“เก็บเรื่องมาเล่า โดยหนุ่ม สุทน” สุขสันต์วันพฤหัส ที่ 27 ตุลาคม 2565 ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสบาย ๆ ตามสไตล์หนุ่ม-สุทน วันนี้พาไปรู้จักวิถีชุมชนชาวจีนบริเวณริมน้ำเจ้าพระยา เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร ไปกันที่ "ศาลเจ้าแม่กวนอิมหรือศาลเจ้าเกียนอันเกง" ทุกวันนี้เรียก "ย่านกุฏีจีน" ศาลเจ้าแม่กวนอิมขอเริ่มต้นเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นมาของ "ศาลเจ้าแม่กวนอิม" ตามบันทึกประวัติของศาลเจ้าแม่กวนอิมเขียนเล่าเรื่องเอาไว้ในศาลเจ้านั้น!!!กล่าวว่า ในแผ่นดินอาณาจักรกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีสันนิฐานว่ามีชาวจีนจากแผ่นดินใหญ่อพยพมากับเรือสำเภาที่มาส่งสินค้าในเกาะเมืองกรุงศรีอยุธยาแล้วก็ตั้งบ้านเรือนริมน้ำเจ้าพระยาเพื่อเป็นท่าจอดเรือสำเภาด้วย ต่อมาก็จัดสร้างศาลเจ้าในฤดูใบไม้ผลิปีที่ 25 ครั้งนั้นเชื่อว่าสมเด็จพระเจ้าจักรพรรดิกวงสือโปรดฯ ให้อัญเชิญองค์เจ้าแม่กวนอิมมาประดิษฐานพร้อมกับระฆังใบใหญ่และมีข้อความจารึกเป็นภาษาจีน ส่วนองค์เจ้าแม่กวนอิมเชื่อว่าแกะสลักด้วยไม้จันท์หอมยังคงประดิษฐานอยู่เช่นเดิมครับเคยเป็นท่าเรือมาก่อนเมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2309-2310 ครั้งนั้นพระเจ้าตากสินหรือพระยาวชิรปราการได้กอบกู้เอกราชกลับคืนได้แต่เกาะเมืองกรุงศรีอยุธยาถูกกองทัพพม่าเผาบ้านเผาเมืองเสียหายหมดยุคสมัยนั้นด้วยเหตุนี้พระเจ้าตากสินจึงมาสร้างราชธานีขึ้นมาใหม่คือ "กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร" ตรงปากคลองบางกอกใหญ่และริมน้ำเจ้าพระยาแล้วปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ทรงพระนามว่าสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีหรือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ครั้งนั้นมีชาวจีนฮกเกี้ยนตามมาจากแผ่นดินกรุงศรีอยุธยาแล้วก็ตั้งบ้านเรือนในบริเวณศาลเจ้าแม่กวนอิม!!! แล้วกล่าวกันเองว่าน่าจะมีสองศาลเจ้าคือศาลเจ้าแม่กวนอิมและศาลเจ้าเทพเจ้ากวนอูกับเทพเจ้าโจวซื่อและต่อมาก็รวมเป็นศาลเจ้าเดียวกันเรียก "ศาลเจ้าเกียนอันเกงหรือศาลเจ้าแม่กวนอิม" เป็นศาลเจ้าแบบจีนโบราณเก่าแก่ดูมีพลังวิเศษจริง ๆ เมื่อได้กราบบูชาองค์เจ้าแม่กวนอิมและเทพเจ้าที่ประดิษฐานในศาลแห่งนี้สวยงาม เงียบสงบ ดูเก่าแก่มากครับสำหรับคำที่เรียกขานว่า "ย่านกุฏีจีน" ขอย้อนหลังกลับไปในสมัยปลายแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 หรือในปี พ.ศ. 2474 ตรงกับสมัยแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ครั้งกระนั้นสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพเสด็จทรงหล่อระฆังใบใหญ่ของวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหารพอแล้วเสร็จทรงทราบว่าบริเวณนี้มีศาลเจ้าจีนจึงเสด็จทอดพระเนตรในศาลเจ้าแม่กวนอิมและอาคารมีพระภิกษุจีนพำนักอยู่แล้วก็มีบ้านเรือนของชาวจีนอยู่ด้วยตามเหตุผลนี้สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงโปรดเรียกว่า "ย่านกุฏีจีน" ตั้งแต่นั้นมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้นี่แหละคือที่มาของคำว่า "ย่านกุฏีจีน"องค์เจ้าแม่กวนอิมน่าสนใจไปไปกราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในย่านกุฏีจีน ซึ่งยังคงมีความรู้สึกแบบโบราณเก่าแก่ไปเดินเล่น เดินชิลแล้วได้กราบบูชาขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายใน "ศาลเจ้าแม่กวนอิม" ขอพรให้ประสบผลสำเร็จเรื่องการค้า การลงทุนในธุรกิจ ขอให้เจริญรุ่งเรืองหรือเรื่องโชคลาภร่ำรวยเงินทอง เป็นต้น หนุ่ม-สุทนไปมาแล้วไม่พลาดเก็บเรื่องราวต่าง ๆ มาฝากท่านผู้อ่านไปกันได้ครับ ขอบอกท่านผู้อ่านทุกท่านห้ามถ่ายรูปหรือถ่ายภาพภายในศาลเจ้าแม่กวนอิม สำหรับการได้เดินทางมาที่นี้ ผมรู้สึกประทับใจในสถานที่มาก ๆ ครับ เงียบสงบดูน่าย่ำเกรง น่าเลื่อมใสศรัทธาต่อองค์เจ้าแม่กวนอิมมากครับ รู้สึกได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ขององค์ท่าน "กินเที่ยวทั่วไทย เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ ถ้าอยากรู้ต้องออกเดินทางไป...กับ...ผมหนุ่ม-สุทน” แล้วฝากติดตามฟังรายการ "กินเที่ยวทั่วไทยไปกับพี่หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์" ทางคลื่นข่าว fm 100.5 mhz ฟังเรื่องเล่าประวัติศาสตร์ วิถีชุมชน วัฒนธรรมและอาหารถิ่นของชุมชนได้ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น. ขอบคุณและสวัสดีครับสวยงาม เก่าแก่ ดูน่าเลื่อมใสศรัทธามากครับพิกัด "ศาลเจ้าแม่กวนอิมหรือศาลเจ้าเกียนอันเกง" https://goo.gl/maps/H2a6skNng87TYaRx9เรื่องและภาพโดย : หนุ่ม-สุทน รุ่งธัญรัตน์แฟนเพจเฟซบุ๊ค : https://www.facebook.com/sutonfm100.5/#ติดตามฟังเรื่องราวการเดินทางเที่ยวทั่วไทยทางคลื่นข่าว100.5fm ทุกวันอาทิตย์เวลา 10.10-11.00 น. #ติดต่อวิทยากรด้านการท่องเที่ยวได้ที่ได้ที่แฟนเพจเฟซบุ๊ค #เที่ยวเพลิน #เก็บเรื่องมาเล่าโดยหนุ่มสุทน #bigmaptravel #เที่ยวใกล้เที่ยวง่ายสไตล์ภาคกลาง อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !