สวัสดีครับท่านผู้อ่านทั้งหลาย พบกันอีกแล้วนะครับสำหรับนักอ่าน นักเขียนสายบุญทั้งหลายวันนี้มีเรื่องของวัด ๆ เช่นเคยที่ผู้เขียนอยากนำมาเสนอวัดที่ว่านี้สวยงามมาก ๆ ถึงมาสุด ๆ ...อิอิยิ่งวันนี้ผู้เขียนเดินทางมาแวะบรรยากาศ แสง เงา ในการบันทึกภาพเหมาะเจาะเข้ากัน....ภายถ่ายออกมาสวยงามมากจึงอยากเอามานำเสนอเผื่อท่านมีโอกาสผ่านไป ผ่านมาจะได้แวะชมความงามกันนะครับ วัดที่ว่านี้คือ “วัดป่าตาล” ตั้งอยู่ตำบลม่วงน้อย อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน การเดินทางสามารถใช้ถนนสายหลักเส้นลำพูน-ลี้ วัดอยู่ติดถนนด้านขวาหากท่านเดินทางมาจากตัวเมือง มาดูกันครับว่าวัดนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง จุดที่หนึ่ง คือซุ้มประตูทองครับเป็นซุ้มประตูขนาดใหญ่ด้านบนซ้าย-ขวาจะมียอดเหมือนพระเจดีย์ห้าชั้นพร้อยฉัตรสีทองตรงปลายยอด ตรงกลางก่อนถึงยอดฉัตรจะมีการทำเป็นซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปแต่ละชั้น และยอดบนสุดจะมีฉัตรสีทองสวยงามถัดลงมาบนบริเวณก่อนถึงฐานซุ้มหากหันหน้าเข้ามายังซุ้ม (หันหลังให้ถนน) ฝั่งซ้ายจะมีรูปปั้นราชสีห์หัวช้างและเทพยืนเด่นเป็นสง่าโดยมือหนึ่งถือพระขรรค์อีกมือหนึ่งถือดอกบัว และมีรูปปั้นของจ้าวย่านางพญานาคิณีศรีปมทุมมาประทับนั่งอยู่บนพญานาคคดโดยมีนาคเก้าตัวแผ่พังพานอยู่ ทางด้านขวาจะมีรูปปั้นราชสีห์ละเทพพนม (ท่อนบนเป็นเทพท่อนล่างเป็นนาค) เด่นเป็นสง่า และมีรูปปั้นของพ่อปูศรีสุทโธพญานาคราชนั่งบนนาคคดโดยมีนาคเก้าตัวแผ่พังพานอยู่เด่นสง่าสวยงาม เช่นกัน จุดที่สอง พระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์สีทองประดิษฐานอยู่ท่านสามารถเข้าไปกราบขอพรได้ (พระพุทธรูปปางมารวิชัยหรือเรียกอีกอย่างว่าปางสะดุ้งมารหรือปางชนะมารเป็นพระพุทธรูปที่ถอดแบบมาจากพุทธลักษณะในขณะที่พระพุทธเจ้าเผชิญกับพญามารก่อนตรัสรู้บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณโดยมีรูปปั้นเทวดา (เทพนม) เรียงรายอยู่บริเวณด้านหน้าก่อนซึ่งท่านสามารถเข้าไปกราบขอพรได้เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตน และครอบครัว จุดที่สาม พระร่วงโรจนฤิทธิ์เป็นพระพุทธรุปปางห้ามญาติทำด้วยทองเหลือง ประทับยืนบนฐานดอกบัวสีทอง และมีโลหะทองเหลืองรองรับพุทธลักษณะจะมีพระพักตร์ตามยาว พระหนุเสี้ยม นิ้วพระหัตถ์ พระบาทไม่เสมอกัน ห้อยพระหัตถ์ซ้ายลงข้างพระวรกาย แบฝ่าพระหัตถ์ขวายกตั้งขึ้น ยื่นไปข้างหน้า มีพระอุทรพลุ้ย ผู้เขียนทราบว่าจากประวัติพระร่วงโรจนฤทธิ์นี้ได้มีการเริ่มสร้างในสมัย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 (องค์นี้เป็นองค์จำลอง) หากมาแล้วเป็นอีกจุดหนึ่งนะครับที่พลาดไม่ได้ในการเข้าไปกราบสักการะขอพร จุดที่สี่ ประตูโขงโบราณ ผู้เขียนลืมบอกไปครับวัดนี้มีการสร้างมาตั้งแต่ พ.ศ.2219 หลายร้อยปีเลยที่เดียวถือเป็นอีกหนึ่งวัดที่มีความเก่าแก่ในจังหวัดลำพูน จากล่องลอยพอจะมีเค้าอยู่บ้างบางจุดที่เป็นของเก่า เช่นประตูโขงโบราณมีการตกแต่งด้วยปูนปั้นประดับลวดลายนูนต่ำสวยงามด้านบนจะเป็นเหมือยอดเจดีย์ 5 ชั้น ปลายยอดจะเป็นฉัตรสีทอง (ผู้เขียนคาดว่าปลายยอดฉัตรน่าจะมีการบูรณะใหม่) ด้านหน้าจะมีบรรไดขึ้นเข้าผ่านประตูโขงพื่อเข้าไปสู่พระวิหารบันไดทางขึ้นซ้าย-ขวาจะมีรูปมอมสองตัวขนาบข้างดูแล้วแปลกสวยงามไปอีกแบบ จุดที่ห้า พระอุโบสถประจำวัดใช้ประกอบสังฆกรรม เช่น อุปสมบท สวดปาฏิโมกข์ เป็นต้น ด้านหน้าพระอุโบสถจะมีราชสีห์สองตัวสีทองยืนเฝ้าทางเข้าเด่นสง่าน่าเกรงขาม จุดที่หก พระเจดีย์จะเป็นเจดีย์องค์สีขาวโดยรอบสี่ทิศจะมีซุ้มประตูหรือเรียกว่าโขงเป็นทางเข้าอยู่สี่ทิศ พระเจดีย์องค์นี้จะเป็นเจดีย์สีขาวซึ่งมีความเก่าแก่โดยบริเวณด้านบนเจดีย์จะเป็นรูปทรงเหมือนระฆังคว่ำปลายยอดสุดจะมีฉัตรสีทอง รอบพระเจดีย์จะมีพระธาตุ/พระเจดีย์จำลอง 12 นักษัตร เช่น ปีระกา ได้แก่พระธาตุเจ้าหริภุญชัย ปีชวด พระธาตุศรีจอมทอง ปีฉลู พระธาตุลำปางหลวง เป็นต้น ถัดมาอีกด้านหนึ่งของพระเจดีย์จะมีพระพุทธรูปประจำวันเกิดต่าง ๆ ประดิษฐานอยู่ เช่น วันเสาร์ปางนาคปก วันอาทิตย์ปางถวายเนตร วันจันทร์ปางห้ามญาติ เป็นต้น ตรงนี้ท่านสามารถเข้ามากราบขอพรได้ครับเพื่อความเป็นสิริมงคล (ขอบอกตรงนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก)... จุดที่เจ็ด พระวิหารพระวิหารประจำวัดพระวิหารแห่งนี้ก่อนจะขึ้นไปกราบพระประธานบนพระวิหารจะมีรูปปั้นพญานาคขดสีเงินอยู่ตรงบันไดทางขึ้นสองฝั่งซ้าย-ขวาของพระวิหาร หากท่านสังเกตดีดีจะพบว่าในวัดต่าง ๆ เหตุที่มีการปั้นรูปพญานาคไว้ตามพระวิหาร พระอุโบสถ หรือแม้แต่ศาลา เสนาสนะต่าง ๆ ภายในวัดก็อาจเป็นเพราะในพุทธประวัติพบว่านาคมีความเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าในบางช่วงตอน เช่น ตอนที่ทรงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์พระองค์ได้ทรงเสวยวิมุติสุขเป็นเวลา 7 วัน โดยมีพระยามุจรินท์ พญานาคทรงแผ่พังพานป้องกันแดด ฝน มิได้ตกมากระทบพระวรกายของพระองค์ เป็นต้นหรืออีกหลาย ๆ ช่วงตอนพญานาคจะมีความเกี่ยวข้องกับพุทธประวัติ เช่น ตำนานของการบวชนาค เป็นต้น จึงน่าจะถือว่านาคมีความเกี่ยวข้อง และอยู่คู่กับพระพุทธศาสนามาเนิ่นนาน นอกจากนี้สองฝั่งซ้าย-ขวาจะมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ด้านซ้ายจะมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์สีทอง ด้านขวาจะมีพระพุทธรูปปางเปิดโลกประดิษฐานอยู่สวยงามมาก ท่านสามารถขึ้นไปกราบพระประธานบนพระวิหารได้นะครับ จุดที่แปด ปฏิมากรรมนูนต่ำที่บอกเล่าเรื่องราวในพุทธประวัติตามกำแพงด้านหน้า เช่น ตอนที่พระพุทธเจ้าปรินิพานใต้ต้นสาระ ตอนที่เจ้าชายสิทธัตถะประสูติและได้กล่าวอาสภิวาจว่า "เราเป็นผู้เลิศของโลก เป็นผู้ใหญ่ที่สุดของโลก เป็นผู้ประเสริฐที่สุดของโลก นี้เป็นการเกิดครั้งสุดท้าย ไม่มีการเกิดใหม่อีกต่อไป" หรือตอนที่ทรงเผชิญกับพญามารก่อนตรัสรู้ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ เป็นต้น อย่าลืมนะครับหากมีโอกาสเดินทางผ่านมาทางอำเภอเมืองลำพูน “วัดป่าตาล” เป็นอีกวัดหนึ่งที่หากท่านพลาดแล้วจะต้องพบกับคำว่า...เสียดายจริง ๆ สำหรับวันนี้เท่านี้ก่อนนะครับแล้วจะหาวัดสวย ๆ นำเสนอใหม่....ธรรมะสวัสดีครับ... เครดิตภาพทั้งหมดจากผู้เขียน (ดร.อาบแสงจันทร์ ต.)