วันนี้เราวางแผนจะไปเที่ยวไต้หวันกันค่ะ แต่เนื่องจากตัวเราอยู่น่าน พอจะไปต่างประเทศทีต้องขึ้นเครื่อง 2 ต่อ คือจากน่านไปกรุงเทพฯ และจากกรุงเทพไปสถานีปลายทาง ถ้าหากเดินทางในช่วง high season ค่าตั๋วน่านกรุงเทพแพงมากๆ เราเลยลองหาวิธีการเดินทางใหม่ พอดีกับว่าเห็น EVA air โปรโมทเส้นทาง เชียงใหม่-ไต้หวัน ราคาไม่แรง เมื่อเทียบกับค่าตั๋วที่ต้องจ่ายจากน่านไปกรุงเทพ กับค่าน้ำมันรถจากน่านไปเชียงใหม่ก็ถือว่าคุ้ม แต่อาจจะเสียแรงขับรถหน่อย แต่หากใครอยู่เชียงใหม่อยู่แล้วก็น่าจะเป็นทางเลือกที่สะดวกสบายเลยค่ะ ไปค่ะ ไปดูกันว่าการเดินทางของเราเป็นยังไงกันบ้างเที่ยวบินเราออกเดินทาง 11.30 น. เวลา boarding คือ 11.00 น. เราก็เลยขอเผื่อเวลาซักนิดเพราะไม่คุ้นเคยกับสนามบินเชียงใหม่ เราไปถึงสนามบินประมาณ 8.30 น.ลงตรงประตู 10-11 นะคะ เพราะเที่ยวบินระหว่างประเทศอยู่โซนนี้ เราก็ไปเคาเตอร์ EVA air ซึ่งเปิดให้บริการแล้ว มีคนยืนรอเช็คอินประมาณ 5-6 คิว มีเจ้าหน้ายืนให้บริการอยู่โชว์เลขเที่ยวบินไม่ผิดพลาดแน่นอน ยืนรอประมาณ 10 นาทีก็ถึงคิว บริเวณเค้าเตอร์นี้ให้บริการเฉพาะออกตั๋วและชั่งน้ำหนักนะคะ เราต้องเอากระเป๋าไปสแกนโหลดอีกที่หนึ่ง แต่ก็ไม่ไกลกันมากค่ะ แต่ตอนแรกเราก็งงๆ ยกกระเป๋าขึ้นลงๆ 😅😅 ไปสแกนโหลดกระเป๋าคิวไม่นานค่ะ รอดูว่ากระเป๋าลงสายพาน ผ่านเรียบร้อยก็ผ่านค่ะ เราจึงไปหาที่แลกเงินต่อ ด้วยความที่ชะล่าใจว่าน่าจะแลกที่สนามบินได้ แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อธนาคารที่มีอยู่ในสนามบิน 2 แห่งต่างบอกว่าไม่มีเงินไต้หวัน ไม่ได้สต๊อกไว้ ช็อคกันไปเลยค่าาาา แต่เราก็คิดว่ายังพอมีเวลาเลยโทรให้ญาติมารับไปแลกเงินแถวนิมมาน แต่ตู้ที่เค้าแลกเงินเปิด 10 โมง ซึ่งเราไม่น่าจะทัน ไปถามธนาคารแถวนั้นก็ไม่มีเงินไต้หวันสต๊อกเหมือนกัน ….. ช่างมัน ไปตายเอาดาบหน้า เห็นว่ากดเงินผ่าน travel card ได้ รอไปกดที่ไต้หวันละกัน เสี่ยงดวงสุด เราก็กลับไปสนามบินถึงประมาณ 9 โมงครึ่ง เห็นคนรอที่เคาเตอร์ยาวมากค่ะ เราว่ามาเผื่อเวลาหน่อยก็ดีนะคะ หลังจากนั้นก็เดินขึ้นชั้นสองเพื่อทำการสแกนตัว บริเวณนี้ต้องถอดรองเท้าด้วยนะคะ สแกนกระเป๋าที่ถือติดตัวมา เรียบร้อย ก็ถึงบริเวณตรวจคนขาออก ช่องคนไทยไม่มีคนเลย ส่วนใหญ่เป็นต่างชาติ เราเดินทางพร้อมเด็ก 6 ขวบ เจ้าหน้าที่ของสูจิบัตรด้วยอ่ะ ตกใจมาก เพราะทุกทีไม่ต้องใช้ แต่โชคดีที่เราถ่ายเอกสารเก็บไว้ เจ้าหน้าที่ก็โอเค พอผ่านตม.ก็เป็นบริเวณ duty free ไม่ใหญ่มาก ร้านมีไม่เยอะมากค่ะ เราก็ไปนั่งรอที่ gate ซึ่งก็มีที่นั่งรอพอประมาณ พอถึงเวลา 11 โมง ดค้าก็เรียกขึ้นเครื่องค่ะ โดยรวมเราใช้เวลารอโหลดกระเป๋าประมาณ 10 นาที สแกนตัว กับผ่านตม.ก็ประมาณ 10 นาที โดยรวมใช้เวลาไม่นานมากค่ะ ไปดูเครื่อง EVA air กันค่ะ เครื่องบินเป็นเครื่องแบบมีที่นั่ง 3-3 นะคะ โซน business class มีอยู่ประมาณ 4 แถว แต่เรานั่ง Economy class แบบสมฐานะ 😅😅 เครื่องลำนี้ไม่มีจอประจำที่นั่งนะคะ ลูกสาวเสียใจมาก แต่จะมีจอกลางบนหัวมีเปิดหนังเก่าๆให้ดูค่ะ ที่นั่งเราว่ากว้างพอสมควรนะ เราสูง 168 ซม. นั่งเข่าก็ไม่ชนนะ และเวลาคนด้านหน้าเอนหลังมา ก็ไม่ได้อึดอัดมาก เครื่องขึ้นซักพัก แอร์โฮสเตสก็ถือตะกร้ามาแจกของเล่นเด็กๆ ค่ะ ลูกสาวก็เลือกตัวต่อ 3 มิติรูปผีเสื้อค่ะ พอคลายความเศร้าที่ไม่มีจอไปได้ อ่อ EVA เป็น Full service ราคารวมกระเป๋าโหลดคนละ 1 ใบ 23 กิโลกรัม (แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าขากลับได้คนละ 2 ใบนะคะ) ราคาพร้อมอาหารบนเครื่อง เครื่องขึ้นประมาณชั่วโมงนึงก็แจกอาหารค่ะ มีให้เลือกเป็นข้าวราดผัดเนื้อ กับสปาเก็ตตี้ไก่ ส่วนน้ำก็มีให้หลากหลายนะคะ มีไวน์ด้วย กินเสร็จก็หลับค่ะ เราเดินทางถึงสนามบินเถาหยวนเวลาประมาณ 4 โมงของไต้หวันนะคะ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่งค่ะ) ถึงสนามบินเครื่องลงที่ terminal 2 นะคะ เดินตามทางที่เขียนว่า Arrival ไปไม่ไกลก็จะมีจุดให้ตรวจของ ซึ่งเค้าเน้นมากพวกเนื้อสัตว์ ผลไม้ อาหารต่างๆ คือไม่ให้เอาเข้าเลยนะคะ มีจุดสแกนชัดเจน รอคิวตรงนี้ก็แถวยาวหน่อยแต่ก็ไหลไปเรื่อยๆ พอผ่านมาก็เป็นจุดตรวจคนเข้าเมือง เราก็เดินไปโซน Non citizen คนเยอะมากกกกกกกกกก เค้าก็จะมีให้กรอกเอกสารแบบกระดาษกับแบบ online ซึ่งเรากรอกแบบ online มาเรียบร้อยแล้ว (สามารถดูรีวิวกรอกเอกสาร online ได้ตามลิงค์นี้นะคะ https://intrend.trueid.net/post/399499) รอคิวนานมากเพราะคนเยอะมากค่ะ ใช้เวลารอประมาณเกือบชั่วโมงนึงเลยค่ะ พอถึงคิวตรวจก็แจ้งเค้าว่า online เค้าก็ให้ถ่ายรูป สแกนนิ้ว เป็นอันเสร็จพิธี ไปรับกระเป๋า เข้าเมือง ไปเที่ยวได้ค๊าาาาสรุปโดยรวมกับ EVA air เราว่าก็ใช้ได้เลยนะ Full service ที่นั่งกว้างขวาง ใช้เวลาไม่นาน ใครอยู่เชียงใหม่หรือบริเวณใกล้เคียง เดินทางรูทนี้ใช้ได้เลยค่ะ หวังว่าทุกคนจะสนุกกับการไปเที่ยวนะคะรูปภาพทั้งหมด by psychiartistอยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !