สวัสดีค่ะ วันนี้แอดจะพาไปเที่ยวฮิโนกิแลนด์ แลนมาร์กจุดใหม่ของเชียงใหม่ ตั้งอยู่ที่อำเภอไชยปรากร จังหวัดเชียงใหม่ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่ 8.00-17.00 มีค่าเข้าชมผู้ใหญ่คนไทย 180 บาท เด็กคนไทย 50 บาท ชาวต่างชาติ 230 บาท เด็กต่างชาติ 70 บาท และเด็กที่มีส่วนสูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร เข้าฟรีจ้า แต่ตอนแอดไปนั้นเค้าเปิดให้เข้าชมฟรี เนื่องจากสามารถทำกำไรได้มหาศาล แอดเริ่มออกเดินทางจากเชียงใหม่ประมาณ 10 โมง แล้วก็แวะ 2-3 ที่ กว่าจะถึงที่หมายก็ 3 โมงกว่าละจ้า จริง ๆ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงนะคะ เราจะเป็นประตูทางเข้าเป็นประตูสีแดง ๆ สไตล์ญี่ปุ่น เห็นครั้งแรกแอดก็ตะลึงมากเลยในความใหญ่ของประตู ก็คิดในใจว่า ไม้ที่ใช้ทำประตูต้องใหญ่มาก ๆ แน่เลย แต่พอเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ มันคือโครงเหล็กค่ะ แต่ก็สวยดีนะ พอจอดรถแล้วนะคะ ก็แวะเข้าห้องก่อนเลย โดยจะอยู่ทางด้านซ้ายมือของที่จอดรถ พอเดินออกจากห้องน้ำก็จะมีทางเชื่อมเดินไปศูนย์อาหารซึ่งก็ใหญ่อลังการมากเลยค่ะ ข้างในศูนย์อาหารก็จะมีอาหารจำหน่ายมากมายเลยค่ะ แต่ตอนนั้นแอดไปถึงก็บ่ายสามกว่า ๆ แล้วเลยไม่ได้แวะทาน พอเดินเลยศูนย์อาหารมาก็จะเป็นจุดจำหน่ายตั๋วค่ะ สามารถซื้อตั๋วได้ที่นี่เลย ตอนแอดไปนั้นเข้าชมฟรีก็เลยเดินตรงไปที่ทางเข้าได้เลย ทางเข้าก็มีโคมสีแดงยักษ์แบบวัดอาซากุสะที่โตเกียวห้อยอยู่ มันใหญ่มากเลยค่ะ นี่ก็เป็นจุดหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการถ่ายรูป หลังจากเดินเข้ามาด้านในก็จะเป็นลานกว้าง ๆ ด้านซ้ายจะเป็นสตูดิโอ เพื่อน ๆ สามารถเช่าชุดกิโมโนได้จากที่เลยค่ะ ส่วนตรงกลางก็จะเป็นอุโมงค์เสาโทริอิจำลองที่มีจำนวน 88 ต้น เสานี้ดูไกล ๆ เหมือนไม้มาก แต่มันก็คือโครงเหล็กค่ะ จะเป็นทางเชื่อมไปยังตัวปราสาทฮิโนกิ สุดทางเดินของอุโมงค์เสาโทริอิก็จะเป็นปราสาทฮิโนกิค่ะ ที่สร้างจากไม้สนฮิโนกิ โดยลักษณะพิเศษของไม้ชนิดนี้ก็คือ จะมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ มีความแข็งแรงและยังมีสีโทนอ่อน ดูแล้วสบายตา ตัวปราสาทก็จะมีทั้งหมด 4 ชั้นค่ะ โดยทุกชั้นก็จะมีระเบียงให้เราสามารถชมทิวทัศน์รอบ ๆ และยังมีบ่อปลาคาร์ฟขนาดใหญ่ อยู่บริเวณรอบปราสาท ข้างในปราสาทก็จะมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม และพระพุทธรูปตั้งอยู่ โดยจะเป็นพื้นที่โล่ง ๆ ไม่ได้มีอะไรหรูหรามาก เกือบลืมไปเลยค่ะ ก่อนจะเดินขึ้นปราสาท เพื่อน ๆ ก็ต้องถอดรองเท้านะคะ และต้องนำรองเท้าไปเก็บไว้ในตู้หรือชั้นวางรองเท้าที่อยู่ชั้น 1 หลังจากเดินสำรวจตัวปราสาทเสร็จแล้ว แอดก็ลงมาดูบ่อปลาคาร์ฟด้านล่าง ตอนนั้นมีคนให้อาหารปลาพอดี ปลาเลยแห่กันเข้ามาเลยละค่ะ ไม่รู้ว่าที่นี่เค้าเลี้ยงปลาไว้ทั้งหมดเท่าไหร่ แต่มันเยอะมากเลย แอดก็เลยขอแชะภาพกับปลาด้วยละกัน บริเวณรอบ ๆ ตัวปราสาทก็จะมีร้านขายของที่ระลึกตั้งอยู่ ข้างในจะมีการสาธิตการเย็นหมอน ที่นอน ที่ทำจากไม้ฮิโนกิ และก็มีน้ำ ขนม ให้บริการ แอดเลยขอทานไอศครีมเย็น ๆ ให้ชื่นใจหน่อยละกัน โดยมี 2 รส ให้เลือกนะคะ คือ ชาเขียว กับ นมสด หรือว่าจะสั่งแบบ 2 รส ก็ได้นะคะ หลังจากเดินเที่ยวชมไปชั่วโมงกว่า ๆ ก็ถึงเวลากลับละค่ะ ตรงทางออกจะมีอุโมงค์ที่ประดับไปด้วยกล้วยไม้หลายสายพันธุ์อยู่ เพื่อน ๆ สามารถเดินตรงไปได้เลยนะคะ ก่อนจะสิ้นสุดทางออกก็จะเป็นบริเวณที่ต่อเติม คาดว่าในอนาคตน่าจะเป็นเป็นร้านขายของที่ระลึกหรือไม่ก็ขายอาหารสไตล์ญี่ปุ่น ไว้มีโอกาสแอดก็อยากไปอีกนะคะ ถ้าหากเพื่อน ๆ คนไหนสนใจละก็สามารถไปแวะชมได้นะคะ สถานที่แห่งนี้เหมาะสำหรับการถ่ายพรีเวดดิ้ง หรือถ่ายแบบมากเลยค่ะ ไม่ต้องไปไกลถึงญี่ปุ่นเลย ยิ่งถ้าไปหน้าหนาวแล้วละก็ บรรยากาศเหมือนอยู่ญี่ปุ่นจริง ๆ เลยล่ะค่ะ พิกัด : https://goo.gl/maps/vV94TYtx3Dp Facebook : https://www.facebook.com/bannhinoki/