หลายคนคงชอบการผจญภัยท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆ ที่สร้างความท้าทาย สนุก เพลิดเพลินตามความชอบที่แตกต่างกันไป วันหยุดของเราก็เช่นกันค่ะ กับการออกตามหาธรรมชาติ เเละ "ยอดเขาเทวดา" อุทยานแห่งชาติพุเตย จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นที่ ที่ต้องบอกว่า "ธรรมชาติมันสวยโดยไม่ต้องเติมแต่งอะไรเลย อาจเข้าถึงยากหน่อยแต่คุ้มค่ากับการได้มาจริงๆ" ขอเล่าถึง การเดินทางก่อนนะคะ จากจังหวัดชัยนาทเราจับเส้นทางไปยอดเขาเทวดาประมาณ 143 กิโลเมตร ใช้เวลา 3 ชั่วโมงกว่าๆ ซึ่งทีแรกก็แปลกใจค่ะว่าทำไมเส้นทางกับเวลาไม่สอดคล้องกัน ด้วยเส้นทางที่ชัน แคบ โค้ง ยิ่งพอเข้าสู่ทางเข้าหมู่บ้านเพียงแค่ 13 กิโลเมตร เราใช้เวลาเดินทางเป็นชั่วโมงเลยค่ะ เนื่องจากถนนค่อนข้างแคบชัน เป็นทางดินไม่เรียบลัดเลาะรอบเขา ต้องบอกว่าในใจภาวนาอย่าให้มอเตอร์ไซร์ หรือมีรถวิ่งตามหลังเเละสวนทางเลย เพราะฝุ่นตลบอบอวนมากๆ ถ้าตามหลังมาติดๆ คงรู้สึกผิดแน่ๆ เลย.... เราขับเข้ามาจะเจอด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ 2 จุด จุดแรกตรวจสอบผ่านการรับวัคซีน และลงชื่อเข้า จุดที่ 2 เป็นจุดเข้าอุทยาน ค่าบริการเข้าคนละ 20 บาท (จุดนี้จะมีลานกางเต็นท์ของทางอุทยาน) ไปต่ออีกไม่ไกลก็จะถึงที่พักของเราแล้วค่ะ เราพักที่ "คุ ลุงด่อง" เป็นลานกางเต็นท์ ซึ่งไม่ไกลจากเส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดเขาเทวดา เพียง 200 เมตร ยอดเขาเทวดา หลายคนให้เป็น "แดนสวรรค์ใกล้กรุง" ซึ่งตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติพุเตย อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี มีระดับความสูง 1,123 เมตร จากระดับน้ำทะเล จากทางขึ้นจุดเริ่มต้นถึงยอดเขาระยะทางเพียง 800 เมตร (แต่ทางขึ้นค่อนข้างชันสูงตลอดทางเลยค่ะ ยิ่งช่วง 400 , 500 เมตรขึ้นทางยิ่งเดินเริ่มยาก ต้องระวังเป็นอย่างมาก) ทุกๆ หนึ่งร้อยเมตรจะมีหลักบอกระยะทางตลอด เวลาเจอหลัก คือดีใจมากๆ เราขึ้นตอนบ่ายสามโมงครึ่งค่ะ ถึงประมาณสี่โมงกว่า ๆ ใช้เวลานานพอสมควร เหนื่อยเอาการอยู่ค่ะกับเส้นทางดินที่พร้อมจะลื่นไถลได้ตลอดเวลาเลยในช่วงท้ายก่อนถึง การเห็นหลัก 800 เมตรคืออะไรที่ชีวิตนี้มาถึงสนุกและท้าทายดีค่ะ พอถึงยอดเขา อยากบอกเลยว่า "ธรรมชาติที่นี่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ สวย สงบ" สามารถชมทิวทัศน์อันงดงามของผืนป่าตะวันตกได้ถึง 3 ป่า ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี และอุทยานแห่งชาติพุเตย จังหวัดสุพรรณบุรี เรานั่งรอดูพระอาทิตย์ตกจนเกือบถึง หกโมงเย็น อากาศข้างบนเย็นสบายมากๆ ระหว่างรอเรานั่งสัมผัสการฟังเสียงลม เสียงนกร้องจากธรรมชาติแบบแท้จริงที่ไม่มีสิ่งรบกวนใดๆ ที่นี่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์หรืออาจมีเป็นบางจุด เราว่า "ธรรมชาติคงอยากให้คนที่มาได้ชื่นชมกับความสวยงามของพวกเขาจริงๆ" และแล้วการรอคอยมันคุ้มค่าสมกับการนั่งรอ พระอาทิตย์ตกของวันนั้นสวยมากจริงๆ ความพิเศษของการเดินทางมันมีหลายรูปแบบนะสำหรับเรา บางเรื่องมันก็ไม่เป็นดังที่เราคิดไว้หรอกเหมือนการรอดูพระอาทิตย์ตกที่ภูกระดึง...เอ้า..เข้าไปในก้อนเมฆซะงั้น แต่ครั้งนี้ไม่ผิดหวังเลย กลับเข้าใจธรรมชาติมากขึ้นว่า "อย่าคาดหวัง แต่จงให้ออกตามหาช่วงเวลาที่เหมาะสมให้เจอ แล้วทุกอย่างมันจะเกิดความพิเศษกับเราเอง" 18.10 น. ถึงเวลาลงแล้วค่ะ ทีแรกว่าจะมาดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าอีก คงไม่ไหวแล้ว.......ช่วงลงไถลไวหน่อย มีไถก้นลงดินสไลfNลงกลางทาง 555 หัวเราะตัวเอง ด้วยความเงียบ ความมืด ขำตัวเองจนหายกลัว กลับถึงที่แคมป์ด้วยเรื่องที่น่าจดจำ ขอเล่าถึง ลานกางเต็นท์ "คู่ ลุงด่อง" หน่อยนะคะ อยู่ใกล้กับทางขึ้นยอดเขาเทวดาเลย วิวรอบๆลานกางเต็นท์มองแล้วสบายตามากๆ ลุงด่องเจ้าของแกมีความเป็นกันเอง ได้เห็นความน่ารักของน้องหมาที่มาอยู่กับแก แกบอกช่วงนี้คนมาพักไม่เยอะเท่าไหร่ จะมาพิชิตยอดเขาเทวดาไม่รู้จะพักที่ไหน คู่ ลุงด่อง เราแนะนำเลยค่ะ "ธรรมชาติเป็นสิ่งที่สวยงาม เพียงแต่ขอให้เราเข้าไปสัมผัสมันให้ถึง เท่านั้นเอง" การเดินทางของคุณเป็นแบบไหนกันบ้างคะ ได้รอยยิ้มของความสุขกันเยอะเลยใช่มั้ย ทุกๆการเดินทาง คุณเจอคนแปลกหน้าที่มีความชอบเหมือนกับคุณด้วยใช่มั้ย ยิ่งถ้าเคยไปสถานที่ที่เดียวกันมา...คุณกับเขาจะคุยกันเหมือนรู้จักกันมานานแสนนาน นี่แหละนะ...ว่าด้วยเรื่องดีๆของการเดินทาง ภาพสุดท้ายนี้ก็อีกหนึ่งมิตรภาพดีๆ ที่เจอค่ะ กับเรื่องบางเรื่องอาจจะดูเล็กน้อย แต่ยิ้มได้แบบไม่ต้องมาหาเหตุผลอะไรให้มากมายเลย ถ้าเจอน้องอย่าลืมจ่ายค่าผ่านทางน้องนะคะภาพประกอบบทความจากเพจ : ไปเที่ยว มาเล่าข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.facebook.com/PSunan1990🧳 ไปเที่ยวแล้วประทับใจแวะมาแชร์ประสบการณ์ความฟินในคอมมูนิตี้ TrueID Travel กันได้เล้ย 🚐✨เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี