้ำ โดยมีคูคลองเป็นเส้นทางสันจรหลักของที่นี่ค่ะ เราจะได้นั่งเรือลัดเลาะไปตามลำน้ำ ชมความน่ารักของกระท่อมสไตล์ตะวันตกหลังน้อยใหญ่ ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติอันร่มรื่นตลอดทาง อีกทั้งยังมีสะพานทอดผ่านระหว่างคลองเป็นช่วงๆ มองดูแล้วก็คล้ายกับเมืองในนิทานเลยค่ะ และแน่นอนว่าเรือที่ใช้กันจะต้องเป็นเรือที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการติดมอร์เตอร์ไฟฟ้า จึงทำให้การเดินทางมีความเงียบสงบและไม่สร้างมลพิษ

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ ที่เที่ยวสวย เนเธอร์แลนด์ กีธูร์น Giethoorn เมืองอากาศดี หมู่บ้านไร้ถนน ไม่มีรถยนต์แม้แต่คันเดียว

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/kBxEuREAEHrr6CWz5 

==========

 

4. Zermatt

Switzerland

 

 

       ต่อมาคือ เซอร์แมท (Zermatt) เมืองเล็กๆ ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่มาพร้อมกับบ้านเรือนสไตล์สวิสแบบดั้งเดิม ล้อมรอบไปด้วยขุนเขาและป่าสนอันยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะตรงจุดชมวิว Matterhorn ยอดเขาทรงพีรามิดซึ่งเป็นไฮไลท์สุดอลังของที่นี่ค่ะ ที่สำคัญคือเมืองแห่งนี้ไม่ใช้รถยนต์ที่ขับเคลื่อนโดยน้ำมันเครื่อง แต่จะใช้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น ซึ่งก็หาได้น้อยมากๆ เพราะส่วนใหญ่ผู้คนจะเดินทางด้วยเท้ากัน และมีเส้นทางคมนาคมหลักอีกแห่งคือเส้นทางรถไฟ โดยจะมี Bahnhof strasse เป็นถนนสายหลักของเมืองที่ทอดตรงมาจากสถานีรถไฟ ให้พวกเราไปเดินเล่น ช้อปปิ้ง ชมเมืองกันแบบชิลๆ ได้

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ 11 เมืองท่องเที่ยว สวิตเซอร์แลนด์ เมืองในฝันที่ สวิส ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องไปสัมผัส

 

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/aHh9mxh9rd5kiHiE8 

==========

 

5. Fes 

Morocco

 

 

       เมืองเฟส (Fes or Fez) เป็นเมืองหลวงของแคว้น Fès-Meknès ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศโมรอคโค  มีชื่อเสียงในเครื่องของการฟอกหนังและการย้อมสีหนังแบบโบราณ ความร่ำรวยในวัฒนธรรมและการใช้ชีวิตแบบดั้งเดิมทำให้ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก และถูกขนานนามให้เป็น “กรุงเอเธนส์แห่งแอฟริกา” (Athens of Africa) นอกจากนี้ยังเป็นเมืองปลอดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย เนื่องจากในเมืองเต็มไปด้วยตรอกซอกซอยมากมาย และไม่มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ ส่วนใหญ่ผู้คนจึงจะใช้การเดินเท้าหรือขี่จักรยานเป็นหลักค่ะ

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/GyWGGn4k4bmKsKx77 

==========

 

6. Lamu Town

Kenya

 

 

        ลามู (Lamu Town) เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ตรงชายฝั่งทะเลตะวันออกใน หมู่เกาะลามู ประเทศเคนย่า ประวัติศาสตร์ของเมืองนี้มีความเป็นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1370 ซึ่งเป็นที่ตั้งรกรากของชาวสวาฮีลี (Swahili) มาก่อน ด้วยเหตุนี้ที่นี่จึงเป็นอีกเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 2001 ในการมาท่องเที่ยวที่นี่ สิ่งหนึ่งที่ทุกคนจะต้องทำใจให้ชินคือ บนถนนของเมืองลามูไม่ได้มีรถยนต์เหมือนเมืองอื่นๆ แต่กลับเต็มไปด้วยฝูงลา ซึ่งเป็นยานพาหนะหลักของที่นี่นั่นเองค่ะ

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/6Y2L7EEEbkJxBuJn8 

==========

 

7. Mackinac Island

Michigan USA

 

 

       ไปต่อกันที่ เกาะแม็กคิแน็ก (Mackinac Island) เกาะในฝันของใครหลายๆ คน ตั้งอยู่ตรงกลาง ทะเลสาบฮูรอน (Lake Huron) รัฐมิชิแกน (Michigan) สหรัฐอเมริกา ที่นี่เป็นเกาะเล็กๆ อันเงียบสงบ มีประชากรเพียง 500 ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านเรือนแบบดั้งเดิมที่ยังคงอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีกฏเหล็กที่ใช้อย่างเข้มงวดตั้งแต่ปี ค.ศ. 1989 คือ ห้ามใช้รถยนต์เดินทางในเมืองอย่างเด็ดขาดค่ะ ด้วยเหตุนี้ผู้คนส่วนใหญ่จึงจะเดินทางด้วยเท้า ขี่จักรยาน และนั่งรถม้าเป็นหลัก 

อ่านรีวิวเต็มๆ ที่ สโลว์ไลฟ์ในอเมริกา เกาะปลอดรถยนต์ Mackinac Island ชิลล์กายสบายปอด

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/rksDLWaq3ZSEdMsF7 

==========

 

8. La Cumbrecita

Argentina

 

 

       สุดท้ายคือ ลา คัมเบรชิต้า (La Cumbrecita) หมู่บ้านเล็กๆ เงียบสงบสไตล์อัลไพน์ใน จังหวัดคอร์โดบา (Cordoba) ประเทศอาร์เจนติน่า ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติและขุนเขาอันงดงาม หมู่บ้านแห่งนี้จัดอยู่ในหมวดหมู่การท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่เข้มงวด จึงไม่อนุญาตให้นำรถยนต์เข้ามาเลยแม้แต่คันเดียว ด้วยเหตุนี้นักท่องเที่ยวจึงต้องจอดรถไว้ที่หน้าหมู่บ้าน และเดินทางด้วยเท้าเท่านั้นเพื่อไม่เป็นการทำลายธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของที่นี่ค่ะ

 

พิกัด : https://goo.gl/maps/GeR7NS8qng4tfJ5z9 



       เป็นอย่างไรบ้างค่ะสำหรับ 8 เมืองไร้รถยนต์ จากทั่วโลก เห็นแล้วก็เริ่มอยากให้หลายๆ เมืองบนโลกนี้สามารถเดินทางโดยปราศจากรถยนต์ได้จริงๆ ไม่แน่ว่าอากาศและสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวเราอาจจะดีขึ้นอย่างรวดเร็วเลยก็ได้ วันนี้วัน Car Free Day ก็อย่าลืมรักโลก ใช้รถให้น้อยลงด้วยนะคะ




ตามติดเทรนด์เที่ยว อัพเดทที่พักสวย
แชร์ทริปสุดชิล โพสต์ภาพสุดปัง ของคุณได้แล้วที่ แอปทรูไอดี
คลิกเลย >> TrueID Travel Community <<