หากใครมีโอกาสผ่านไปแถวอ่างศิลาต้องแวะมาสักการะองค์เทพเจ้าหน่าจากันให้ได้ ศาลเจ้าแห่งนี้จัดเป็นศาลเจ้าที่ยิ่งใหญ่สวยงามอลังการ เป็นที่ประดิษฐานขององค์เทพเจ้าซึ่งเป็นที่สักการะบูชาของชาวไทยเชื้อสายจีนมาช้านาน สังเกตได้จากประชาชนที่เข้ามากราบไหว้ตลอดทั้งวันไม่ขาดสาย ศาลแจ้งแห่งนี้ก่อตั้งโดยมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ซึ่งได้พัฒนาสถานที่เรื่อยมาจนมีสิ่งปลูกสร้างที่งดงามมากมาย อาคารที่ต้องแวะเยี่ยมชมกันให้ได้คือวิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิมซึ่งเป็นที่ประดิษฐานองค์เทพเจ้าหน่าจาและเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์มากมาย ภาพจากนักเขียน เมื่อก้าวเข้าสู่บริเวณศาลเจ้าจะได้พบกับองค์เทพเจ้าที่ประดิษฐานตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้าวิหาร ด้วยองค์เทพที่เป็นสีทองอร่ามเมื่อสัมผัสกับกับละอองน้ำพุที่กระเซ็นเป็นสายกระทบกับแสงแดดมองดูแล้วส่องประกายอย่างสวยงาม สำหรับผู้ที่ไม่เคยไปไหว้พระที่ศาลเจ้ามาก่อน จุดเริ่มต้นแรกเลยคือการไหว้ฟ้าดิน ซึ่งแต่ละศาลจะจัดแบ่งสัดส่วนไว้อย่างชัดเจน ส่วนใหญ่จะไหว้ฟ้าดินกันด้านหน้าศาล เมื่อไหว้เสร็จแล้วจึงเข้าไปไหว้ขอพรเทพเจ้าเป็นลำดับต่อไป ภาพจากนักเขียน โดยปกติถ้าไปไหว้เจ้ามักจะต้องจุดธูปกันเป็นกำแล้วยังต้องเดินวนปักธูปกันจนครบทุกจุด แต่สำหรับศาลเจ้าแห่งนี้ทางศาลได้จัดเตรียมกระถางธูปไว้ด้านนอกให้พร้อมแล้ว ไม่ต้องเดินไปไหนไกลจุดธูปไหว้แล้วปักที่กระถางใกล้ ๆ ได้เลย เมื่อไหว้ด้านนอกเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงเดินเข้าไปกราบองค์เทพเจ้าภายในตัววิหารกันต่อไป ภาพจากนักเขียน ก่อนขึ้นไปบนศาลจะได้พบกับเทพเจ้าหน่าจาปราบมังกรองค์สีทองประดิษฐานอยู่บริเวณหน้าบันได แวะถ่ายรูปกันก่อนเข้าไปในวิหาร สำหรับวิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิมแห่งนี้แบ่งออกเป็น 4 ชั้น ชั้นที่ 1 ประดิษฐานพระกษิติครรภโพธิสัตว์ ตามประวัติที่เล่าขานกันมากล่าวว่าพระองค์ทรงมีเมตตาโปรดสัตว์ในภพภูมิต่าง ๆ เพื่อช่วยให้สรรพสัตว์ไปสู่สุขคติพ้นทุกข์ ชั้นที่ 2 ประดิษฐานองค์เทพหน่าจาไท้จือ ซึ่งผู้คนนิยมกราบไหว้ขอพรเพื่อให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรืองและขอพรให้พ้นจากภยันตรายทั้งปวง ชั้นที่ 3 ประดิษฐานองค์เง็กเซียนฮ่องเต้ คนจีนมีความเชื่อว่า เง็กเซียนฮ่องเต้ เป็นองค์เทพที่ดลบันดาลทุกอย่างให้เกิดขึ้นได้ บรรดาผู้ที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานจึงมักนิยมมาขอพรขอให้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นไป ชั้นที่ 4 ประดิษฐานพระศรีศายมนุนีพระพุทธเจ้า เป็นเทพเจ้าอีกพระองค์ที่ผู้คนนิยมเข้ามากราบไหว้ขอลูกกัน ภาพจากนักเขียน เมื่อเดินเข้าสู่ภายในวิหารจะสัมผัสได้ถึงความสวยงามตระการตาขององค์เทพเจ้าแต่ละองค์ รวมถึงภาพเขียนบนฝาผนังที่บอกเล่าเรื่องราวของเหล่าทวยเทพ บริเวณโต๊ะบูชาจะได้พบเห็นแจกันยักษ์ที่วาดลวดลายไว้อย่างวิจิตรบรรจง ทางด้านบนเพดานมีการประดับโคมไฟระย้าที่งดงามชวนมอง ส่งเสริมให้บรรยากาศโดยรวมดูขลังและศักดิ์สิทธิ์น่าเคารพบูชา ภายในวิหารประดับตกแต่งด้วยศิลปะแบบจีนโบราณงดงามตั้งแต่พื้นผนังจรดเพดาน โดยเฉพาะเสาวิหารที่ประดับตกแต่งด้วยมังกรพันรอบเสาดูแล้วน่าเลื่อมใสยิ่งนัก ออกมาด้านนอกอาคารยังได้พบกับประติมากรรมภาพนูนต่ำที่ศิลปินสร้างสรรค์ไว้อย่างสวยงามชวนให้ต้องยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก ภาพจากนักเขียน บริเวณชั้นสองเป็นจุดที่เลยผ่านไปไม่ได้เด็ดขาด เพราะเป็นที่ประดิษฐานขององค์เทพเจ้าหน่าจาไท้ซื้อ ปางประสูติ ปางปราบมารและปางมังกรเก้าตัว (ทางศาลติดป้ายห้ามถ่ายรูปเอาไว้) เดินออกมาด้านนอกจะได้พบกับหอระฆังสีทองใบใหญ่ สามารถตีระฆังได้เพื่อความเป็นสิริมงคล เสียงระฆังก้องกังวาลเปรียบเสมือนเป็นการประกาศชื่อเสียงเรียงนามให้เกริกก้องระบือไกล ภาพจากนักเขียน ทั่วทั้งวิหารจะมีเทพเจ้าประดิษฐานอยู่หลายองค์ เดินไล่เรียงตั้งแต่ชั้นล่างจนถึงชั้นบน ศรัทธาเทพเจ้าองค์ใดเลือกกราบไหว้กันได้ตามความต้องการ เนื่องจากไม่สามารถถ่ายรูปได้จึงขอบอกเล่าเรื่องราวให้ท่านผู้สนใจได้อ่านแทน เทพเจ้าแต่ละองค์ที่ประดิษฐาน ณ ศาลเจ้าแห่งนี้ล้วนแล้วแต่เป็นองค์เทพที่ชาวไทยเชื้อสายจีนศรัทธาเลื่อมใสและนิยมบูชากัน ยกตัวอย่างเช่น เทพเจ้ากวนอู เลื่องลือเรื่องความซื่อสัตย์ กตัญญูรู้คุณและกล้าหาญ ผู้คนนิยมกราบไหว้เพื่อขอให้ปกปักษ์รักษาคุ้มครองให้เจริญรุ่งเรืองและร่ำรวย เทพเจ้าไฉซิงเอี๊ยหรือเทพเจ้าโชคลาภ แสดงถึงความมั่งคั่งร่ำรวย ในที่นี่เป็นปางประทับนั่งบนหลังเสือ ซึ่งมีความเชื่อว่าจะช่วยขจัดปัดเป่าในเรื่องหนี้สินให้หมดสิ้นไป เทพเจ้าไต่เสี่ยฮุกโจ้วหรือเจ้าพ่อเห้งเจีย ชาวจีนเชื่อว่าเป็นเทพประทานความสุขและกำจัดความทุกข์ให้หมดไป สิ่งที่ผู้คนนิยมนำมาถวายคือลูกท้อ ฮัวท้อเซียนซือหรือหมอฮูโต๋ ด้วยสมญานามว่าเป็นหมอเทวดาผู้คนจึงกราบไหว้ขอพรเพื่อให้ท่านช่วยปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ และช่วยปกป้องคุ้มครองให้อายุยืนยาว นอกจากนี้ยังมีเทพเจ้าองค์อื่นซึ่งเป็นที่เคารพสักการะอีกมากมาย สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเดินทางไปกราบสักการะกันได้ทุกวัน ภาพจากนักเขียน เมื่อกราบสักการะองค์เทพจนครบแล้วบริเวณชั้น 4 มีพื้นที่ให้ยืนชมวิวทิวทัศน์ในมุมสูง มองเห็นพื้นที่โดยรอบศาลได้ทั่วบริเวณ ถ้ามองออกไปด้านหน้าจะแลเห็นทะเลอยู่ไกล ๆ จะยืนรับลมชมวิวหรือนั่งชิลที่ม้านั่งก็ได้ตามอัธยาศัย ทางวิหารมีลิฟท์ไว้คอยบริการสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ที่ไม่สะดวกขึ้นลงบันได เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกไว้ให้เป็นอย่างดี การเดินทาง: ตั้ง GPS ไปที่ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ อ่างศิลาได้เลย ศาลตั้งอยู่บนถนน 3134 ถนนเลียบชายทะเล สามารถจอดรถได้ตลอดสองข้างทางหรือจอดในที่จอดรถที่ทางศาลจัดไว้ให้ ช่วงวันหยุดที่จอดรถมักจะเต็มตลอดสองข้างทาง ขอแนะนำให้เตรียมร่มเตรียมหมวกกันแดดไว้ให้พร้อมเผื่อต้องจอดรถไกล เปิดบริการทุกวัน 08:00-17:00 น. ภาพปกจากนักเขียน