เมืองจำลองพัทยา ตั้งอยู่อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เป็นสถานที่ที่รวบรวมและจัดแสดงสิ่งก่อสร้างทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศมากมาย โดยย่อส่วนในอัตรา 1 ต่อ 25 ซึ่งในวันนี้ผู้เขียนจะขอนำทุกคนไปชม 20 สิ่งก่อสร้างย่อส่วนของต่างประเทศทั่วโลกที่คุณต้องห้ามพลาด เมื่อมาเยือนเมืองจำลองพัทยา จะมีสถานที่ใดบ้าง ไปดูกันเลยครับ 1.เซนต์บาซิล (St.Basil) ประเทศรัสเซีย สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1555 ถึง 1560 ตั้งอยู่นอกกำแพงพระราชวังเครมลินในกรุงมอสโคว์ บริเวณจัตุรัสแดง เป็นโบสถ์ที่มีความงดงามและแปลกตาที่สุด โดยโบสถ์นี้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงการผนวกคาซานและอัสตราคานเข้ากับรัสเซีย 2.ปราสาทน็อยชวานชไตน์ (Neuschwantein Castle) ประเทศเยอรมัน เป็นปราสาทที่มีรูปแบบของนีโอโรแมนติกศิลปะบาวาเรีย โดยกษัตริย์ Ludwig II ปราสาทแห่งนี้วอลท์ดิสนีย์ได้นำมาสร้างเป็นปราสาทในดิสนีย์แลนด์ ประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา 3.พิพิธภัณฑ์อโทเมียม (Atomium) ประเทศเบลเยี่ยม เป็นสถาปัตยกรรมสมัยใหม่และเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ออกแบบโดยวิศวกรชื่อ แอนดรา วอเตอร์ดี สร้างปี ค.ศ. 1954 เพื่อเตรียมสำหรับงานนิทรรศการครั้งใหญ่ปี ค.ศ. 1958 ภายในประกอบด้วยพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ร้านค้า และร้านอาหาร มีจุดชมวิวแบบพาโนรามา 4.ภูเขารัชมอร์ (The Mount Rushmore) ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นอนุสรณ์ระลึกถึงความเจริญเติบโตและการพัฒนาของสหรัฐอเมริกา โดยการสลักหินเป็นรูปหน้าประธานาธิบดี 4 ท่าน ได้แก่ (1) จอร์จ วอชิงตัน (2) โทมัส เจฟเฟอร์สัน (3) แฟรงคลิน ดี. รูสเวลท์ (4) อับราฮัม ลินคอล์น โดยประติมากรชื่อ กัสสัน บอร์คลัม แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1941 เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นเอกราช ยุติธรรม เสมอภาค อิสรภาพ และความอุตสาหะ 5.วิหารพาร์เธนอน (The Parthenon) ประเทศกรีซ เป็นส่วนหนึ่งของอโครโปลิส นครเอเธนส์ ในอดีตเคยใช้เป็นสถานที่สถิตของเทพเจ้าตามความเชื่อของชาวกรีก ต่อมาถูกปรับเปลี่ยนมาเป็นวัดคริสต์ศาสนา เมื่อจักรวรรดิออตโตมันสามารถยึดเอเธนส์ได้ วิหารแห่งนี้จึงกลายมาเป็นมัสยิดในศาสนาอิสลาม วิหารพาร์เธนอนเป็นสถานที่ทางศาสนาและวัฒนธรรมต่าง ๆ ของอาณาจักรใหญ่ มีการบูรณะรักษาอยู่หลายครั้ง และได้รับการคัดเลือกให้เป็นมรดกโลกโดย UNESCO 6.ปราสาทเซอนองโซ (Chenonceau Chateau) ประเทศฝรั่งเศส เป็นอาคาร 2 ชั้น สูง 260 ฟุต ตั้งอยู่กลางแม่น้ำเชียร์ ถือกรรมสิทธิ์โดยกษัตริย์ฟรานซิสที่ 1 ต่อมามอบให้กับพระเจ้าเฮนรี่ที่ 2 ต่อมาในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ได้ทำเป็นโรงพยาบาล และในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตัวปราสาทถูกใช้เป็นเขตกั้นแดนระหว่างนาซีเยอรมันกับฝรั่งเศส กลายมาเป็นที่กักขังเชลยศึก ปัจจุบันตัวสะพานได้ถูกดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์ 7.โคลอสเซียม (Colosseum) ประเทศอิตาลี เป็นสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม เริ่มสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเวสเปเซียนแห่งจักรวรรดิโรมัน และสร้างเสร็จในสมัยของจักรพรรดิไททัส มีลักษณะเป็นอัฒจันทร์รูปวงกลมก่อด้วยอิฐและหินทราย สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ 8.หอเอนเมืองปิซา (Tower of Pisa) ประเทศอิตาลี สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว สูงประมาณ 55.86 เมตร ก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1173 ภายในมีเสาหินอ่อนที่สลักลวดลายอย่างสวยงามจากฝีมือจิตรกรชื่อดัง แต่การก่อสร้างได้หยุดชะงักลงหลังจากสร้างได้เพียง 3 ชั้น เนื่องจากพื้นใต้ดินอ่อนเกินไป ทำให้เกิดการยุบตัวลง จึงสร้างให้เอนกลับไปอีกด้านหนึ่งเพื่อให้เกิดสมดุล ต่อมาก็มีการสร้างหอต่อขึ้นอีกจนแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1350 หอเอนเมืองปิซาถูกประกาศให้เป็นมรดกโลก และเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง 9.หมู่บ้านไวกิ้ง (Trelleborg) ประเทศเดนมาร์ก ไวกิ้งเป็นโจรสลัดจากยุโรปเหนือ ซึ่งเข้าปล้นฝั่งตะวันตกของยุโรปในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 8-10 ลักษณะโครงสร้างของหมู่บ้านถูกออกแบบเป็นวงกลมรวม 31 หลัง ทำด้วยไม้ทั้งหมด 10.ตำหนักล่าสัตว์โกลิทออสเตรีย (The Gloriette) ประเทศออสเตรีย อยู่ในเขตพระราชวังเชินบรุนน์ โดยพระราชวังแห่งนี้มี 1,441 ห้อง ภายนอกจัดเป็นสวนหย่อม ที่เนินสูงของเชิงเขามีตำหนักล่าสัตว์ในสไตล์ศิลปะบารอค รอคโคโค เพื่อเป็นที่ประทับฤดูร้อนของเจ้าชายยูจีน และเคยเป็นสวนสัตว์แห่งแรกของโลกในปี ค.ศ. 1752 11.ปราสาทโดเวอร์ (Dover Castle) ประเทศอังกฤษ เป็นปราสาทที่ใหญ่และแข็งแรง ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงถึง 130 เมตร ลักษณะของปราสาทเป็นสไตล์นอร์แมน ต่อมาได้ถูกต่อเติมให้เป็นป้อมปืมใหญ่ เพื่อเตรียมรับมือในสงครามนโปเลียน 12.ประติมากรรมปิเอต้า (Pieta The Virgin's Dress) ประเทศอิตาลี สร้างขึ้นโดยไมเคิล แองเจโล เป็นรูปแกะสลักหินอ่อนพระแม่มารีขณะอุ้มพระเยซูลงจากไม้กางเขน ที่มีความงดงามและอ่อนช้อยเหมือนจริง 13.น้ำพุเทรวี (Trevi Fountain) ประเทศอิตาลี ตำนานรักของเทพเนปจูน เป็นน้ำพุที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ในสมัยศตวรรษที่ 18 ตามสไตล์ศิลปะบารอค ออกแบบโดยประติมากรชาวอิตาลี ชื่อว่า เบอร์นินี โดยมีความเชื่อกันว่าหากนักท่องเที่ยวเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้แล้วโยนเหรียญเสี่ยงทายไปที่น้ำพุก็จะได้กลับมาเยือนอีก 14.มหาวิหารโคโลญ (The Cologne) ประเทศเยอรมัน เป็นวิหารที่ใหญ่ที่สุดในโลกสไตล์ศิลปะโกธิค สูง 157 เมตร เริ่มสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1248 ถึง ค.ศ. 1842 ได้หยุดสร้างไปทำการบูรณะใหม่และสร้างต่อจนแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1880 15.หอไอไฟล (Tour Eiffel) ประเทศฝรั่งเศส เป็นหอคอยโครงสร้างเหล็กที่มีความสูงกว่า 330 เมตร ตั้งอยู่บนสวนสาธารณะขนาดใหญ่ (Champ de Mars) บริเวณแม่น้ำแซนในกรุงปารีส เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก หอไอเฟลตั้งชื่อตามกุสตาฟ ไอเฟล สถาปนิกและวิศวกรชาวฝรั่งเศส ผู้ออกแบบหอคอยแห่งนี้ 16.ประตูชัยปารีส (Arc de Triomphe) ประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ใจกลางเมืองปารีส ในส่วนที่มีถนนตัดกันถึง 12 สาย สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1835 และเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะในด้านการทหารและสนธิสัญญาของพระเจ้านโปเลียน ด้วยการออกแบบและก่อสร้างของสถาปนิกชาวฝรั่งเศส ฮวน ฟรานซิส แด ชาร์กิ้นส์ 17.ประตูชัยนัมเดมุน (Namdaemun) ประเทศเกาหลีใต้ เป็น 1 ใน 4 ประตู (ประตูชัย) สำคัญของเกาหลีใต้เดิมมีชื่อว่า ซันถายมูน เริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1396 เป็นสถานที่ที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมและเป็นศูนย์รวมการคมนาคม ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับปราสาทเคยังบ๊อก 18.ปราสาทนครวัด (Angkor Wat) ประเทศกัมพูชา เป็นหมู่ปราสาทและเป็นศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นโดยพระเจ้าสูรยวรรรมันที่ 2 แห่งเมืองยโสธรปุระ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิเขมร เพื่อให้เป็นเทวลัยประจำรัฐและเป็นสุสานฝังพระศพ โดยในยุคแรกเริ่มนั้นสร้างขึ้นเป็นเทวลัยในศาสนาฮินดู เพื่ออุทิศแด่พระนารายณ์ ก่อนจะค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงกลายเป็นวัดในศาสนาพุทธ 19.หอฟ้าเถียนทาน (Tien-Tan) ประเทศจีน สร้างในสมัยราชวงศ์หมิง ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของจตุรัสเทียนอันเหมิน โดยห้องที่ถือว่าเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว คือ ห้อง Qinian เป็นห้องสวดมนต์ เพื่อฤดูเก็บเกี่ยวที่ดี ส่วนด้านทิศใต้ คือ กำแพงที่มีเสียงสะท้อน และหลังคาโค้งที่มีรูปภาพสวรรค์ แท่นบูชา เป็นวงกลมรอบ ๆ เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 20.ซิดนีย์ โอเปราเฮ้าส์ ( The Sidney Opera House ) ประเทศออสเตรเลีย เป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างสมัยใหม่ที่รู้จักกันดีทั่วโลก ออกแบบโดย เยิร์น อุตโซน สถาปนิกชาวเดนมาร์ก ซึ่งตัวโรงละครมีความสูง 65 เมตร ด้านยาว 183 เมตร ในปี ค.ศ. 2007 UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนสถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งมรดกโลก หากตอนนี้คุณยังไม่มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวรอบโลก เมืองจำลองพัทยาอาจเป็นทางลือกหนึ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ณ เวลานี้ ราคาบัตรต่อท่าน คนไทย ผู้ใหญ่ ราคา 150 บาท เด็ก (4-10 ปี) ราคา 50 บาท ต่างชาติ ผู้ใหญ่ ราคา 250 บาท เด็ก (4-10 ปี) ราคา 120 บาท เด็กอายุ 0-3 ปี เข้าฟรี (ความสูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร) เปิดบริการทุกวัน เวลา : 09.00 - 19.00 น. เครดิตภาพ ภาพที่ 1 ถึงภาพที่ 20 เป็นรูปภาพที่ถ่ายโดยผู้เขียนทั้งหมด (เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2566) อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !