เมื่อไม่นานมานี้ ผู้เขียนมีโอกาสผ่านไป วัดทอง อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา...แต่เป็นการไปแบบไม่ได้ตั้งตัวตั้งใจ และไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย แถมรีบไปรีบกลับ เลยไม่ได้ถ่ายภาพมาเยอะ แต่พอกลับมาแล้วน่ะสิคะ เกิดความคิดว่า ไม่อยากเก็บเรื่องดี ๆ นี้ไว้คนเดียว ก็เลยเอามาแชร์นี่แหละค่ะผู้เขียนบังเอิญได้ตามผู้ใหญ่ไปทำบุญ - สะเดาะเคราะห์ - เสริมดวง ที่วัดทอง ก็เลยได้ทราบว่า...วัดทองเป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระองค์ทรงโปรดให้สร้างขึ้น พระราชทานชื่อวัดว่า "วัดสุวรรณขวัญเมือง" โดยมีพระมหาเถรคันฉ่องเป็นผู้ดูแลการก่อสร้าง...วัดทอง พบกับความเจริญรุ่งเรืองและเสื่อมลงตามกาลเวลา ได้รับการบูรณะตามพระราชดำริของพระเจ้าแผ่นดินถึง 3 พระองค์คือ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมหาราช จนกระทั่งมาเป็นวัดทองในปัจจุบันค่ะสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดในวัดก็คือโบสถ์โบราณ เป็นที่รู้จักกันในปัจจุบันว่า "วิหารสมเด็จพระนเรศวรมหาราช" นับจากปี พ.ศ. ที่สร้าง (สมัยสมเด็จพระนเรศวร) ก็อายุราว ๆ 400 กว่าปีนะคะ...ดูจากกำแพง ซุ้มประตู และโกศเจดีย์ที่รายรอบโบสถ์แล้ว ก็บ่งบอกถึงความเก่าแก่โบราณของสถานที่ได้ชัดเจนจริง ๆ ค่ะ...ที่สำคัญคือ ในโบสถ์/วิหารโบราณ ประดิษฐาน "หลวงพ่อดำ" พระพุทธรูปปางนาคปรก ที่สมเด็จพระนเรศวรทรงสร้างขึ้นและถือเป็นพระพุทธรูปประจำพระองค์ค่ะ...ที่วัดก็ได้สร้างองค์จำลององค์ใหญ่ (หน้าตักกว้าง 7 เมตร สูง 22 เมตร) ไว้ด้วย และมียังวัตถุมงคลหลวงพ่อดำให้เช่าบูชาด้วยค่ะ...ด้วยเวลาที่มีไม่มาก ผู้เขียนเลยไม่ได้เอื้อนเอ่ยถามเรื่องการเช่าบูชา กะว่าถ้าได้กลับไปอีกครั้ง จะไม่พลาดค่ะหลังจากโผล่หน้าเข้าไปในโบสถ์โบราณเพื่อชมบารมีพระพุทธรูปโบราณ (แบบแว๊บ ๆ เพราะกลัวตามไม่ทันเขา) แล้ว เมื่อเดินเลยจากโบสถ์ไปทางริมแม่น้ำ ก็พบต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ร่มใบครึ้ม มีผ้าสีเหลืองทองพันรอบต้น ที่ใต้ต้นโพธิ์ นอกจากจะมีพระพุทธรูปและรูปพญานาคที่ทำให้ดูร่มเย็นแล้ว ก็ยังมีรูปปั้นสมเด็จพระนเรศวร พร้อมป้ายบอกว่า "ที่ประทับพระองค์ดำ" ด้วยค่ะ...โอ้โฮ ตั้งแต่เดินผ่านซุ้มประตูโบราณเข้าถึงเขตโบสถ์โบราณและพื้นที่ริมน้ำแล้ว ก็ทำให้รู้สึกเหมือนได้เดินทะลุประตูมิติแห่งกาลเวลาเลยค่ะพื้นที่รอบ ๆ ต้นโพธิ์โบราณ ทั้งท่าน้ำและริมตลิ่ง ก็เห็นว่าได้ถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ได้รับการดูแลให้สะอาดเรียบร้อย ทำให้รู้สึกผ่อนคลายสบายใจมาก ๆ ค่ะ...ถ้าดูในเรื่องของพลังจิตตนุภาพของสถานที่แล้ว จะเห็นว่า ตำแหน่งพื้นที่นี้สำคัญทีเดียวนะคะ เพราะตามเรื่องที่ผู้เขียนได้ยินจากผู้ใหญ่ท่านเล่า บริเวณนี้เป็นทั้งที่ตั้งทัพของสมเด็จพระนเรศวร เมื่อกลับจากศึกยุทธหัตถี หลังจากนั้น พระมหาเถรคันฉ่องก็เป็นผู้ดูแลในการสร้างวัด และต่อจากนั้นมา พระเจ้าแผ่นดินองค์สำคัญ ๆ อย่างน้อย 3 พระองค์ ก็เสด็จบริเวณนี้แล้วทรงมีพระราชดำริให้บูรณะปฏิสังขรณ์วัดค่ะตามที่บอกไว้แล้วว่า ผู้เขียนตามผู้ใหญ่ไปทำบุญ - สะเดาะเคราะห์ - เสริมดวง ที่วัดทอง...คือจะบอกว่า วัดนี้ไม่ใช่เพียงมีความเก่าแก่โบราณและศักดิ์สิทธิ์เป็นจุดเด่นนะคะ วัดยังดูเหมือนจะเป็นที่พึ่งของคนในชุมชน และยังเป็นจุดหมายของสายมูจากทั่วทุกสารทิศด้วยค่ะ...ตอนไปนั่งงง ๆ ในดงชาวมู ผู้เขียนก็ได้เห็นว่า มีผู้คนไปขอให้หลวงพ่อเจ้าอาวาสท่านช่วยหรือไปปรึกษาท่านไม่ขาดสายเลย ทั้งเรื่องสอบบรรจุ เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง คนป่วยหนัก ทำบุญวันเกิด หรือแม้กระทั่งเรื่องการรบกวนจากจิตวิญญาณค่ะ...สิ่งที่ท่านใช้ช่วยบรรเทาทุกข์คือพระพุทธมนต์และน้ำพระพุทธมนต์...และมีส่วนหนึ่งของคาถาที่ท่านใช้บริกรรมเจริญพระพุทธมนต์ ผู้เขียนจำได้ว่าคือ คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า (หัวใจพุทธคุณ) ทำให้คิดถึง ยันต์พุทธคุณ 108 ค่ะถ้าผู้เขียนไม่ได้ตามเขาไป ก็จะไม่ทราบเลยว่า สถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวดี ๆ ในเป็นเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยในประวัติศาสตร์ มีสิ่งก่อสร้างโบราณและโบราณวัตถุสำคัญที่เกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์หลาย ๆ ท่าน และเป็นที่พึ่งของสายมูมากมาย ทุกระดับ ทั่วทุกสารทิศ จะตั้งอยู่อย่างสงบเงียบอยู่ตรงนี้ ริมแม่น้ำลพบุรี อำเภอบางปะหัน อยุธยา นับเป็นสถานที่อันทรงคุณค่าที่หลายคนอาจยังไม่รู้ค่ะ...ถ้าท่านผู้อ่านมีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยียน ผู้เขียนแน่ใจว่า จะได้ค้นพบอะไรดี ๆ และอาจจะมากกว่าที่ผู้เขียนนำมาแชร์จากประสบการณ์เช็กอินในเวลาอันน้อยนิดนั้นค่ะ.มรรษยวรินทร์ พิกัด วัดทอง บางปะหัน อยุธยาภาพประกอบทุกภาพ โดย มรรษยวรินทร์ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !