สวัสดีค่ะ เราชื่อเมจินะ :D วันนี้เมจิจะมาแชร์ประสบการณ์เที่ยวเวียดนาม 9 วัน (แบบละเอียดยิบ) อ่านเสร็จ แพ็คกระเป๋าที่ยวตามได้เลยก่อนอื่นเราต้องเกริ่นก่อนว่า เราไปเที่ยวในโซนภาคเหนือของเวียดนาม ในช่วงเวลาที่เราไปเป็นช่วง 10-18 มิถุนายน ซึ่งก็มีคนบอกว่าช่วงเดือนนี้สภาพอากาศที่เวียดนามฝนจะตกหนักมาก ตอนแรกเราก็กะจะไม่ไปแล้ว กะจะไปเที่ยวฮ่องกงแทน แต่ด้วยความที่เช็คแพลนต่างๆนาๆที่ฮ่องกงคือบ่ได้เลยเลย เกินงบแน่ๆ ตอนนั้นเลยนั่งคิดว่าเอาวะ ไหนๆก็ไหนๆ งบมันเหมาะสำหรับการไปที่เวียดนามมากๆเราเลยตัดสินใจลุยเลยค่ะมาเริ่มเข้าแพลนเลยค่ะ นี่คือแพลนที่เราเขียนใน Ipad ไว้คร่าวๆค่ะว่าแต่ละวันเราจะทำอะไร หรือไปไหนบ้าง พอถึงวันที่เราบินก็เริ่มออกเดินทางได้~~ ฮ่าๆเราบินจาก สนามบินเชียงใหม่-ฮานอย ค่ะ ค่าตั๋วไป-กลับตอนนั้นอยู่ที่ ฿3,640 ค่ะ (เราจองล่วงหน้าประมาณเกือบๆ 2 อาทิตย์ค่ะ)พอแลนด์ถึงสนามบินฮานอย สิ่งแรกที่เราทำคือ แลกเงินและซื้อซิมค่ะ (เป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำก่อนเริ่มทริปในการเดินทางไปต่างประเทศ) เราเดินวนในสนามบินอยู่สักพักนึงเพื่อหาเรทราคาแลกเงินที่โอเค และร้านขายซิมที่ตรงกับความต้องการของเราในทริปนี้ เราเดินมาตรงร้านโซนหลังๆหน่อย ตรงที่คนเดินผ่านน้อยๆ ราคาถือว่าโอเคเลย พร้อมกับซิมที่ราคาไม่แพงเว่อร์เกินไปเราเตรียมเงินไทยไปแลกประมาณ ฿6,000 เราได้เงินดองมาประมาณ VND 4,020,000 (เงินเป็นล้าน ฮ่าๆๆๆ) บอกเลยใช้เงินที่คืองงมากกก ตัวเลขเยอะไปหมด ส่วนซิมการ์ด เราเลือกซื้อซิมเน็ตไม่ลดสปีดสำหรับ 8 วัน ราคาอยู่ที่ VND 150,000 (~ 200 กว่าบาท)หลังจากที่เราแลกเงิน ซื้อซิมเสร็จสับ เราก็ต้องเดินทางเข้าไปในเมืองฮานอย ด้วยความที่เราอ่านมาจากเพจที่เขาได้รีวิวไปเวียดนามมาหลายเพจ เขารีวิวกันว่าเราสามารถเรียก Bolt ได้ แต่เราไม่สามารถดาวน์โหลดตัวแอปพลิเคชั่นเข้ามือถือเราได้ เลยทำให้เรามีทางเลือกไปฮานอยไม่มาก คือ1. นั่งแท็กซี่หน้าสนามบิน: จากสนามบินเข้าไปในตัวเมืองจะใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที ราคาอยู่ที่ประมาณ 300-400 บาท แล้วแต่จุดหมายปลายทางว่าไปที่พักแถวไหนในฮานอย (ราคานี้จะเป็นราคาที่เราสอบถามไปในที่พักของเรา) 2. นั่งรถบัสจากสนามบิน: ซึ่งเป็นช้อยส์ที่เราเลือกค่ะ เรานั่งสาย 86 เพื่อเข้าไปที่ Old Quarter, Hanoi ราคาอยู่ที่ 45,000 VND ตลอดสายค่ะ (~฿60) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ (ถ้าคนไม่รีบ สายชิวๆ แนะนำค่ะ) ราคาไม่แพงอีกด้วยนั่งชมบรรยากาศบ้านเมืองมาเรื่อยๆ จนมาถึง destination เราเริ่มดิ่งตรงไปที่พักเลยค่ะ เพราะเมื่อยมาก 55555 แพลนของเราตามที่ได้แปะรูปตามด้านบนไว้ว่าคืนแรกเราจะพักกันที่โฮสเทลในฮานอย ในระหว่างที่เดินก็เจอไปเจอรถแบบนี้ เห็นว่าน่ารักดีเลยถ่ายเก็บไว้สักแชะ :Dโฮสเทลที่เราไปพัก ชื่อว่า The One Hostel ค่ะ เราจองผ่าน Booking (จองล่วงหน้าประมาณ 1 อาทิตย์ ราคา 200,000VNDต่อคน)---> bookingทางโฮสเทลบรรยากาศคือดีมาก ต่างชาติเยอะมาก พนักงานน่ารัก ช่วยเหลือดีมาก มีแมพแนะนำสถานที่เที่ยวให้อีกด้วยจะบอกว่าการจราจรที่ฮานอยตอนกลางคืนคือ ที่สุด!!!!! วุ่นวายที่สุด และที่ชื่อเสียงเลื่องลือมากเรื่องการบีบแตร แกกกกก มาเจอกับตัวคือ เขาบีบแตรกันทุก 2 นาทีกันจริงจ้ะ ขนาดถนนไม่มีอะไรเลยก็บีบเฉย จบทริปบอกเลยกลับมาตรวจหูด่วน อักเสบยัง 55555555 ฉันเกือบโดนสอยไปหลายแหนะพวกแก ใครมาต้องระมัดระวังอย่างสูงเลยค่ะ ขอเตือน 😅วันที่เรามาถึงเป็นช่วง weekend พอดี เราเลยไปเดินเล่นชิวๆที่ "ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม" (Hoan Kiem Lake) ปกติแล้วสถานที่นี้จะมีรถสัญจรไปมา แต่ช่วงเสาร์-อาทิตย์ปุ้บ เขาปิดถนนจ้า ให้เฉพาะคนเดินเท้าและคนที่อาศัยอยู่แถวนั้นขับผ่านด้วยมอเตอร์ไซต์ในทางที่จัดให้เท่านั้น คนที่นั่นก็จะพาครอบครัวมาทำกิจกรรม กิจกรรมมีหลากหลายมากแก ไม่ว่าจะของเล่น กระโดดเชือก ร้องเพลง หรือ traditional show คนที่ไปแถวนั้นก็จะพากันร้องเพลง แล้วก็เต้น ภาษาอังกฤษเรียก vibing กัน แถมยังมีของกินเยอะแยะให้เลือกอีกด้วยนะ บรรยากาศหรือว่า mood ที่นี้คือสุดยอดอ่ะ เราสังเกตุเด็กที่นี่จะเล่นมือถือกันน้อยมาก ส่วนใหญ่ออกมาทำกิจกรรมมาเริ่มแพลนต่อมาเลยค่ะ เช้าวันต่อมาแพลนของเราคือ เราต้องตื่นไปขึ้นรถบัสตอนเช้า คือ 6 โมงเช้า (จะบอกว่าก่อนนอนคือคิดไว้ละว่าจะตื่นตี 4 กว่าๆ ชิวๆ แล้วมาหาของกินที่มินิมาร์ทที่ใกล้กับโอสเทล แต่!!!!! ... ฉันตื่นมาตอนตี 5.50 ค่ะพวกแกก ซึ่งมี 10 นาทีในการมูฟที่จะไปรถบัส หลังจากลืมตาแล้วรู้ตัวว่าสายแน่ๆ ทำทุกอย่างแบบ automatically hurry สุดๆ และด้วยความรีบก็คือไม่ได้อาบน้ำด้วยค่าา อิชั้นแปรงฟันล้างหน้าอย่างเดียว555555) แต่ดีค่ะที่โฮสเทลอยู่ห่างจากจุดขึ้นรถไม่ไกล ใช้เวลาเดินแค่ 2นาที) หลังจากนั้นเราต้องรอขึ้นรถมินิบัสเพื่อที่นั่งไปยังจุดจอดหลักของรถ Sleeping bus ค่ะ3 วัน 2 คืน @SaPaเราจองรถบัสผ่านเว็บนี้ค่ะ --> bookaway ถ้าจำไม่ผิดเราคาจะอยู่ที่ ฿654 ค่ะ (จริงแล้วเราจองเป็นรถอีกประเภทนึงค่ะ แต่เหมือนทางบริษัทแจ้งเราว่ารถมีปัญหาเลยให้เรานั่งรถประเภท VIP Sleeping Bus ซึ่งราคาเต็มจะอยู่ที่ประมาณ 700-800 บาทค่ะ) รถบัสที่เราจองเป็น Sleeping bus ค่ะ เราจองช่วงเวลา รถออก 7 โมงค่ะ --->> ถึง SaPa ประมาณเกือบๆบ่าย 3 ใช้เวลาเดินทางเกือบ 8 ชั่วโมง แวะพักจุดพักรถ 2 ที่ค่ะ (แนะนำไปตอนกลางคืนดีกว่าจะได้ไปถึงตอนกลางวันพอดี เผื่ออยากทำกิจกรรมอย่างอื่นจะได้มีเวลาทำอย่างอื่น)เวลาเลือกให้ดูรีวิวดีดีนะคะ เราเลือกโดยดูว่ารีวิวอันไหนมากสุด ถ้าราคาเมคเซ้นส์ก็จองเลยค่ะโดยรวมบรรยากาศในรถถือว่าโอเค เตียงค่อนข้างกว้าง ในตัวรถไม่มีห้องน้ำนะคะDay 1 @Sapaพอมาถึงทางเดินไปที่พักคือชันมากแม่ เราแนะนำให้ใส่ผ้าใบ หรือรองเท้ากีฬานะคะ ด้วยความที่เมืองของเขาจะเป็นเมืองที่อยู่ในหุบเขาแล้วด้วยความที่อยากจะ อาบน้ำและ lay down ไม่ไหวแล้ว อิชั้นเลยหาทางลัดเดินไปที่พักค่ะ555555 แล้วทางลัดมันจะเป็นตรอกซอยค่ะ คือเนินกว่าทางปกติอีกแกกกก แถมมีบันได โอ้ยยน้ำตาเล็ด น้ำก็อยากอาบ อยากไปถึงไวก็อยาก ฮึดใจเดินค่ะ 55555 เห็นว่ามู้ดกำลังได้เลยแวะถ่ายสักแชะห้องพักคืนที่แรกที่ Sapa เราพักเป็นโฮสเทล เราจองผ่านเว็บนี้เลย -->> hostelworldราคาน่ารักมาก (ประมาณ 180 บาท/คน) ไม่รวมอาหารเช้านะคะ ใครที่มาคนเดียวไม่ต้องห่วงเลยค่ะ Backpacker ที่เดินทางคนเดียวคือมาจากหลายที่มาก พอตกเย็นก็ไป explore the town กัน บรรยาที่คือมัน"เริ่ด"มากพวกแก จะมีเด็กออกมาทำกิจกรรมกัน เหมือนที่ฮานอยเลยแกแต่ที่นี่ตอนเริ่มดึกๆจะมีความคึกครื้นกว่า แสงเสิงจากไฟ คือโคตรสว่าง สว่างแบบเลเวล10 จริงๆนะ 5555555 😂Day 2 @SaPaวันนี้เรามีแพลนที่จะทำกิจกรรม Trekking ค่ะ เราซื้อทัวร์กับที่โฮมสเตย์เราอีกที เรียกว่า Trekking Sapa with Hmong Tour เป็นแพ็คเก็จที่จองพร้อมกับที่พักค่ะจะถูกกว่าปกติ บวกกับที่เรามา 2 คน;เราจ่ายไป $20/คน นะคะ (ประมาณ 600 กว่าบาท) ถ้าไปคนเดียวจะอยู่ที่ $25 นะคะถ้าจำไม่ผิดหากใครสนใจที่ทำกิจกรรมนี้แนะนำให้จองที่พักแบบโฮมเสตย์ แล้วสอบจากที่พักได้เลยนะคะ ส่วนใหญ่เขาจะมีแพ็กเกจให้เลือกพร้อมกับที่พักค่ะระยะเวลา trekking จะอยู่ที่ 5-6 ชั่วโมงค่ะสิ่งที่จะได้จากทัวร์นี้:- ไกด์ที่เป็นชาวม้ง (คนชนเผ่าพื้นเมือง) อยู่กับเราจนจบทริปเลยค่ะ - อาหารเช้า & อาหารเที่ยง- น้ำคนละขวดหมู่บ้านที่เราจะเดินผ่านคือ --> Y Linh Ho, Lao Chai, Bac Ha และ Ta van ก่อนเริ่มทริปเราก็ได้ตกลงกันกับที่พักว่าจะให้ไกด์มารับที่ไหน กี่โมงดี (ปล.คนที่นี่ส่วนใหญ่ใช้ WhatsApp ในการติดต่อนะคะ)เราเริ่มทริปประมาณ 9 โมงกว่าๆค่ะ พอไกด์มาถึงทริปของเราเขาก็มีบริการ luggage carry ค่ะ กระเป๋าของเราจะมีคนเอาไปไว้ที่โฮมสเตย์ที่เราจอง โดยที่เราไม่ต้องแบกไปเดินป่าด้วยค่ะ ถ้าแบกไปมีหลังเดาะ 55555555พอเราขนกระเป๋าเรียบร้อยก็เริ่มทริปเลยค่าา จะบอกว่าไกด์น่ารักมาก พูดภาษาอังกฤษใช้ได้เลยทีเดียว ไกด์ของเราตั้งครรภ์อยู่แต่ดูแข็งแรงกว่าเราอีก เดินกระฉับกระเฉง ไวมากก!! แนะนำให้ใส่รองเท้ากีฬาหรือรองเท้าเดินป่านะคะ บอกเลยเส้นทางที่จะเดินคือแอบโหดอยู่เด้อหญิง โนส้นสูงโนอีแตะนะคะ 555555ก่อนที่จะเดินเข้าป่า ไกด์จะพาเราเดินไปในเมืองเพื่อทานอาหารเช้าก่อนค่ะ ขนาดตอนเช้านะแก แต่รถคือวุ่นวายบ่ไหว เสียงแตรคือไม่มีใครยอมใคร5555555พอทานข้าวเสร็จสับก็เริ่มเดินเข้าป่าเลยจ้าา*อยากเตือนเพื่อนๆที่จะมานะคะ: จากที่เราได้ experience มากับตัว คือก่อนเริ่มทริปจะมีชาวม้งผู้หญิงเดินตามเรามาระหว่างทางที่เราจะเดินเข้าป่า จุดประสงค์ของเขาคือจะตามเรามาเพื่อขายของค่ะ เขาเดินมากับเราตั้งแต่เริ่มจนใกล้จบทริป พอถึงตอนใกล้จบทริปเขาจะขายของเราค่ะ ชาร์จหนักมากเธอ โดยระหว่างทริปเขาจะชวนเราคุยนู่นนี่นั่น ช่วยเหลือเรา being cute บ้าง ต่างๆนาๆ สุดท้ายเราซื้อค่ะ 55555 เพราะเห็นใจเป็นของฝากให้คุณยายพอดี แต่ก็นะราคานักท่องเที่ยวอ่ะแก เขาอุส่าเสียเวลาเดินมากับเราตั้งแต่ต้น แต่ถ้าหากเราไม่สนใจซื้อจริงๆไม่จำเป็นต้องซื้อก็ได้นะคะ แต่ต้องใจแข็วหน่อยนะ เพราะถ้าพวกแกซื้อแล้วจะมีคนเข้ามารุมขายหนักมากค่ะ มารุมเราประหนึ่งเซเลปท่านหนึ่ง 555555 กลับมาที่ทริปกันต่อค่ะ เดินไปไม่นานมาเห็นวิวแบบนี้รู้สึกดีมากๆเลยค่ะ เหมือน soul&body ของเรา ได้connect กับธรรมชาติอีกครั้ง ประทับใจมากที่เลือกที่จะทำกิจกรรมนี้พอเดินผ่านมาสักพักก็ก็จะคอยอธิบายต่างๆนาๆให้เราเป็นพักๆ จนมาถึงตรงนี้คือวิธีที่เขาทำสีเสื้อผ้าแบบดั้งเดิมของชาวม้งที่ัน่นค่ะ ได้รู้ว่าสีเสื้อผ้าที่เขาใช้ย้อมทำมาจากอะไร เสื้อผ้าเขาทำกันยังไง ไกด์ก็พาเราเดินมาเรื่อยๆจนมาถึงต้นที่เขาใช้ย้อมสีผ้าสำหรับ traditional clothes ของชาวม้งที่นั่น มันคือ indigo plant ค่ะ (ภาษาไทยไม่แน่ใจคืออะไร)ไกด์เด็ดใส่มือเรา แล้วก็ให้เราถูวนๆไป แล้วไกด์ ก็บอกกับเราว่าทิ้งไว้สักพักมันจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีฟ้าเรารู้มาจากไกด์ว่า traditional cloths ของชาวม้งทำมาจากต้นกัญชา เขาก็โชว์ให้ดูว่าทำยังไง โดยที่เขาเอา dried cannabis มาทำเป็นเหมือนเส้นด้ายอ่ะแก เราก็แบบ OHHH Interesting! แต่เราไม่ได้ถ่ายไว้ แอบเสียดาย มัวแต่เอนจอย 5555555 เดินมาเรื่อยๆโอ้ยยยย แบบบวิวดีมากกกกก ทุ่งนงทุ่งนา ของจริงแบบสวยมากก แวะถ่ายรูปแปปนึงในส่วนตัวอิชั้นตื่นเต้นกับวิวมากกกพวกแก หลังจากเดินมาเกือบ 2 ชั่วโมง 5555555555 มันคุ้มค่ากับการเดินมากค่ะเดินมาสักพักทุกคนจำชาวม้งที่เราเกริ่นมาก่อนหน้านี้ได้มั้ยคะ ชาวม้งที่เดินตามเรามาขายของนั้นทำสิ่งนี้มาให้เราค่ะ น่ารักมากเลย (แต่ขายของให้ฉันแพงจังเลยแม่คุณ T..T )เดินมาอีกค่ะ เดิน เดิน เดินไปเรื่อยๆ จนมาถึงวิวนาขั้นบันไดนี้ค่ะ อยากอวดมาก เห็นกับตาคือมันสวยมาก (จะบอกว่าที่ซาปาสภาพอากาศในวันเดียวคือมาหมดเลยค่ะ แดด ฝน หมอก ใครไปก็เตรียมเสื้อคุมฝนไปเผื่อด้วยนะคะ) เราว่าเมืองซาปาน่าหลงใหลมากๆเลยค่ะ ใครชอบธรรมชาติแนะนำมากๆเลยค่ะทัวร์แบบนี้ คุ้มมากจริงๆ ส่วนตัวเราแล้วคิดว่าถ้ามีโอกาสจะกลับมาซ้ำแน่นอนค่ะ (ถ้ามีงบนะ 555555)พอถึงเวลาเราก็พักทานข้าวกลางวันกัน ไกด์บอกว่าใกล้ถึงโฮมสเตย์แล้ว กินเสร็จก็เดินต่อค่ะในที่สุด! ก็มาถึงเวลาที่รอคอยค่ะทุ๊กคนน ฉันเดินมาถึงโฮมสเตย์แล้วว ไม่ผิดหวังเลย เจ้าของคือน่ารักมาก คอยช่วยเหลือเกี่ยวกับทริปในเวียดนามเรา ไม่ว่าจะหารถบัสไปอีกเมือง รถเช่าเอย ถือว่า so helpful ค่ะ ประทับใจชื่อโฮมสเตย์: ZiZi Mekhoo Sapa Homestay ราคา 200,000 VND (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 294 บาท) ราคานี้รวมอาหารเช้าด้วยนะคะ ราคาดีมากจนตกใจ เราจองโฮมสเตย์ผ่านเว็บนี้เลยค่ะ --> hostelworldบรรยากาศตอนค่ำๆคือดีมาก ชิวมาก แต่ยุงเยอะใช้ได้ อย่าหานั่งนานดีกว่า 5555555Day 3 @SaPaวันนี้เราแพลนว่าจะเช่ามอเตอร์ไซต์ขี่รอบๆเขาค่ะ แต่ก่อนจำได้ไหมคะที่เราบอกว่าราคาที่พักรวมอาหารเช้าด้วยและนี่คือหน้าตาอาหารเช้าค่ะ อาหารเช้า+วิวภูเขาที่นี่ คนชอบธรรมชาติแบบฉันคืออยากกรี๊ดเลยค่ะพอเอนจอยกับบรรยากาศและอาหารเรียบร้อย ก็ไปเช่ามอเตอร์ไซต์กันต่อค่ะ เราถามเจ้าของโฮมสเตย์ว่าเราจะสามารถเช่าได้ที่ไหนบ้าง เขาก็แนะนำเรามาที่นึง เราเช่ามาในราคา 150,000 VND ค่ะ (~200 กว่าบาท)และนี่คือวิวที่เราเอามาฝากค่ะระหว่างทางฝนตกจ้าา ดีนะที่เตรียมเสื้อกันฝนกันไป ก็ขับลุยฝนไปเลยจ้ะ อย่าไปยอม555555555ปล.วิวคือดีจนอยากกรี๊ดให้ทุกคนฟังวันนี้เราขอจบ Ep.1 ด้วยวิวสวยๆของวันที่ 3 @SaPa ก่อนนะคะ เรายังไม่จบเพียงเท่านี้ค่ะ เดี๋ยวเรากลับมาเขียนต่อนะคะ กลัวเพื่อนเบื่อถ้าเขียนยาว 5555555EPต่อไป จะเป็นเมืองที่เหลือค่ะ ฝากเพื่อนๆทุกคนที่เข้ามาอ่านรอติดตามตอนต่อไปด้วยน้าาใครอยากคอนเท้นท์เที่ยว Real time ฝากเข้ามาติดตามไอจีเราได้เลยน้า Instagram: Hellatiya อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !