"เขลางค์นคร" หรืออีกชื่อที่เป็นสากลที่เรียกว่า "ลำปาง" จังหวัดที่ใครหลายๆ คน รวมถึงตัวผมเองเคยมองเป็นแค่ทางผ่านสู่จังหวัดอื่น จนมาถึงวันที่ได้มาสัมผัสด้วยตัวเองมันทำให้ความคิดผมเปลี่ยนไป ด้วยเหตุการณ์อะไรหลายๆ อย่างที่ได้พบเจอไม่ว่าจะเป็นความเป็นกันเองของผู้คน สไตล์การพูดแบบชาวเหนือ สถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ หรือแม้แต่เสียงฝีเท้าของม้าที่ได้ยินเกือบทั้งวันในยามที่นอนอยู่ในตัวเมืองมันเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน และรู้สึกประทับใจมากจริงๆ ถ้าให้พูดชื่อจังหวัดที่คนส่วนมากอยากไปมากที่สุดในฤดูหนาวคงหนีไม่พ้น เชียงใหม่เชียงราย และแม่ฮ่องสอน วันนี้ผมจะพาพวกคุณไปเปลี่ยนมุมมองกันดูครับว่าจังหวัดลำปาง มีอะไรที่น่าค้นหา และควรค่าแก่การไปสัมผัส แล้วลำปางจะไม่ใช่ทางผ่านในความคิดคุณอีกต่อไปการเดินทางไปยังจังหวัดลำปาง- รถทัวร์ จาก หมอชิต มุ่งหน้าสู่ ลำปาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 ชั่วโมง แนะนำให้ขึ้นรอบประมาณ 2 ทุ่ม จะไปถึงยัง บขส. ลำปางประมาณ 7 โมง- เครื่องบิน ใช้เวลาเดินทางไม่นาน แต่ค่าใช้จ่ายสูง ยกเว้นได้ตั๋วราคาพิเศษ- รถไฟ วิธีนี้ก็ดีแต่ใช้เวลาเดินทางนานการท่องเที่ยวในจังหวัดลำปางแนะนำให้เช่ารถยนต์ขับ สะดวกที่สุด เพราะแต่ละสถานที่ค่อนข้างไกล ซึ่งผมขอแนะนำ "อาลัมภางค์ กรุ๊ป (รถเช่าลำปาง" พี่เจ้าของให้คำแนะนำดีมาก ตอบแชทได้รวดเร็วทันใจเสมอต้นเสมอปลาย *** ใครสนใจ ติดต่อได้ที่ 054-224454, 083-568-1555, 099-236-0176 หรือจะ Inbox ไปที่เพจเลยก็ได้หรือใครจะเช่ามอไซค์ ขี่ในเมืองก็ได้ "Ozone Rent 2 Ride " ซึ่งมีทั้งมอเตอร์ไซค์ และจักรยานเราเช่ามอเตอร์ไซค์ที่ราคา 300 บาท ค่าประกันพี่เขาไม่เอาด้วยโคตรใจดี ** ใครสนใจติดต่อ : 081-287-5527, 081-796-9866เอาล่ะมาถึงตรงนี้ ก็ถึงเวลาที่จะทำให้มุมมองที่มีต่อจังหวัดลำปางของคุณเปลี่ยนไป ไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีสถานที่ใดที่น่าสนใจวัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ (วัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง) อ.แจ้ห่ม จังหวัดลำปางวัดแห่งนี้เป็นหนึ่งในวัดที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง โดยไฮไลท์อยู่ที่เจดีย์เล็ก เจดีย์น้อยประดิษฐานอยู่ตามยอดเขา ซึ่งเกิดจากความร่วมมือกันของพระและชาวบ้าน และวัดแห่งนี้ยังมีการพบรอยพระพุทธบาทอีกด้วย ระหว่างทางที่เดินนั้นเต็มไปด้วยธรรมชาติ และวิวที่สวยงามอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนไฮไลท์ของที่นี่คือ แอ่งน้ำร้อน น้ำแร่ที่มีอุณภูมิสูงถึง 70 - 80 องศาเซลเซียส ที่มีโขดหินน้อยใหญ่เรียงรายอยู่ท่ามกลางแอ่งน้ำแห่งนี้ ช่วงเวลาที่สวยที่สุดของการมาชมที่นี่คือ ช่วงเช้ายามที่แสงตะวันสาดส่องลงมากระทบโขดหินพร้อมด้วยไอความร้อนจากบ่อน้ำลอยขึ้นมาจะเกิดเป็นภาพธรรมชาติที่สวยงามมาก โดยส่วนมากผู้คนที่มาที่นี่มักจะพาครอบครัวมาเล่นน้ำที่ธารน้ำตกใกล้ๆ พร้อมกับรับประทานไข่ต้มจากบ่อน้ำร้อนที่แสนอร่อย เหมาะแก่การพาครอบครัวมากพักผ่อนมากๆวัดพระธาตุลำปางหลวงเป็นหนึ่งในวัดที่อยู่คู่เมืองลำปางมากอย่างยาวนาน และเป็นวัดไม้ที่สมบูรณ์ที่สุดวัดหนึ่งของไทย ไม่ว่าใครที่มาลำปางจะต้องมาที่นี่ พระธาตุลำปางหลวงจัดเป็นพระธาตุประจำคนเกิดปีฉลู ภายในองค์พระเจดีย์บรรจุพระเกศา และพระอัฐิธาตุจากพระนลาฎข้างขวา พระศอด้านหน้าและด้านหลังภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานของพระเจ้าล้านทอง และยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือ เงาพระธาตุกลับหัวอีกด้วยด้านหน้าวัดยังมีรถม้า พาเที่ยวชมรอบๆ วัด หรือใครจะถ่ายรูปกับรถม้าคู่กับพระธาตุลำปางหลวงก็ได้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดหากได้มาที่นี่กาดกองต้า ถนนคนเดินลำปางยามค่ำคืน หากอยากหาของกินอร่อยๆ หากของฝากติดไม้ติดมือ ก็ต้องมาที่ กาดกองต้า สถานที่ตรงนี้เป็นตลาดเก่าอาคารบ้านเรือนต่างๆ มีอายุเกือบๆ ร้อยปีเลยทีเดียว สะพานรัษฎาภิเษก เป็นสะพานที่มีประวัติศาสตร์คู่เมืองลำปางมายาวนาน แม้แต่เสาก็เแฝงไปด้วยความหมายมากมาย เป็นอีกหนึ่งจุดที่น่ามาถ่ายรูป และมานั่งเล่น ถ้าเป็นกรุงเทพฯ ก็คงจะคล้าย ๆ สะพานพุทธวัดพระธาตุดอยพระฌานในช่วง1-2 ปีที่ผ่านมานี้วัดแห่งนี้โด่งดังมาก เพราะเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ผู้คนมักพากันมาดูพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าบนยอดเขาที่เป็นที่ตั้งของวัดแห่งนี้ หากคุณโชคดี หมอกไม่หนาจนเกินไปคุณก็จะได้พบกับความสวยงามบริเวณรอบๆ วัดเจดีย์ซาวจุดเด่นของวัดนี้ก็คือ เจดีย์สถาปัตยกรรมแบบพม่าจำนวน 20 หลัง ที่ในแต่ละเจดีย์มีการบรรจุพระเกศาธาตุ ซึ่งนั่นก็เป็นที่มาที่ไปของชื่อวัดแห่งนี้นั่นเอง วัดพระแก้วตอนเต้าสุชาดารามเป็นอีกหนึ่งวัดที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 500 ปี ซึ่งวัดแห่งนี้เคยเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกต ยาวนานถึง 32 ปี ก่อนจะถูกพระเจ้าไชยเชฐาอัญเชิญไปยังเวียงจันทร์ครั้นสมัยที่ได้ปกครองเมือง ก่อนจะถูก รัชกาล 1 ขณะทรงเป็นเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ยกทัพไปตีหัวเมืองลาวจนถึงเวียงจันทน์ จึงได้อัญเชิญพระแก้วมรกตจากเวียงจันทน์มาประดิษฐานที่กรุงธนบุรี ต่อมาเมื่อได้สถาปนา กรุงเทพ ฯ เป็นเมืองหลวง จึงได้อัญเชิญพระแก้วมรกตมาประดิษฐานที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม จนถึงทุกวันนี้บ้านเสานักบ้านไม้สักโบราณ อายุ 100 กว่าปี ซึ่งที่มาของชื่อนี้ ที่หากแปลเป็นภาษากลางก็คือ " บ้านเสามาก " นั่นเอง เป็นบ้านที่มีเสามากถึง 116 ต้น ตัวบ้านเป็นการผสมระหว่างศิลปะแบบพม่ากับล้านนาเป็นบ้านแบบทรงไทย ภายในประกอบไปด้วยข้าวของเครื่องใช้สมัยโบราณ นับว่าเป็นบ้านที่มีสถาปัตยกรรมแบบล้านนาที่สวยงามและควรค่าแก่การมาศึกษาพิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี จุดกำเนิดของ " ชามตราไก่ " บนแผ่นดินสยามเชื่อว่าทุกคนเคยผ่านการใช้งาน หรือผ่านตากับชามตราไก่กันมา แต่รู้หรือไม่มาว่าที่มาที่ไปของชามตราไก่มีความเป็นมายังไง พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รวบรวมทุกอย่างที่เกี่ยวกับชามตราไก่ตั้งแต่สมัยแรกเริ่มจนมาถึงปัจจุบัน แม้แต่กระบวนการในการทำที่นี่ก็ยังมีสาธิต และทำให้ดูแบบสดๆ กันเลยทีเดียววัดศรีชุมเป็นวัดที่ทำจากไม้ฝั่งพม่าทั้งหมด และจัดว่าเป็นวัดพม่าที่ใหญ่ที่สุดในไทยอีกด้วย หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ อาคารไม้ได้พังลง วิหารในปัจจุบันจึงเป็นครึ่งไม้ครึ่งตึก ภายในวิหารจะประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านเคารพนับถือส่วนองค์พระเจดีย์สีทองอร่ามด้านหลังโบสถ์ มีพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากพม่าเมื่อร้อยกว่าปีก่อนบรรจุอยู่ภายในองค์พระเจดีย์สถานีรถไฟนครลำปางที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่างไทยกับยุโรป เป็นอาคาร 2 ชั้นครึ่งตึกครึ่งไม้ รั้วระเบียง วงกบประตูก็มีการฉลุลวดลายสวยงามเป็นอีกหนึ่งที่ที่ควรมาเช็คอินวัดปงสนุกเป็นหนึ่งในวัดที่คู่เมืองลำปางมานานมาก ไฮไลท์จะอยู่ที่วิหารพระเจ้าพันองค์ ที่ได้รางวัล Award Of Merit จาก UNESCO ในปี 2551 ด้านการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมอีกด้วย ภายในวัดจะมี พระธาตุศรีจอมไคล วิหารพระเจ้าพันองค์ ที่เป็นวิหารโถงทรงจัตุรมุข มีพระพุทธรูปหันสี่ทิศ มีความเชื่อเกี่ยวกับการขอพร และสะเดาะเคราะห์ และยังมีวิหารพระนอนอยู่ด้านหลังองค์พระธาตุด้วยมาถึงตรงนี้แล้วไม่รู้ว่าพวกคุณมีความรู้สึกต่อจังหวัดลำปางเปลี่ยนไปอย่างไร หนาวนี้ก็ขอฝากลำปางไว้ในอกในใจทุกท่านด้วยนะครับช่องทางการติดตาม https://www.facebook.com/iwillgo.thailandเป็นเเค่เมืองรอง แต่ถ้าได้มาลอง นครลำปาง ไม่เป็นรองจังหวัดใด ๆ